สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นศิษย์เก่าเซนต์ฟรังค่ะ ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยนะคะ อาจจะยาวนิดหน่อย
เคยเรียนตั้งแต่ ป.1 - ม.3 ค่ะ จากนั้นไปต่อเตรียมอุดม(ใหญ่) แล้วเข้ารัฐศาสตร์ จุฬา (จบมาเกือบ 10 ปี แล้วค่ะ)
ระดับอนุบาล-ประถมถือว่าโอเค ถ้าเทียบกับโรงเรียนทั่วๆไป คิดว่าที่นี่ภาษาอังกฤษค่อนข้างโอเค แต่ก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนด้วยค่ะ ตอนที่เรียนมีครูเป็นคนอังกฤษเลยมาสอนภาษาอังกฤษเสริม ไม่ใช่ฟิลิปปินส์ แต่ถ้าอยากให้ลูกสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐ ก็แนะนำให้ไปเรียนต่อที่อื่นในระดับ ม.4 เรื่องการเรียนการสอนในระดับมัธยมปลายเป็นยังไง เราไม่ทราบเพราะเราไม่ได้เรียนที่นี่ แต่เรื่องของเพื่อนมีความสำคัญมาก คือว่าเพื่อนที่เรียนจนถึง ม.6 ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นในการสอบเข้ามหาลัยรัฐเท่าไหร่ คือหลักๆจะเน้นเข้า ABAC สอบเอ๊นท์เป็นพิธีเท่านั้น ทำให้เด็กไม่มีแรงฮึดหรือพลังผลักดันในการสอบให้ติดมหาลัยรัฐ แต่ละปีเด็กสอบติดห้องละไม่กี่คน (แต่ถ้าไม่เคร่งเรื่องมหาลัยก็โอเคค่ะ) สังคมเพื่อนจะเป็นพวกที่มีเงินในระดับนึง การแข่งขันกันอวดรวยก็เป็นเรื่องธรรมดา เด็กก็แข่งขันกันเรื่องความรวยมากกว่าความฉลาด ครูก็ชอบเด็กรวยๆพ่อแม่ใหญ่โตมากกว่าเด็กธรรมดาๆ
ตอนที่เราเรียน เราค่อนข้างอึดอัดมากๆกับเรื่องกฎระเบียบไร้สาระของโรงเรียน ดูเหมือนโรงเรียนจะคร่ำเคร่งกับกฎระเบียบจนเกินไป เช่น ผมสั้นต้องมีความยาวเท่าติ่งหูเด๊ะๆ เกินนิดเดียวต้องโดนตัด ผมทุกเส้นบนหัวต้องเท่ากันหมด ถ้าไม่เท่าต้องตัดทั้งหมดให้สั้นเท่ากับเส้นที่สั้นที่สุด และอีกหลายๆอย่างที่ขนาดแม่เรายังบ่นว่าไร้สาระเกินไป เราเรียนแบบไม่มีความสุขเลย พ่อแม่คนไหนประจบครูหน่อย เอาของขวัญให้ครูอยู่เรื่อยครูก็จะเอ็นดูเด็กเป็นพิเศษ โรงเรียนชอบมีเรื่องมาขอเงินบริจาคอยู่เรื่อยด้วย ตอนที่เราเรียนเกรดเฉลี่ยไม่เคยเกิน 2.5 เพราะไม่มีความสุขในการเรียน เพื่อนโอเค แต่ไม่ชอบครูเลย ไม่อยากไปโรงเรียนเลย โชคดีมากๆที่บังเอิญสอบติดเตรียมอุดม ซึงที่นั่นทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ
ที่เตรียมอุดมมีกฏระเบียบเหมือนโรงเรียนทั่วไป แต่ไม่ได้เคร่งมากจนทำให้เด็กอึดอัด และเราก็ค้นพบว่ากฎระเบียบที่คร่ำเคร่ง ไม่ได้ช่วยให้เด็กฉลาดขึ้นเลยแม้แต่น้อย กลับทำให้เด็กไม่มีความสุขกับโรงเรียนและการเรียนมากกว่า ที่เตรียมเด็กจะมีเสรีภาพในระดับหนึ่ง ทำให้เด็กมีความสุขในการเรียน เราได้เกรดเฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่า 3.5 ตลอดจนจบ ม.6 เพื่อนที่นี่ก็ดีมาก มาจากหลากหลายที่หลายฐานะ จะไม่ค่อยแข่งกันอวดรวยเท่าไหร่ ครูก็น่ารักคอยช่วยเหลือเด็กตลอดไม่เคยว่ากระแนะกระแหนเหมือนที่เซนต์ฟรัง
