ออกตัวก่อนว่าผมทำงานอยู่กับช่วงวัยของเด็กรุ่นใหม่ แล้วก็ลากยาวไปถึงผู้ใหญ่หัวใจเด็ก ไปดูหนังเรื่องนี้ตามเสียงวิจารณ์ด้านดีที่บอกต่อกันมา ถึงขนาดว่าดีที่สุดของหนังไทยแห่งปี ส่วนตัวปีนี้ก็ยังให้เกรียนฟิกชั่นเป็นหนังที่ดูแล้วยกให้ดีที่สุด ณ ตอนนี้ ซึ่งเกรียนฟิกชั่นเป็นหนังที่สะท้อนปัญหาของเด็กและครอบครัว การศึกษาไทยหลายอย่างออกมาเหมือนกัน แต่หนังมีทางออกของปัญหาสอดแทรกไว้ด้วย ต่างกับตั้งวงที่เน้นหยิบจับปัญหาเหล่านี้มาใส่ไว้ ไปถึงเรื่องระดับชาติอย่าง นปช. เสื้อแดงไว้ด้วย
แน่นอนว่าหนังไม่ได้ต้องการจะชี้ทางออกให้ประเทศเพราะคนทำหนังเองก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แต่การที่ตัวหนังเลือกหยิบมาแต่ปัญหาแล้วมองด้านเดียวนี่แหละครับที่ผมว่ามันไม่แฟร์กับสิ่งที่เด็กเขารักเขาชอบ อย่างการเต้น cover dance ชอบนักร้องเกาหลี/การติดเกมแล้วแสดงออกรุนแรง/ การติดการ์ตูน
สิ่งเหล่านี้หรือทุกสิ่งมันมีทั้งด้านดีและแย่ การติดอะไรแบบหนึ่งหนักๆ มันจะดูไม่ดีในสายตาคนทั่วไปก็เพราะรู้สึกว่า "มันไม่ทำเงิน เสียเวลา" แต่ในความเป็นจริงเด็กในเจเนเรชั่นตอนนี้เขาก็มีโลก มีสังคมทีแตกต่างไปจากรุ่นก่อนมาก การที่เสนอสิ่งเหล่านี้ออกมาแต่ในด้านที่ดูไม่ดี ถ้าให้เด็กวัยในเรื่องทั่วไปมาดูเรื่องนี้ก็คงไม่ชอบสักเท่าไหร่ เขาก็มีเหตุผลของเขา ต้องเข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นมันก็มาจากธุรกิจของผู้ใหญ่ ตั้งเป้ามาหากินกับเด็กอยู่แล้ว ถ้าไม่ต้องการให้มีอะไรแบบนี้ก็ต้องปิดประเทศสถาณเดียว
ถ้ามองกันดีๆ ทำไมประเทศเหล่านั้นเขากลับไม่ได้มีปัญหาแบบนี้หมักหมมจนเละเทะ กลับกลายเป็นว่าเขาสร้างงานสร้างอาชีพจากสิ่งเหล่านี้ให้กับเด็กรุ่นก่อนๆ โตมาทำงานด้านนี้และทำให้กลายเป็นอาชีพ เป็นความชอบในสิ่งที่รักจนกลายมาเป็นงานเป็นการได้ นั่นก็เป็นเพราะผู้ใหญ่เราเองนี่แหละที่มีปัญหาไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เอง เลือกมองแต่ด้านเสียและนำมาขยายผล ไม่พยายามสนับสนุนส่งเสริมให้เป็นระบบจนสามารถนำมาเป็นอาชีพได้ แถมนิยมนำสิ่งเหล่านี้มาหากินกับเด็ก โดยขาดการบริหารคืนกำไรให้กับสังคม ขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบ
ผมเลยไม่คิดว่าตั้งวงจะเป็นหนังที่ดีในแง่ที่ต้องชื่นชมให้ทุกคนดูสักเท่าไหร่นัก เพราะหนังเลือกแต่ปัญหาด้านเดียวมาเรียงร้อยต่อกัน แน่นอนว่านี่เป็นหนังที่ดีที่กล้าพูดเรื่องเหล่านี้ ทำให้คนคิด แต่ในความเป็นจริงเราทุกคนก็รู้ แต่ไม่ช่วยกันแก้อยู่ดี พอมีหนังที่ยกเอาเรื่องนี้มาพูดก็ชื่นชมกันโดยที่ไม่เสนอทางออกให้เห็นเลย
ส่วนที่ผมชอบเรื่องนี้ที่สุดคือ ตอนท้ายที่คนมารุมหัวเราะเยาะตัวเอกในเรื่องที่ใส่ชุดรำไทยแก้บน มันทำให้เห็นเลยว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่มองแต่ภายนอก มองแบบผิวเผิน หัวเราะกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันไม่ดี เชย ไร้สาระ นั่นก็เปรียบเหมือนกับเรื่อง เกม การ์ตูน cover dance ในเรื่อง เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ได้เข้ามาสัมผัสหรือสนใจว่าทำไมพวกเด็กเหล่านี้เขาถึงชื่นชอบมัน (ไม่ใช่การมโนภาพไปเอง) ถ้าคุณคิดอย่างนั้นนั่นแหละคุณเองก็เป็นตัวปัญหาคนนึงของประเทศไทยนี้เช่นกันครับ
