อันว่าด้วย คนนอร์เวย์ ในความเห็นส่วนตัว

ต่อเนื่องจากเรื่อง คนเกาหลี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คนไต้หวัน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก็เห็นจะเป็นคนนอร์เวย์อีกชาติที่ผู้เขียนมีโอกาสได้ทำความรู้จักผ่านการทำงานร่วมกัน วันนี้เลยจะมาเล่าถึงคนนอร์เวย์และประเทศนอร์เวย์เท่าที่รุ้จัก

ประเทศนอร์เวย์ตามตำแหน่งที่ตั้งแล้วอยู่แถวสแกนดิเนเวีย ประเทศเป็นแถบยาวๆ ติดมหาสมุทรอาร์กติก ส่วนด้านแผ่นดินก็ติดกับประเทศฟินแลนด์และรัสเซีย เป็นประเทศที่มีฤดูหนาวยาวนาน และฤดูร้อนสั้นนิดเดียว แต่ถึงแม้หน้าร้อนจะแสนสั้น คนไทยก็ยังนิยมไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นั่น นัยว่ามันแปลกและไม่ร้อนเลยสำหรับคนไทยอย่างเรา

สมัยก่อนนู้นที่การบินไทยยังไม่มีเที่ยวบินตรง กรุงเทพ-ออสโล เวลาจะไปนอร์เวย์ ก็ต้องเปลี่ยนเครื่องกันไม่ stockholm, copenhegen, paris ก็ london ทำให้ผู้เขียนได้อาศัยเที่ยวประเทศเหล่านี้ไปด้วย อ้อ ยกเว้นอังกฤษ เพราะประเทศอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ไม่ยอมเข้าร่วม schenken เวลาจะไปอังกฤษก็เลยต้องขอวีซ่าแยกต่างหาก

คนนอร์เวย์เขาถือว่าตัวเองเป็นลูกหลานไวกิ้ง (ที่จริงคนเดนมาร์กก็ไวกิ้งเหมือนกัน สมัยโบราณเขาคงไม่แบ่งแยกประเทศ ไวกิ้งก็ใช้ชีวิตอยู่แถบๆ สแกนดิเนเวียนี่แหล่ะ) กับเป็นลูกหลานทรอล (troll)  (ดังนั้นของฝากจากนอร์เวย์ ก็หนีไม่พ้นตุ๊กตาไวกิ้ง ทรอล อ้ออีกอย่างก็กวางเรนเดียร์)

  

ซึ่งถ้าพิจารณารูปร่างหน้าตาคนนอร์เวย์ส่วนใหญ่แล้วก็พออนุมานได้ว่า น่าจะสืบเชื้อสายมากจาก troll จริงๆ นั่นแหล่ะ  คนนอร์เวย์นอกจากจะรูปร่างสูงใหญ่ตามสไตล์ยุโรปแล้ว สิ่งที่สามารถแยกแยะคนนอร์เวย์จากคนฟินแลนด์ เดนมาร์ก และสวีเดน ก็คงจมูกที่คล้ายตัวทรอลนี่ละมั๊ง  

หน้าตาคนนอร์เวย์อาจจะดูไม่ค่อยเป็นมิตร เพราะไม่ช่างยิ้มเหมือนทางยุโรปอื่นๆ แม้หน้าตาจะดูจริงจังออกไปทางดุๆหน่อย แต่คนเรานั้นดูกันที่ภายนอกไม่ได้ สำหรับผู้เขียนแล้ว คนนอร์เวย์เป็นคนใจดีและเป็นมิตรที่ดีเลยล่ะ  (ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยหาทางจะไปซุปเปอร์มาเก็ต ถามทางคุณลุงที่เดินผ่านมา แกอธิบายทางให้ก็แล้ว ผู้เขียนก็ยังงงๆ แกถึงขึ้นจูงมือพาไปส่งถึงซุปเปอร์มาเก็ตกันเลย)

