สวัสดีชาวกระทู้พันทิปอย่างเป็นทางการและขอเริ่มกระทู้แรกด้วยการไปเยือนเกาะ ซานโตรินี ค่ะ
ปล. ไปเที่ยวตั้งแต่ปีที่แล้วนะค่ะ (2012) แต่นึกถึงแล้วมันยังประทับใจอยู่ จึงมาเขียนเล่าต่อกันฟังค่ะ
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่รักการเดินทาง(มาก) ซึ่งหลายครั้งที่การเดินทางของดิฉันมักจะเป็นแบบ Solo Traveller หรือให้เข้าใจง่ายๆคือไปแบบฉายเดี่ยว แต่หลายคนอาจจะคิดว่าการเดินทางคนเดียวเป็นเรื่องที่ประหลาด สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ(รึปล่าวก็ไม่ทราบ?) แต่สำหรับดิฉันมันเป็นเรื่องที่ท้าทาย และทุกครั้งที่เริ่มวางแผนการเดินทางไปในที่ใหม่ๆ เราจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
แต่เอาล่ะ วันนี้เกาะที่จะนำมารีวิวขอเตือนว่าไม่ควรไปแบบฉายเดี่ยวนะค่ะ...ก็แหม สถานที่สุดแสนจะโรแมนติกแบบนี้ มาคนเดียวก็เฉาแย่เลย
เริ่มต้นจากการเดินทางไปถึงเกาะซานโตรินี มีตัวเลือกค่อนข้างน้อย คือเครื่องบินหรือเรือเฟอรรี่ (ที่นั่งมาจากหมู่เกาะบริเวณรอบๆเช่น Mykonos)
แต่เนื่องจากระยะเวลาการเดินทางมีจำกัดจึงต้องนั่งเครื่องเท่านั้น
เราขึ้นเครื่องโดยสายการบิน Aegean Airlines จาก Rome เพื่อไป Santorini แต่...มันไม่มี direct flight นี่สิค่ะ จึงต้องมีจุด stop ที่ Athens เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปยังเกาะซานโตรินี จำได้ว่าต้องรอต่อเครื่อง 5 ชั่วโมงแล้วเป็นชั่วประมานเที่ยงคืนพอดี คือแบบว่า...สนามบินจะร้างมากค่ะ...
แต่เดินทางมาทั้งวันแล้วมันก็ล้ามาก เลยต้องหาที่นอนชั่วคราวเพื่อที่จะงีบสักหน่อย
ปล. สนามบินหลักที่ Athens (จำชื่อสนามบินไม่ได้) เค้ามี Wifi ฟรีให้เล่นนะค่ะ แต่จะจำกัดเวลาใช้
1. รูปนี้เป็นอาหารว่างบนเครื่อง ชิ้นเดียวอิ่มท้อง เป็นขนมปังโอลีฟข้างในเป็นใส้ชีสกับไก่รมควันสไลด์ค่ะ
เครื่องมาถึงที่เกาะตอนเช้าตรู่ เกือบๆ 7 โมงเช้า อาการเย็นสบายดีมาก มองลงมาจากหน้าต่างบนเครื่องบิน แสงแดดอ่อนๆที่เริ่มสาดส่องลงมายังพื้นน้ำทะเล ส่งแสงกระจายระยิบระยับไปทั่ว หลับตาลงเพราะกลับเครื่องบินที่กำลังเคลื่อนตัวบินต่ำลง และคิดในใจ "ในที่สุด เราก็ได้มาอยู่ที่นี่จริงๆ"
2. จาก Athens มาถึงเกาะ เราก็บินลำเล็กเครื่องนี้ล่ะค่ะ
เมื่อลงจากเครื่อง เราก็รีบเดินไปที่สายพานรับกระเป๋า สนามบินเล็กมากค่ะ สไตล์ชนบทๆหน่อย พอได้กระเป๋าปั๊บก็รีบเดินออกไปหาคนขับรถที่เรานัดไว้ทันที (ตอนจองโรงแรม เค้ามี offer ค่ะ ทางโรงแรมจะขับรถมารับเอง ซึ่งสะดวกมาก...อาจจะเพราะบ้านเรือนที่นี่หลังเล็กๆ ซอยแคบๆด้วยรึปล่าว ถ้าไปเองอาจจะหาลำบากและหลงได้)
