ขอกระทู้รีวิวท่องเที่ยว(แถมกิน)ครั้งแรกกันเลยค่ะ ที่จริงอิฉันเป็นหน้าเก่าในห้องก้นครัว ใช้นามแฝงเก่าว่า
Anemone2526 (ใครรู้จักก็ยินดีด้วยที่เจอกันอีกครั้ง แต่ถ้าไม่รู้จัก....ก็ไม่เป็นไรค่ะ
(ฮา) นี่มักจะขึ้นกระทู้ CR ร้านอาหารต่างๆในเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเราเอง โดยมักจะใช้ชื่อหัวกระทู้ CR ว่า
“...เมื่อสาวเหนือพาไปกิน...” (มีกระทู้เก่าไว้ใน Bloggang ของอิฉันด้วยค่ะ) และในเมื่อพันทิปเปิดตัวปรับปรุงใหม่ทั้งที อิฉันคิดว่าถ้าใช้นามแฝงเก่าอาจจะไม่ค่อยติดหูและไม่เข้าอัตลักษณ์ชื่อกระทู้นัก เลยขอเปลี่ยนนามแฝงใหม่เป็น
‘สาวเหนือเซาะกิ๋น’ ดูจะเหมาะกับ CR กระทู้มากกว่าค่ะ
ที่บอกว่าเป็นหน้าเก่าในห้องก้นครัวนั้น เพราะเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว อิฉันทำ CR ร้านอาหารในเชียงใหม่ลงพันทิปอยู่บ่อยๆ จนหยุดลงในพันทิปไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพราะงานในชีวิตจริงเริ่มเยอะขึ้น จนต้องรับผิดชอบงานหลักก่อน...จนกระทั่งมีโอกาสได้ฤกษ์ดีเพิ่งกลับมาจากทัวร์เที่ยว(แถมกิน)ประกอบกับได้เห็นอมยิ้มที่เขียนรีวิวการท่องเที่ยวมากมายเช่น คุณ
น้องผักอ้วน คุณ
หมอยุ่งชะมัดเป็นสัตวแพทย์(คนเชียงใหม่เหมือนกันพอดี) คุณ
Suez(รีวิวเที่ยวเกาหลีเหนือ) คุณ
Doghall(รีวิวพาน้องหมาสามตัวแอ่วทั่วไทย) เห็นแล้วรู้สึกว่าอยากจะลองพัฒนาตัวเองมาเขียน CR การท่องเที่ยว แนะนำโรงแรมดูบ้าง หลังจากเขียนแนะนำแต่ร้านอาหารมานาน...สำนวนอิฉันอาจจะไม่ฮาเท่าคุณน้องผักอ้วน อิฉันออกแนวตลกแป้ก(ฮา) อาจมีจิกกัดนิดหน่อยตามประสาคนเส้นลึก ข้อมูลอาจจะมีไม่ละเอียดมากนักเท่าคุณหมอยุ่ง แต่จะพยายามเขียนเท่าที่หาข้อมูลมาเขียนได้ก็แล้วกันค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัย
(แต่ขออย่าว่าจัดหนักนัก เก๊าน้อยใจ๋เป็นเน้อ)
เวิ้นเว่อไปมาก เข้าเรื่องกันดีกว่าตามหัวข้อ CR ครั้งนี่คือ เมื่อสาวเหนือเซาะกิ๋นพาแอ่วกระบี่
เมืองกาไส มีไทรรากปรก มีอ่าวท้องครก หาดกวางดีดติ้ง มีโตนน้ำวิ่ง มีหญิงพุงใหญ่ อันเป็นการมาครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกที่ไปเยือนหลังเกิดสึนามิได้ไม่เพียงครึ่งปี แต่ครั้งนั้นไปในฐานะนักศึกษาดูงาน ไม่ค่อยเก็บข้อมูลอะไรมากนัก...การไปที่สองครั้งนี้จะไปในฐานะนักท่องเที่ยวแบบเต็มตัว ทำให้อิฉันลงทุนถอยหนังสือไกด์บุคมาศึกษาก่อน อ่านขนาดเหมือนอ่านหนังสือสอบก็มิปาน(ฮา) อิฉันใช้เวลาในการเลือกไกด์บุคอยู่นาน เลือกเล่มเดียวเจ๋งๆไปเลย แล้วก็ได้หนังสือเที่ยวกระบี่ Low cost ของสนพ.B Wows มา เพราะนอกจากภายในเล่มจะสี่สีสวยสดแล้ว ยังมีส่วนลดที่พักและร้านอาหารอีกต่างหาก (อันนี้สำคัญมากสำหรับสาวๆ
) แต่ถึงจะได้ข้อมูลมาจากหนังสือ อิฉันก็ยังมิวายกลายเป็นโรคกระบี่โฟเบีย ตั้งกระทู้ถามในห้องบลูถึงสิ่งที่ไม่เข้าใจเยอะ เช่น พักที่นี่ดีไหม ขึ้นรถไหนไปต่อที่ไหนได้บ้าง ถามนานาสารพัด จนเพื่อนในห้องบลูเห็นชื่ออมยิ้ม(เก่า)ของอิฉันตั้งกระทู้บ่อยๆ อาจหมั่นไส้ได้ว่า
อินี่จะกลัวอะไรกับการไปเที่ยวกระบี่นักหนา ไปเที่ยวนะเอ้ย ไม่ได้ไปเที่ยวซีเรียหาทางหนีทีไล่นะเอ้ย(ฮา)