ที่เตรียมมีการแข่งขันสูง แต่อย่ามองว่าเด็กเตรียมเป็นพวกเด็กเรียน เรียนคร่ำเคร่งอย่างเดียวเป็นบ้าเป็นหลัง อันนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเลยค่ะ เด็กเตรียมก็เหมือนเด็กทั่วไป เพียงแต่มีความรับผิดชอบค่อนข้างดี เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น ทุกคนช่วยกันเรียน ทุกคนมุ่งมั่นที่จะเข้ามหาลัยรัฐ ใครสอบไม่ติดก็ค่อนข้างอายเพื่อนเลย เพราะแต่ละห้องเด็กเกินครึ่งห้องจะเอ็นท์ติดกัน เราไม่ได้มองว่ามันเป็นแรงกดดัน แต่เรามองว่ามันเป็นพลังผลักดันซึงมีผลมากๆต่อเด็ก เราเรียนที่เตรียมแค่ 3 ปีแต่รู้สึกรักและผูกพันกับที่นี่มากกว่าเซนต์ฟรังที่เรียนมา 8 ปีอีก ที่เซนต์ฟรังเราไม่ได้รักหรือผูกพันเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้มีเราเพียงคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ แต่น้องสาวของเราก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน (น้องสาวเรา เรียนเซนต์ฟรัง อ.1- ม.3 ติดเตรียม แล้วก็ติดอักษร จุฬา) มีเพียงคุณครูเพ็ญวิภาที่สอนภาษาอังกฤษเท่านั้นที่เรายังระลึกถึงบุญคุณท่านอยู่เสมอ ท่านเป็นคนเดียวที่สอนนักเรียนอย่างจริงจัง เข้มงวดอยากให้นักเรียนได้ความรู้จริงๆ เราได้ภาษาอังกฤษจากท่านมาเยอะมาก ป่านนี้ท่านคงเกษียณไปแล้ว ถ้าท่านได้ผ่านมาอ่านก็อยากให้ท่านได้รับรู้ไว้นะคะว่าหนูขอขอบพระคุณจากใจจริง
อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่เล่ามาก็ผ่านมาเป็น 10 ปีแล้ว ปัจจุบันสังคมของแต่ละโรงเรียนอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และบางคนก็อาจมีประสบการณ์ที่ต่างกันไป ยังไงก็ลองตัดสินใจดูเอาเองนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างค่ะ
เคยเรียนตั้งแต่ ป.1 - ม.3 ค่ะ จากนั้นไปต่อเตรียมอุดม(ใหญ่) แล้วเข้ารัฐศาสตร์ จุฬา (จบมาเกือบ 10 ปี แล้วค่ะ)
ระดับอนุบาล-ประถมถือว่าโอเค ถ้าเทียบกับโรงเรียนทั่วๆไป คิดว่าที่นี่ภาษาอังกฤษค่อนข้างโอเค แต่ก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนด้วยค่ะ ตอนที่เรียนมีครูเป็นคนอังกฤษเลยมาสอนภาษาอังกฤษเสริม ไม่ใช่ฟิลิปปินส์ แต่ถ้าอยากให้ลูกสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐ ก็แนะนำให้ไปเรียนต่อที่อื่นในระดับ ม.4 เรื่องการเรียนการสอนในระดับมัธยมปลายเป็นยังไง เราไม่ทราบเพราะเราไม่ได้เรียนที่นี่ แต่เรื่องของเพื่อนมีความสำคัญมาก คือว่าเพื่อนที่เรียนจนถึง ม.6 ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นในการสอบเข้ามหาลัยรัฐเท่าไหร่ คือหลักๆจะเน้นเข้า ABAC สอบเอ๊นท์เป็นพิธีเท่านั้น ทำให้เด็กไม่มีแรงฮึดหรือพลังผลักดันในการสอบให้ติดมหาลัยรัฐ แต่ละปีเด็กสอบติดห้องละไม่กี่คน (แต่ถ้าไม่เคร่งเรื่องมหาลัยก็โอเคค่ะ) สังคมเพื่อนจะเป็นพวกที่มีเงินในระดับนึง การแข่งขันกันอวดรวยก็เป็นเรื่องธรรมดา เด็กก็แข่งขันกันเรื่องความรวยมากกว่าความฉลาด ครูก็ชอบเด็กรวยๆพ่อแม่ใหญ่โตมากกว่าเด็กธรรมดาๆ