เวลาทำงานคนนอร์เวย์ก็แสนจะจริงจัง อืม แทบทุกคน เหมือนประเทศนี้ปลูกฝังมาให้ทำงาน แบบตรงไปตรงมาและจริงจังมาก จำได้ว่า ตอนที่รุ้จักกันใหม่ๆ เข้าประชุมด้วย นึกว่าไปอยู่ท่ามกลางสมรภูมิทางทหาร ตอนประธานาธิบดีจะสั่งถล่มประเทศศัตรูด้วยขีปนาวุธ  แต่หลังจากรู้จักกันสักพัก พอคุ้นๆ กันก็ชินล่ะ เค้าเป็นของเค้าอย่างนี้เอง พอนอกเวลาทำงานก็คุยเล่นกันเป็นคนปรกติเหมือนเราๆท่านๆ นี่แหล่ะ

คนนอร์เวย์บ้าเรือ ทั้งที่การเป็นเจ้าของเรือจะแพงแสนแพงแล้ว แถมยังต้องเสียค่าที่จอดเรือรายปี และปีทั้งปีก็จะมีแค่ช่วงหน้าร้อนสั้นๆ ที่เอาเรือออกล่องได้ แต่คนนอร์เวย์ก็ยังยินดีจะเก็บเงินเก็บทองเป็นเจ้าของเรือยอร์ชกับเขาสักลำ



ผู้เขียนได้รู้จักคนนอร์เวย์คนหนึ่ง ที่เป็นผ่อนเรือใบมูลค่าราวสิบ-ยี่สิบล้านบาท แล้วพี่แกต้องประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการห่อแซนด์วิชจากบ้านมากินมื้อกลางวันทุกวัน แต่กระนั้นแกก็มีความสุขมากที่ได้เป็นเจ้าของเรือลำนี้  ผู้เขียนได้มีโอกาสลงเรือของแก เห็นแล้วก็สมควรภูมิใจจริงๆ เป็นเรือที่กลางใบก็ได้ ใช้เครื่องก็ได้ มีปีกกางออกไปรับลมนอกเรือ ในเรือก็มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว พร้อมสรรพ แกเล่าว่าหน้าร้อนก็ไม่ไปไหนให้เสียเงินเสียทองกันล่ะ 4 คนพ่อ แม่ ลูก 2 ก็นั่งๆ นอนๆ ล่องเรือรอบๆ สแกนดิเนเวียนี่แหล่ะ (เล่าไปก็อิจฉานะเนี่ย)

คนนอร์เวย์บ้าสกีด้วย ไม่รู้ว่าเด็กที่นี่เกิดมาพร้อมสกีเลยรึเปล่า ยิ้ม  ผู้เขียนเคยเห็นคนนอร์เวย์สกีมาทำงานด้วยนะ อาการเหมือนเราปั่นจักรยานมาทำงาน แต่เขาสกีมาทำงาน เท่ห์มั๊ยล่ะ

พูดถึงสกีแล้วก็นึกขึ้นมาได้ คนนอร์เวย์เคยพาไป museum เกี่ยวกับสงครามและเล่าประวัติช่วงสงครามที่โดนรัสเซียบุก แล้วคนของเขาต่อสู้ด้วยการสกีไปรบไป ยังสามารถรับมือกับทหารโซเวียตที่มีจำนวนและอาวุธยุโธปกรณ์มากกว่าตั้งเยอะได้อย่างน่าทึ่ง



ผู้เขียนมีความทรงจำดีๆ กับประเทศและคนนอร์เวย์หลากหลายเรื่อง เนื่องจากช่วงหนึ่งเคยไปๆมาๆ รวมแล้วก็เป็นสิบครั้ง เดินถนน Karl Johans Gate เสียจนจำได้ว่าร้านอาหารจีนอยู่แถวไหนบ้าง ไป Viking Museum และ Vigeland Sculpture Park เสียจนจำได้ทะลุปรุโปร่ง มีเรื่องอีกมากมายที่อยากเล่าอยากแชร์ แต่เกรงว่ากระทู้จะยาวไปไม่มีคนอ่าน

ดังนั้นจบไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า ยิ้ม

ป.ล. หลังจากอ่านเรื่องนี้ ใครไปเที่ยวนอร์เวย์แล้วเจอคนนอร์เวย์ก็อย่าไปนึกกลัวที่หน้าตาเค้าดูจริงจังอะไรนะ เค้าใจดีกว่าที่คิดเยอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่