ที่มาของทริปนี่เกิดจากเพื่อนชายสมัยเรียนมหาลัยของอิฉันเกิร่นข่าวเชิญไปร่วมงานแต่งงานที่กระบี่ อันเป็นที่ทำงานของบ่าวสาว(แต่มิใช่บ้านเกิด)อันว่าเพื่อนกล่าวเชิญด้วยวาจา ส่วนการ์ดนั้นส่งแท็กแบบ Facebook ตามประสาหนุ่มสาวแต่งงานยุคนี่ที่เน้นความทันสมัยและประหยัดเข้าว่า(ฮา แต่ก็ยังต้องพิมพ์การ์ดส่งไปให้แขกผู้ใหญ่ตามมารยาทอยู่ดี แต่สำหรับเพื่อนๆนั้นไม่ต้องส่งการ์ดของจริง แท็กแค่ Facebook ก็พอ ประหยัดตังค์จำนวนพิมพ์บัตรงานแต่งขึ้นอีกเยอะ(ฮา) และโชคดีที่เพื่อนระบุวันแต่งได้เร็วขึ้น(เพราะถ้าบอกวันแต่งแต่นานๆ จะได้จองตั๋วเครื่องบินถูกกว่าไปจองใกล้ๆ) ทำให้อิฉันประจวบเหมาะได้จองตั๋วในช่วงโปรครบรอบ 45 ปีของน้องฟ้าพอดี(ไม่น่าเชื่อ น้องฟ้าอายุมากกว่าอิฉันเสียอีก เปลี่ยนไปเรียก น้าฟ้า แทนดีมะ ไหนๆก็มีป้าม่วงแล้ว) ที่ได้จองไฟล์
เชียงใหม่-กระบี่ (บินเปลี่ยนเครื่อง) บินไป-กลับทั้งหมด 3,990 บาท (จากราคาปกติเกือบเหยียบหมื่น และมีเพียงน้องฟ้าที่มีไฟต์นี่ในราคาถูก หางแดงหรือนกเหลืองไม่มีเลย ส่วนป้าม่วงถึงมีบิน แต่ก็ราคาชวนหน้าม่วงพอกับไฟต์ปกติของน้องฟ้า) ต้องขอขอบคุณหมอยุ่งและเพื่อนในห้องบลูที่ช่วยเบรกให้อิฉันรอโปรนี่ออกก่อน (ปกติไม่ได้รู้ข่าววงในสายการบินเล้ย) ราคานี่ฟรีกระเป๋าหนักไม่เกิน 20 กก. อาหาร-เครื่องดื่มฟรีตลอดไฟต์ ไม่ต้องซื้อประกันล่วงหน้ากี่ชม.ใดๆ เลยจร้า!
ส่วนการเลือกวันเวลาสำหรับทริปนั้น...อิฉันค่อนข้างทำอะไรประหลาดโลกตามประสาเด็กติสต์ จบป.โท MAD มาเชียวนะเธอว์(ชื่อสาขาเต็มคือ Media Arts and Design เรียกชื่อย่อปริญญา MAD = บ้า) เนื่องจากคิดไม่ออกว่าจะเลือกวันเวลาไปทริปแค่ไหนถึงจะเหมาะสม ลองถามเพื่อนร่วมรุ่นจะไปบินกันวันไหน เพื่อนก็ตอบไม่ได้ เพราะต้องทำเรื่องลาเจ้านายที่ทำงานว่าจะให้ไปหรือไม่ แล้วไปได้ก็ไม่รู้ว่าจะลาได้ถึงวันไหน
คงต้องไปจองตั๋วเอาเดือนใกล้ๆเดินทาง...ซึ่งอิฉันก็รอไม่ได้อีกเหมือนกัน! เพราะโปรน้องฟ้าจะหมดลงในวันที่ 15 เมษายนแล้ว!(เป็นฟรีแลนต์ เลยไม่ต้องรอเจ้านาย)จึงตัดสินใจทำอะไรประหลาดโลกคือ เปิดดูจำนวนที่นั่งว่างในเว็บมันทุกวัน ดูว่าถ้าวันไหนที่อยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 10 – 20 สิงหาคม (ช่วงวันแต่งงานของเพื่อน) ถ้าไฟต์ไหนมีตั๋วเหลือ 1 ที่นั่ง ก็บุคกิ้งจองวันนั้นไปเลย(ฮา)ถ้ายังเหลือแค่ 2 ที่นั่งก็ยังไม่รีบจอง(ซะงั้น)อิฉันทำอย่างนี้ตั้งแต่โปรออก จนกระทั่งถึงวันที่ 10 เมษายน (เปิดปฏิทินดูเป็นวันมงคลฤกษ์ดีในการตัดสินใจทำอะไร แน่ะ! มีพึ่งไสยศาสตร์ด้วยวุ้ย
) ก็คิดตัดสินใจจองในวันนั้นไปเลย เพราะไอ่ครั้นจะไปจองเอาวันสุดท้าย กลัวจะเจอระบบเว็บล่มแบบหางแดงแหง ยิ่งคนส่วนใหญ่จะแห่จองวันสุดท้ายกันปานสึนามิถล่มจะชวดเอาง่ายๆ จองก่อนวันหมดเขตนี่แหละปลอดภัยสุด...ก็ได้วันที่บุคกิ้งคือ วันที่ 15 สิงหาคม ช่วงบิน 6.55 น. สองไฟต์ 1,990 บาท (บินเช้ามากเลือกไฟต์ 2 ไม่ได้ เพราะจะไปถึงกระบี่เกือบเย็นใกล้มืดค่ำ เสี่ยงอันตรายดีแท้) และบินกลับวันที่ 20 สิงหาคม ช่วงบิน 11.40 น.สองไฟต์1,940 บาท (รวมเป็น 4 ไฟต์ เพราะเป็นการบินเปลี่ยนเครื่อง) รวมเวลาทริปนี่คือ 5 วันจ้า
...และทริปนี่ สาวเหนือไปคนเดียวนะจ๊ะ บินเดี่ยวเที่ยวเองคนเดียวแบบไม่แบ่งใคร!?
