ปาฏิหารย์เพราะบุญบารมืหรืออย่างไร กำหนดไว้อย่างลงตัวเป็นข้นตอนพอดีทีเดียวว่า เมื่อถึงเวลานั้นดิฉันจะต้องไปอินเดืย เพื่อร่วมสาธยายพระไตรปิฎก
ก่อนไปนั้นดิฉันไม่ใช่นักแสวงบุญ ไม่ไช่นักปฏิบัติธรรมแต่หลังกลับจากอินเดีย ทุกวันนี้ดิฉันเข้าวัดฟังธรรมไปถือศีล ปฏิบัติธรรมในวันพระ และเมื่อมีกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วยจิตที่เลื่อมใส ศรัทธายิ่ง (แต่ยังไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมตัวจริงเพราะยังมีกิเลสมากโขอยุ๋)
เบื้องแรกเมื่อออกจากราชการ(เออร์รี่)ได้มีญาติธรรมสายบุญก็ว่าได้มาติดต่อหาอาสาสมัครไปช่วยในงานสาธยายพระไตรปิฏกในปี ๒๕๕๒ ปีนั้นประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ดิฉันตกลงรับไปเป็นอาสาสมัครทันทีแบบปาฏิหารย์จริงๆ โดยมีบุตรสาว ๒ คน ยินดีออกค่าเครื่องบินและค่าใช้จ่ายทั้งหมด ๓ ปี ติดต่อกัน (ปี ๒๕๕๒ -๒๕๕๓-๒๕๕๔ )
ร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก ๑o วัน เริ่ม ๑ - ๑o ธค ๕๒ ปีนี้ประเทศธิเบตได้เข้ามาจัดสถานที่บวงสรวงและร่วมสาธยายด้วย ที่บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในพระมหาเจดีย์พุทธคยาซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มีท่าน "ดาลัยลามะ " และรองของท่านทั้งสองพระองค์ได้ร่วมมากราบไหว้และสาธยายพระไตรปิฎกด้วย
ไม่น่าเชื่อดิฉันตัวจิ๊บจ้อยแค่นี้ จะมีบุญได้มากราบท่านอย่างใกล้ชิดถึงอินเดียด้วยปาฏิหารย์จริงๆ มีน้อยคนนักอย่างชาวไทยที่จะได้พบและได้กราบท่าน และได้ฟังการสวดมนต์ของพระสงฆ์ชาวธิเบต เสียงดังอื้ออึงกึกก้องทั่วบริเวณ ได้ฟังแล้วแสนปลื้มใจยิ่งนัก(เป๊ะเว่อร์) และยังได้ฟังการสวดมนต์ของพระสงฆ์ชาวพุทธทั่วโลก เช่นศรีลังกา เวียดนาม พม่า ลาว เป็นต้น ช่างเป็นปาฏิหารย์อย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญมีความสุขใจยิ่งนัก เมื่อดิฉันได้ร่วมสาธยายพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และดิฉันก็ติดใจอย่างที่สุด จนปีต่อมา พศ. ๒๕๕๓ ญาติธรรมคนเดิมติดต่อมาขออาสาสมัครไปอินเดียอีก ดิฉันตอบรับสมัครไปทันที
ในปี พศ. ๒๕๕๔ ดิฉันได้เดินทางไปด้วยตนเองด้วยความสมัครใจโดยมีสามีเป็นผู้ติดตามไปด้วย ....จบปาฏิหารย์ภาคแรก
แชร์ประสบการณ์ปาฎิหารย์ทำให้ได้ไปสาธยายพระไตรปิฎกทื่อินเดีย
ก่อนไปนั้นดิฉันไม่ใช่นักแสวงบุญ ไม่ไช่นักปฏิบัติธรรมแต่หลังกลับจากอินเดีย ทุกวันนี้ดิฉันเข้าวัดฟังธรรมไปถือศีล ปฏิบัติธรรมในวันพระ และเมื่อมีกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วยจิตที่เลื่อมใส ศรัทธายิ่ง (แต่ยังไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมตัวจริงเพราะยังมีกิเลสมากโขอยุ๋)
เบื้องแรกเมื่อออกจากราชการ(เออร์รี่)ได้มีญาติธรรมสายบุญก็ว่าได้มาติดต่อหาอาสาสมัครไปช่วยในงานสาธยายพระไตรปิฏกในปี ๒๕๕๒ ปีนั้นประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ดิฉันตกลงรับไปเป็นอาสาสมัครทันทีแบบปาฏิหารย์จริงๆ โดยมีบุตรสาว ๒ คน ยินดีออกค่าเครื่องบินและค่าใช้จ่ายทั้งหมด ๓ ปี ติดต่อกัน (ปี ๒๕๕๒ -๒๕๕๓-๒๕๕๔ )
ร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก ๑o วัน เริ่ม ๑ - ๑o ธค ๕๒ ปีนี้ประเทศธิเบตได้เข้ามาจัดสถานที่บวงสรวงและร่วมสาธยายด้วย ที่บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในพระมหาเจดีย์พุทธคยาซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มีท่าน "ดาลัยลามะ " และรองของท่านทั้งสองพระองค์ได้ร่วมมากราบไหว้และสาธยายพระไตรปิฎกด้วย
ไม่น่าเชื่อดิฉันตัวจิ๊บจ้อยแค่นี้ จะมีบุญได้มากราบท่านอย่างใกล้ชิดถึงอินเดียด้วยปาฏิหารย์จริงๆ มีน้อยคนนักอย่างชาวไทยที่จะได้พบและได้กราบท่าน และได้ฟังการสวดมนต์ของพระสงฆ์ชาวธิเบต เสียงดังอื้ออึงกึกก้องทั่วบริเวณ ได้ฟังแล้วแสนปลื้มใจยิ่งนัก(เป๊ะเว่อร์) และยังได้ฟังการสวดมนต์ของพระสงฆ์ชาวพุทธทั่วโลก เช่นศรีลังกา เวียดนาม พม่า ลาว เป็นต้น ช่างเป็นปาฏิหารย์อย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญมีความสุขใจยิ่งนัก เมื่อดิฉันได้ร่วมสาธยายพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และดิฉันก็ติดใจอย่างที่สุด จนปีต่อมา พศ. ๒๕๕๓ ญาติธรรมคนเดิมติดต่อมาขออาสาสมัครไปอินเดียอีก ดิฉันตอบรับสมัครไปทันที
ในปี พศ. ๒๕๕๔ ดิฉันได้เดินทางไปด้วยตนเองด้วยความสมัครใจโดยมีสามีเป็นผู้ติดตามไปด้วย ....จบปาฏิหารย์ภาคแรก