คุณ Panos นำรถเก๋งส่วนตัวมารับเรา ทักทาย ชวนคุย และให้ข้อมูลเราดีมากค่ะ เพิ่งมาทราบตอน check-in แล้วว่าเค้าเป็นลูกเจ้าของโรงแรมที่เราพักนี่เอง
โรงแรมที่เราพักชื่อ Rena's Rooms&Suites (เช็คหน้าเวปไซต์ได้เลยค่ะ www.renasuites.com ) บรรยากาศดีมากค่ะ เล็กๆ ทำแบบ Family Business ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำ และวิวทะเลมองจากไกล หากมีโอกาสกลับไปใหม่ก็คงจะพักที่นี่อีกค่ะ ประทับใจมาก
3. ภาพวิวรอบๆ ถ่ายจากสระว่ายน้ำที่โรงแรมค่ะ
แต่เนื่องจากเรามาถึงเช้ามาก ห้องก็ยังไม่ได้เพราะแขกเก่าออกบ่าย 2 สภาพตอนนั้นหน้าตาดูไม่ได้เลยค่ะ หมดแรง แล้วก็เริ่มหิวข้าวแล้วด้วยสิ ทำไงดี ได้แต่ลากสังขารมานั่งที่เก้าอี้อาบแดดแล้วนอนสลบไป
...สักครู่หนึ่ง รู้สึกเหมือนมีคนมาสะกิดให้ตื่น หันไปเจอคุณป้าแก่ๆคนนึง พยายามจะถามเรา คุยกันไม่ค่อยเข้าใจ จับใจความได้คำเดียวว่า "Breakfast?" ไอเราก็ซื่อๆตอบไปว่ายัง เพราะยังไม่ได้ check-in และจริงๆแล้วอาหารเช้ามันต้องได้เป็นพรุ่งนี้เช้า
แต่คุณป้าก็ยังคงถามต่อไป แบบทำไม้ทำมือด้วยนะรอบนี้... "Orange juice???" เข้าใจได้ว่าถามว่าจะกินน้ำอะไรมั้ย น้ำส้มรึเปล่า สงสัยป้าแกคงเห็นว่าเราโทรมมาก ก็เลยตอบว่า "Yes, please. Orange juice"
... คุณป้าหายไปประมาน 15 นาที และกลับมาพร้อมภาพนี้ค่ะ
4. มื้อแรกจัดเลย Homemade Greek Breakfast (กรีกโยเกิร์ตทานกับแยมฟิก ต้องทานคู่กันนะค่ะ อร่อยสุดๆไปเลย)
พอกินกันอิ่มหนำสำราญก็กราบขอบพระคุณคุณป้าแกยกใหญ่ แกก็ยิ้มๆแล้วก็พูดอะไรไม่รู้ แปลเอาเองว่า ไม่เป็นไรๆ...อิอิ น่ารักมากเลยค่ะ
พอเพิ่มพลังกันแล้ว อากาศตอนเช้า ในขณะกำลังเย็นสบายอยู่ เลยตัดสินใจออกไปเดินเที่ยวเล่นดูบ้านเมืองเขาหน่อย ไหนๆก็ยังเข้าห้องไม่ได้นี่นะ เอ้า...เดินออกกำลังกายละกัน แล้วก็มีเสียงกุ๊งกิ๊งๆตามหลังมา หันไปก็เจอขบวนนี้ล่ะ
5. ลาน้อย เดินเรียงแถวกันอย่างมีระเบียบ
เดินจนเมื่อย แดดเริ่มร้อนแล้ว ตาก็เริ่มจะปิด ก็เลยเดินกลับมาที่โรงแรม แล้วก็นอนรอห้องไปบนเก้าอี้อาบแดดริมสระนั่นแหละ
เวลาผ่านไปไวมาก ตกใจตื่นมาอีกทีเพราะคุณ Panos เดินมาปลุก บอกว่าห้องเสร็จแล้ว และโชคดีมากที่แขกเก่ากลับก่อนบ่ายเลยเคลียร์ห้องให้อย่างไว ก้มดูนาฬิกาอีกที โหยยย....เราหลับเป็นตายไปเลย นี่มันจะบ่ายโมงแล้ว รีบลากกระเป๋า+หอบเป้คู่ใจขึ้นไปบนห้องพัก อาบน้ำ แต่งตัว และออกไปสำรวจโลกกันต่อ
6. อีกมุมนึงของโรงแรมค่ะ
7. ห้องพักค่ะ เรียบๆ สีขาวสะอาดตากับภาพตกแต่งบนผนัง ดูแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีจริงๆ
...............................................................................
