ที่ว่าเป็นยา มีคุณสมบัติ เป็นสรรพยาน๊ะจริง แต่ไม่ไช่กินมาก
คือ อารมย์ของคนที่กินใบกระท่อมคือ  ตอนแรก กินเข้าไปแล้ว มันสู้แดด คลายเมื่อยดี ครับ พอครั้งที่สองครั้งที่สาม ก็ยังดีอยู่  แต่ถ้ากินไปติดต่อกันสักเดือน วันละสองใบ ที่นี้แหละ คือ วันใหนไม่ได้กินกระท่อมจะรู้สึกปวดเมื่อย คันคอ อยากไอ หาว แต่พอได้กินไปแล้ว ก้จะเป็นปรกติ  คือไม่ปวดเมื่อแระ ไม่คันคอไม่ไอ แต่ไม่ได้ทำให้ขยันขึ้น คือ ถ้าเราไม่ไปทานมันวันแรก วันต่อต่อไป ก้ไม่จำเป้นต้องกินมัน ฉนั้น มันคือสารเสพติดครับ
แต่ทีนี้มันก้มีประโยชนืเป็นยาได้ คือ ใช้รักษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง ปวดเบ่ง ปวดเมื่อยร่างกาย ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ท้องร่วง แต่มันจะจำเป็นอะไรในเมื่อเรามียาแผนปัจจุบันอยู่แล้ว ซึ่งให้ผลดีกว่า ส่วนเรืองที่ว่า คนติดกระท่อมแล้ว คลั่งนี้ ไม่จริงน๊ะครับ  มันโม้!
เรื่องกฎหมาย ผมพูดเป็นภาษาชาวบ้านน๊ะครับ ทุกวันนี้ ชาวบ้านที่หนองจอก ก้กินกัน ตำรวจไม่จับ จะจับก้แต่เฉพาะบ้านที่ปลูกมากเป็น สวนเป็นไร่ แบบนั้น โดนจับโดนโค่นต้นชั่งน้ำหนักปรับเป้นแสนครับ แต่ถ้าปลูกต้นเดียว หยั่งดี ตำรวจก้แค่มาเตือนให้ตัดทิ้งถ้ามันใหญ่เกินไป  ที่นี้ ชาวบ้านที่กินใบกระท่อม เนี๊ย เค้ากินกันตำรวจไม่จับอยู่แล้ว  แต่ถ้าเรามาเปิดกว้างว่า มันไม่ผิดกฏหมาย มันก็จะหนักสิครับ ที่นี้ สี่คูณร้อยบ้างอะไรบ้างก้จะเปิดขายกันแบบเสรี  ทุกวันนี้ ร้าน บารากู่ เปิดเสรีก้กลายเป็นสถานที่ซ่องสุมในชุมชนแข่งกับร้านเน๊ตมากพออยู่แล้วครับ
ส่วนที่ว่า ถ้าให้ใบกระท่อมไม่ผิดกฎหมายแล้ว ยาบ้าจะลดลง คนคิด "ไม่ฉลาดครับ" คุณจะปราบยาบ้า คุณก็ต้องไปปราบยาบ้า ปราบแหล่งขายแหล่งผลิต มีอย่างเรอะ จะปราบยาบ้าด้วยการให้มาติดกระท่อมแทน ตรรกะนี้ป่วยน๊ะครับ อีกอย่างมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ เพราะ ยาบ้ามันแรงกว่ากระท่อมเยอะ ต่อให้ทำจริง ก้ไม่มีขี้ยาที่ใหนมันจะเลิกยาบ้าหันมากินกระท่อมหรอกครับ  "มันไม่มันส์" ครับ เชื่อผม