"ตั้งวง"หนังที่ผู้ใหญ่เลือกแต่หยิบจับปัญหาของเด็กมาพูด โดยไม่ได้เข้าใจลึกถึงความต่างของเจเนเรชั่น
แน่นอนว่าหนังไม่ได้ต้องการจะชี้ทางออกให้ประเทศเพราะคนทำหนังเองก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แต่การที่ตัวหนังเลือกหยิบมาแต่ปัญหาแล้วมองด้านเดียวนี่แหละครับที่ผมว่ามันไม่แฟร์กับสิ่งที่เด็กเขารักเขาชอบ อย่างการเต้น cover dance ชอบนักร้องเกาหลี/การติดเกมแล้วแสดงออกรุนแรง/ การติดการ์ตูน
สิ่งเหล่านี้หรือทุกสิ่งมันมีทั้งด้านดีและแย่ การติดอะไรแบบหนึ่งหนักๆ มันจะดูไม่ดีในสายตาคนทั่วไปก็เพราะรู้สึกว่า "มันไม่ทำเงิน เสียเวลา" แต่ในความเป็นจริงเด็กในเจเนเรชั่นตอนนี้เขาก็มีโลก มีสังคมทีแตกต่างไปจากรุ่นก่อนมาก การที่เสนอสิ่งเหล่านี้ออกมาแต่ในด้านที่ดูไม่ดี ถ้าให้เด็กวัยในเรื่องทั่วไปมาดูเรื่องนี้ก็คงไม่ชอบสักเท่าไหร่ เขาก็มีเหตุผลของเขา ต้องเข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นมันก็มาจากธุรกิจของผู้ใหญ่ ตั้งเป้ามาหากินกับเด็กอยู่แล้ว ถ้าไม่ต้องการให้มีอะไรแบบนี้ก็ต้องปิดประเทศสถาณเดียว
ถ้ามองกันดีๆ ทำไมประเทศเหล่านั้นเขากลับไม่ได้มีปัญหาแบบนี้หมักหมมจนเละเทะ กลับกลายเป็นว่าเขาสร้างงานสร้างอาชีพจากสิ่งเหล่านี้ให้กับเด็กรุ่นก่อนๆ โตมาทำงานด้านนี้และทำให้กลายเป็นอาชีพ เป็นความชอบในสิ่งที่รักจนกลายมาเป็นงานเป็นการได้ นั่นก็เป็นเพราะผู้ใหญ่เราเองนี่แหละที่มีปัญหาไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เอง เลือกมองแต่ด้านเสียและนำมาขยายผล ไม่พยายามสนับสนุนส่งเสริมให้เป็นระบบจนสามารถนำมาเป็นอาชีพได้ แถมนิยมนำสิ่งเหล่านี้มาหากินกับเด็ก โดยขาดการบริหารคืนกำไรให้กับสังคม ขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบ
ผมเลยไม่คิดว่าตั้งวงจะเป็นหนังที่ดีในแง่ที่ต้องชื่นชมให้ทุกคนดูสักเท่าไหร่นัก เพราะหนังเลือกแต่ปัญหาด้านเดียวมาเรียงร้อยต่อกัน แน่นอนว่านี่เป็นหนังที่ดีที่กล้าพูดเรื่องเหล่านี้ ทำให้คนคิด แต่ในความเป็นจริงเราทุกคนก็รู้ แต่ไม่ช่วยกันแก้อยู่ดี พอมีหนังที่ยกเอาเรื่องนี้มาพูดก็ชื่นชมกันโดยที่ไม่เสนอทางออกให้เห็นเลย
ส่วนที่ผมชอบเรื่องนี้ที่สุดคือ ตอนท้ายที่คนมารุมหัวเราะเยาะตัวเอกในเรื่องที่ใส่ชุดรำไทยแก้บน มันทำให้เห็นเลยว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่มองแต่ภายนอก มองแบบผิวเผิน หัวเราะกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันไม่ดี เชย ไร้สาระ นั่นก็เปรียบเหมือนกับเรื่อง เกม การ์ตูน cover dance ในเรื่อง เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ได้เข้ามาสัมผัสหรือสนใจว่าทำไมพวกเด็กเหล่านี้เขาถึงชื่นชอบมัน (ไม่ใช่การมโนภาพไปเอง) ถ้าคุณคิดอย่างนั้นนั่นแหละคุณเองก็เป็นตัวปัญหาคนนึงของประเทศไทยนี้เช่นกันครับ