บ่ายวันนั้นเรา(ผู้เขียนและผุ้ติดตาม...อิอิ) ตัดสินใจเช่ารถ ATV หรือบางที่เรียก Quad ใช้ขับไปเที่ยวรอบๆเกาะ เริ่มจากหาดที่ใกล้เมืองที่เราพักที่สุด Fira( ที่กรีซจะเรียกว่า ธีร่าThera หรือ Thira ค่ะ) มุ่งตรงไปหาด Kamari (เป็นหาดก้อนหินดำนะค่ะ ไม่มีทรายแบบบ้านเรา)
เราพักทานกลางวันที่นั่นและใช้เวลาทั้งช่วงบ่ายนอนผึ่งแดดและเล่นน้ำกันให้หนำใจ...ฮึฮึ
9. ภาพนี้ถ่ายระหว่างทาง จาก Fira ไป หาด Kamari ค่ะ
8. จานนี้คงคล้ายๆพวกออเดิร์ฟ ทานกับขนมปังที่เสิร์ฟคู่กันมา จำชื่อไม่ได้ค่ะ แต่อร่อย ส่วนผสมน่าจะเป็นโยเกิร์ต หัวหอมแดงหันเล็กๆ กระเทียมสับ แตงกว่าหันเล็กๆ แล้วก็ผักใบเขียวนี่คิดว่าผักกาดสลัดค่ะ ใครทราบชื่อรบกวนบอกทีว่ามันคืออะไร รอบหน้าจะไปจะได้สั่งอีก
9. วิวหาด Kamari ถ่ายจากร้านที่ทานกลางวัน
10. วิวอีกฝั่งของหาดค่ะ (เห็นแดดแรงๆแบบนี้ น้ำเย็นเจี๊ยบเลย...บรึ๊ยยยย)
สำหรับวันแรกคงขอจบไว้เท่านี้ก่อนนะค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ
- Little Miss Dahlia -
ปล. ติดตามอ่านภาคต่อ Day2 ได้แล้วค่ะ
http://ppantip.com/topic/30900218
[CR] รีวิว กรีซ: ตอนเกาะในฝัน "Santorini Island - Greece" (Day 1)
ปล. ไปเที่ยวตั้งแต่ปีที่แล้วนะค่ะ (2012) แต่นึกถึงแล้วมันยังประทับใจอยู่ จึงมาเขียนเล่าต่อกันฟังค่ะ
ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่รักการเดินทาง(มาก) ซึ่งหลายครั้งที่การเดินทางของดิฉันมักจะเป็นแบบ Solo Traveller หรือให้เข้าใจง่ายๆคือไปแบบฉายเดี่ยว แต่หลายคนอาจจะคิดว่าการเดินทางคนเดียวเป็นเรื่องที่ประหลาด สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ(รึปล่าวก็ไม่ทราบ?) แต่สำหรับดิฉันมันเป็นเรื่องที่ท้าทาย และทุกครั้งที่เริ่มวางแผนการเดินทางไปในที่ใหม่ๆ เราจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
แต่เอาล่ะ วันนี้เกาะที่จะนำมารีวิวขอเตือนว่าไม่ควรไปแบบฉายเดี่ยวนะค่ะ...ก็แหม สถานที่สุดแสนจะโรแมนติกแบบนี้ มาคนเดียวก็เฉาแย่เลย
เริ่มต้นจากการเดินทางไปถึงเกาะซานโตรินี มีตัวเลือกค่อนข้างน้อย คือเครื่องบินหรือเรือเฟอรรี่ (ที่นั่งมาจากหมู่เกาะบริเวณรอบๆเช่น Mykonos)
แต่เนื่องจากระยะเวลาการเดินทางมีจำกัดจึงต้องนั่งเครื่องเท่านั้น
เราขึ้นเครื่องโดยสายการบิน Aegean Airlines จาก Rome เพื่อไป Santorini แต่...มันไม่มี direct flight นี่สิค่ะ จึงต้องมีจุด stop ที่ Athens เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปยังเกาะซานโตรินี จำได้ว่าต้องรอต่อเครื่อง 5 ชั่วโมงแล้วเป็นชั่วประมานเที่ยงคืนพอดี คือแบบว่า...สนามบินจะร้างมากค่ะ...