ตอนที่เราเรียน เราค่อนข้างอึดอัดมากๆกับเรื่องกฎระเบียบไร้สาระของโรงเรียน ดูเหมือนโรงเรียนจะคร่ำเคร่งกับกฎระเบียบจนเกินไป เช่น ผมสั้นต้องมีความยาวเท่าติ่งหูเด๊ะๆ เกินนิดเดียวต้องโดนตัด ผมทุกเส้นบนหัวต้องเท่ากันหมด ถ้าไม่เท่าต้องตัดทั้งหมดให้สั้นเท่ากับเส้นที่สั้นที่สุด และอีกหลายๆอย่างที่ขนาดแม่เรายังบ่นว่าไร้สาระเกินไป เราเรียนแบบไม่มีความสุขเลย พ่อแม่คนไหนประจบครูหน่อย เอาของขวัญให้ครูอยู่เรื่อยครูก็จะเอ็นดูเด็กเป็นพิเศษ โรงเรียนชอบมีเรื่องมาขอเงินบริจาคอยู่เรื่อยด้วย ตอนที่เราเรียนเกรดเฉลี่ยไม่เคยเกิน 2.5 เพราะไม่มีความสุขในการเรียน เพื่อนโอเค แต่ไม่ชอบครูเลย ไม่อยากไปโรงเรียนเลย โชคดีมากๆที่บังเอิญสอบติดเตรียมอุดม ซึงที่นั่นทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ
ที่เตรียมอุดมมีกฏระเบียบเหมือนโรงเรียนทั่วไป แต่ไม่ได้เคร่งมากจนทำให้เด็กอึดอัด และเราก็ค้นพบว่ากฎระเบียบที่คร่ำเคร่ง ไม่ได้ช่วยให้เด็กฉลาดขึ้นเลยแม้แต่น้อย กลับทำให้เด็กไม่มีความสุขกับโรงเรียนและการเรียนมากกว่า ที่เตรียมเด็กจะมีเสรีภาพในระดับหนึ่ง ทำให้เด็กมีความสุขในการเรียน เราได้เกรดเฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่า 3.5 ตลอดจนจบ ม.6 เพื่อนที่นี่ก็ดีมาก มาจากหลากหลายที่หลายฐานะ จะไม่ค่อยแข่งกันอวดรวยเท่าไหร่ ครูก็น่ารักคอยช่วยเหลือเด็กตลอดไม่เคยว่ากระแนะกระแหนเหมือนที่เซนต์ฟรัง
ที่เตรียมมีการแข่งขันสูง แต่อย่ามองว่าเด็กเตรียมเป็นพวกเด็กเรียน เรียนคร่ำเคร่งอย่างเดียวเป็นบ้าเป็นหลัง อันนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเลยค่ะ เด็กเตรียมก็เหมือนเด็กทั่วไป เพียงแต่มีความรับผิดชอบค่อนข้างดี เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น ทุกคนช่วยกันเรียน ทุกคนมุ่งมั่นที่จะเข้ามหาลัยรัฐ ใครสอบไม่ติดก็ค่อนข้างอายเพื่อนเลย เพราะแต่ละห้องเด็กเกินครึ่งห้องจะเอ็นท์ติดกัน เราไม่ได้มองว่ามันเป็นแรงกดดัน แต่เรามองว่ามันเป็นพลังผลักดันซึงมีผลมากๆต่อเด็ก เราเรียนที่เตรียมแค่ 3 ปีแต่รู้สึกรักและผูกพันกับที่นี่มากกว่าเซนต์ฟรังที่เรียนมา 8 ปีอีก ที่เซนต์ฟรังเราไม่ได้รักหรือผูกพันเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้มีเราเพียงคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ แต่น้องสาวของเราก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน (น้องสาวเรา เรียนเซนต์ฟรัง อ.1- ม.3 ติดเตรียม แล้วก็ติดอักษร จุฬา) มีเพียงคุณครูเพ็ญวิภาที่สอนภาษาอังกฤษเท่านั้นที่เรายังระลึกถึงบุญคุณท่านอยู่เสมอ ท่านเป็นคนเดียวที่สอนนักเรียนอย่างจริงจัง เข้มงวดอยากให้นักเรียนได้ความรู้จริงๆ เราได้ภาษาอังกฤษจากท่านมาเยอะมาก ป่านนี้ท่านคงเกษียณไปแล้ว ถ้าท่านได้ผ่านมาอ่านก็อยากให้ท่านได้รับรู้ไว้นะคะว่าหนูขอขอบพระคุณจากใจจริง
อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่เล่ามาก็ผ่านมาเป็น 10 ปีแล้ว ปัจจุบันสังคมของแต่ละโรงเรียนอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และบางคนก็อาจมีประสบการณ์ที่ต่างกันไป ยังไงก็ลองตัดสินใจดูเอาเองนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขอข้อมูลโรงเรียนเซนต์ฟรังฯสามเสนค่ะ
เลยตัดสินใจไม่ถูกจริงจริงค่ะ