เรื่องมีอยู่ว่า เราพาน้องคนเกาหลีสองคนไปเพนท์เล็บค่ะ น้องเค้าอยากทำเล็บ แต่มีเวลาจำกัด เราก็เลยเดินดูแถวๆ 29 Plaza เพราะเห็นว่ามีร้านเพนท์เล็บเยอะดี ทีนี้ เราเห็นร้านนี้พอจะมีที่เหลืออยู่บ้าง เีราเลยพาน้องเค้าเข้าไปดูลายเพนท์ค่ะ คุณป้าคนนึงก้พูดด้วยน้ำเสียงต้อนรับว่า เลือกลายก่อนได้นะคะ
แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนนึงพูดขึ้นมาว่า นั่งก่อนได้นะคะ แต่พอเราหันไปถามคุณป้าที่ชวนให้เลือกลายว่า ทำได้เลยมั้ยคะ คุณป้าคนนั้นบอกว่า ทำได้เลยค่ะ แล้วพอน้องสองคนเลือกลายเสร็จ ก้ไปนั่งทำค่ะ เริ่มทำได้ซักพัก คุณพ่อของน้องสองคนโทมาหาเราค่ะ ถามว่าทำอะไรกันอยู่ที่ไหน เราเลยตอบไปว่า ทำเล็บอยู่ เค้าก็ถามเราว่า อีกนานมั้ย เพราะเค้าจะพาไปทานข้าว เราเลยหันไปถามป้าคนนั้นว่า อีกประมานกี่นาทีคะ ป้าคนนั้นพูดกระชากเสียงและเหวี่ยงเราอย่างน่าเกลียดมากว่า "โอ๊ยย.... อย่าถามไปนาทีเลย เป็นชั่วโมงโน่น แค่ทาสีก็ 40 นาทีแล้ว" เรานึกในใจ ทำไมต้องพูดจาไม่ดีด้วย แค่บอกว่า เกือบชั่วโมงค่ะ แค่นี้ไม่ได้หรือไงกัน
เล่าสู่กันฟังค่ะ ป้าคนนั้นจะหน้าตาดุๆ ผมยาวๆ ผิวคล้ำๆ
คนเราค้าขายทำงานบริการน่าจะพูดกันดีๆก็ได้ อย่างน้อยก็คนไทยเหมือนกัน
ร้านเพนท์เล็บที่ 29 Plaza ชื่อร้าน Nail 20
แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนนึงพูดขึ้นมาว่า นั่งก่อนได้นะคะ แต่พอเราหันไปถามคุณป้าที่ชวนให้เลือกลายว่า ทำได้เลยมั้ยคะ คุณป้าคนนั้นบอกว่า ทำได้เลยค่ะ แล้วพอน้องสองคนเลือกลายเสร็จ ก้ไปนั่งทำค่ะ เริ่มทำได้ซักพัก คุณพ่อของน้องสองคนโทมาหาเราค่ะ ถามว่าทำอะไรกันอยู่ที่ไหน เราเลยตอบไปว่า ทำเล็บอยู่ เค้าก็ถามเราว่า อีกนานมั้ย เพราะเค้าจะพาไปทานข้าว เราเลยหันไปถามป้าคนนั้นว่า อีกประมานกี่นาทีคะ ป้าคนนั้นพูดกระชากเสียงและเหวี่ยงเราอย่างน่าเกลียดมากว่า "โอ๊ยย.... อย่าถามไปนาทีเลย เป็นชั่วโมงโน่น แค่ทาสีก็ 40 นาทีแล้ว" เรานึกในใจ ทำไมต้องพูดจาไม่ดีด้วย แค่บอกว่า เกือบชั่วโมงค่ะ แค่นี้ไม่ได้หรือไงกัน
เล่าสู่กันฟังค่ะ ป้าคนนั้นจะหน้าตาดุๆ ผมยาวๆ ผิวคล้ำๆ
คนเราค้าขายทำงานบริการน่าจะพูดกันดีๆก็ได้ อย่างน้อยก็คนไทยเหมือนกัน