ปล. สนามบินหลักที่ Athens (จำชื่อสนามบินไม่ได้) เค้ามี Wifi ฟรีให้เล่นนะค่ะ แต่จะจำกัดเวลาใช้
1. รูปนี้เป็นอาหารว่างบนเครื่อง ชิ้นเดียวอิ่มท้อง เป็นขนมปังโอลีฟข้างในเป็นใส้ชีสกับไก่รมควันสไลด์ค่ะ
เครื่องมาถึงที่เกาะตอนเช้าตรู่ เกือบๆ 7 โมงเช้า อาการเย็นสบายดีมาก มองลงมาจากหน้าต่างบนเครื่องบิน แสงแดดอ่อนๆที่เริ่มสาดส่องลงมายังพื้นน้ำทะเล ส่งแสงกระจายระยิบระยับไปทั่ว หลับตาลงเพราะกลับเครื่องบินที่กำลังเคลื่อนตัวบินต่ำลง และคิดในใจ "ในที่สุด เราก็ได้มาอยู่ที่นี่จริงๆ"
2. จาก Athens มาถึงเกาะ เราก็บินลำเล็กเครื่องนี้ล่ะค่ะ
เมื่อลงจากเครื่อง เราก็รีบเดินไปที่สายพานรับกระเป๋า สนามบินเล็กมากค่ะ สไตล์ชนบทๆหน่อย พอได้กระเป๋าปั๊บก็รีบเดินออกไปหาคนขับรถที่เรานัดไว้ทันที (ตอนจองโรงแรม เค้ามี offer ค่ะ ทางโรงแรมจะขับรถมารับเอง ซึ่งสะดวกมาก...อาจจะเพราะบ้านเรือนที่นี่หลังเล็กๆ ซอยแคบๆด้วยรึปล่าว ถ้าไปเองอาจจะหาลำบากและหลงได้)
คุณ Panos นำรถเก๋งส่วนตัวมารับเรา ทักทาย ชวนคุย และให้ข้อมูลเราดีมากค่ะ เพิ่งมาทราบตอน check-in แล้วว่าเค้าเป็นลูกเจ้าของโรงแรมที่เราพักนี่เอง
โรงแรมที่เราพักชื่อ Rena's Rooms&Suites (เช็คหน้าเวปไซต์ได้เลยค่ะ www.renasuites.com ) บรรยากาศดีมากค่ะ เล็กๆ ทำแบบ Family Business ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำ และวิวทะเลมองจากไกล หากมีโอกาสกลับไปใหม่ก็คงจะพักที่นี่อีกค่ะ ประทับใจมาก
3. ภาพวิวรอบๆ ถ่ายจากสระว่ายน้ำที่โรงแรมค่ะ
แต่เนื่องจากเรามาถึงเช้ามาก ห้องก็ยังไม่ได้เพราะแขกเก่าออกบ่าย 2 สภาพตอนนั้นหน้าตาดูไม่ได้เลยค่ะ หมดแรง แล้วก็เริ่มหิวข้าวแล้วด้วยสิ ทำไงดี ได้แต่ลากสังขารมานั่งที่เก้าอี้อาบแดดแล้วนอนสลบไป
...สักครู่หนึ่ง รู้สึกเหมือนมีคนมาสะกิดให้ตื่น หันไปเจอคุณป้าแก่ๆคนนึง พยายามจะถามเรา คุยกันไม่ค่อยเข้าใจ จับใจความได้คำเดียวว่า "Breakfast?" ไอเราก็ซื่อๆตอบไปว่ายัง เพราะยังไม่ได้ check-in และจริงๆแล้วอาหารเช้ามันต้องได้เป็นพรุ่งนี้เช้า
แต่คุณป้าก็ยังคงถามต่อไป แบบทำไม้ทำมือด้วยนะรอบนี้... "Orange juice???" เข้าใจได้ว่าถามว่าจะกินน้ำอะไรมั้ย น้ำส้มรึเปล่า สงสัยป้าแกคงเห็นว่าเราโทรมมาก ก็เลยตอบว่า "Yes, please. Orange juice"
... คุณป้าหายไปประมาน 15 นาที และกลับมาพร้อมภาพนี้ค่ะ
4. มื้อแรกจัดเลย Homemade Greek Breakfast (กรีกโยเกิร์ตทานกับแยมฟิก ต้องทานคู่กันนะค่ะ อร่อยสุดๆไปเลย)
พอกินกันอิ่มหนำสำราญก็กราบขอบพระคุณคุณป้าแกยกใหญ่ แกก็ยิ้มๆแล้วก็พูดอะไรไม่รู้ แปลเอาเองว่า ไม่เป็นไรๆ...อิอิ น่ารักมากเลยค่ะ
พอเพิ่มพลังกันแล้ว อากาศตอนเช้า ในขณะกำลังเย็นสบายอยู่ เลยตัดสินใจออกไปเดินเที่ยวเล่นดูบ้านเมืองเขาหน่อย ไหนๆก็ยังเข้าห้องไม่ได้นี่นะ เอ้า...เดินออกกำลังกายละกัน แล้วก็มีเสียงกุ๊งกิ๊งๆตามหลังมา หันไปก็เจอขบวนนี้ล่ะ
5. ลาน้อย เดินเรียงแถวกันอย่างมีระเบียบ
เดินจนเมื่อย แดดเริ่มร้อนแล้ว ตาก็เริ่มจะปิด ก็เลยเดินกลับมาที่โรงแรม แล้วก็นอนรอห้องไปบนเก้าอี้อาบแดดริมสระนั่นแหละ
เวลาผ่านไปไวมาก ตกใจตื่นมาอีกทีเพราะคุณ Panos เดินมาปลุก บอกว่าห้องเสร็จแล้ว และโชคดีมากที่แขกเก่ากลับก่อนบ่ายเลยเคลียร์ห้องให้อย่างไว ก้มดูนาฬิกาอีกที โหยยย....เราหลับเป็นตายไปเลย นี่มันจะบ่ายโมงแล้ว รีบลากกระเป๋า+หอบเป้คู่ใจขึ้นไปบนห้องพัก อาบน้ำ แต่งตัว และออกไปสำรวจโลกกันต่อ
6. อีกมุมนึงของโรงแรมค่ะ
7. ห้องพักค่ะ เรียบๆ สีขาวสะอาดตากับภาพตกแต่งบนผนัง ดูแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีจริงๆ
...............................................................................
บ่ายวันนั้นเรา(ผู้เขียนและผุ้ติดตาม...อิอิ) ตัดสินใจเช่ารถ ATV หรือบางที่เรียก Quad ใช้ขับไปเที่ยวรอบๆเกาะ เริ่มจากหาดที่ใกล้เมืองที่เราพักที่สุด Fira( ที่กรีซจะเรียกว่า ธีร่าThera หรือ Thira ค่ะ) มุ่งตรงไปหาด Kamari (เป็นหาดก้อนหินดำนะค่ะ ไม่มีทรายแบบบ้านเรา)
เราพักทานกลางวันที่นั่นและใช้เวลาทั้งช่วงบ่ายนอนผึ่งแดดและเล่นน้ำกันให้หนำใจ...ฮึฮึ
9. ภาพนี้ถ่ายระหว่างทาง จาก Fira ไป หาด Kamari ค่ะ
8. จานนี้คงคล้ายๆพวกออเดิร์ฟ ทานกับขนมปังที่เสิร์ฟคู่กันมา จำชื่อไม่ได้ค่ะ แต่อร่อย ส่วนผสมน่าจะเป็นโยเกิร์ต หัวหอมแดงหันเล็กๆ กระเทียมสับ แตงกว่าหันเล็กๆ แล้วก็ผักใบเขียวนี่คิดว่าผักกาดสลัดค่ะ ใครทราบชื่อรบกวนบอกทีว่ามันคืออะไร รอบหน้าจะไปจะได้สั่งอีก
9. วิวหาด Kamari ถ่ายจากร้านที่ทานกลางวัน
10. วิวอีกฝั่งของหาดค่ะ (เห็นแดดแรงๆแบบนี้ น้ำเย็นเจี๊ยบเลย...บรึ๊ยยยย)
สำหรับวันแรกคงขอจบไว้เท่านี้ก่อนนะค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ
- Little Miss Dahlia -
ปล. ติดตามอ่านภาคต่อ Day2 ได้แล้วค่ะ http://ppantip.com/topic/30900218