....ที่จริงอิฉันชวนเพื่อนไปร่วมทริปเพิ่มเติม แต่เป็นการเชิญทีละคน คนนี้ไปไม่ได้ก็เชิญคนต่อไป...ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดไปไม่ได้เลย! มีปัญหาตั้งแต่ตั๋วแพง(ตอนมีโปรก็มัวลังเล ขอเวลาคิดดูก่อน ไม่จองสักที จนเพิ่งมาคิดได้ โปรก็ผ่านไปแล้ว ราคาปกติก็แพงนะซิเคอะ!) จนกระทั่งปัญหายอดฮิตคือ...แฟนไม่ให้ไป! นี่หน้าตาอิฉันมันหน้าตาเหมือนพวกมือที่สามขนาดนี่เลยหรือไงเนี่ย
แฟนเพื่อนถึงกลัวกันนักไม่ยอมให้ไป!?
และเพื่อนที่ไม่ได้ไปก็ถามสาวเหนือด้วยความเป็นห่วงว่า
ไปเที่ยวคนเดียวจะไปไหวหรือ ทำไมกล้าไปขนาดนี้ เป็นฉันถ้าต้องไปคนเดียวไม่มีเพื่อนไปนะ ขอไม่ไปเสียดีกว่า...แต่สาวเหนือคิดต่างค่ะ ด้วยความเป็นฟรีแลนซ์ที่ทุกวันทำงานแต่ที่บ้าน จะได้ออกไปเที่ยววันหยุดแค่โบกรถไปกาดหลวง ก็ดีใจปลอดโปร่งแล้ว(ฮา)อาการเก็บกดแบบนี้ทำให้เกิดอาการแบบพวกฝรั่งที่อยากท่องโลกกว้าง อาการแบบผู้ชายที่อยากไปเปิดโลกดูบ้าง ขืนมัวแต่รอให้เพื่อนพร้อม แฟนพาไป อิฉันคงเหนี่ยงยานหมดโอกาสสักก่อน อายุก็มากขึ้นแล้ว มีกำลังจะทำอะไรก็รีบทำเสียไม่ต้องรอคนอื่น ไม่ต้องมารอว่าเอาไว้ทีหลัง เพราะคนเราจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...ไอ่ครั้นไม่ตาย แต่มีภาระห่วงหน้าพะวงหลังอย่างที่อิฉันเห็นเพื่อนร่วมรุ่นที่ชิงสุกก่อนห่าม เอ๊ย ชิงแต่งงานตัดหน้าเราไปสักก่อน พอมีลูกมีเมียมีผัวมีหมามีแมว(หรือบางคนมีทั้งหมดเลย!)จะเกิดบ่วงภาระห่วงไปหมด เช่น เดี๋ยวลูกเดี๋ยวผัวไม่มีคนทำการบ้าน(ฮา) เดี๋ยวแมวไม่มีใครเกาพุง(กรณีทาสแมว) เดี๋ยวเมียระแวงว่าแอบมีกิ๊ก เดี๋ยวแฟนไม่ไปด้วยแล้วฉันทำอะไรไม่ได้(ทีตอนเป็นโสดยังทำอะไรเองได้ ทีตอนมีแฟนกลายเป็นง่อยสักงั้น!?) แล้วท้ายสุดก็มาบ่นกับผัวว่า ทำไมตะเองไม่พาเก๊าไปเที่ยวเลย หรือไม่ก็บ่นกับเพื่อนอย่างอิฉันว่า ช่วงนี้ไม่ได้เที่ยวเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ(แล้วคุณเธอจะเริ่มบ่นบลาบลา ประมาณว่ารู้งี้ไปเที่ยวกับแกดีกว่า) ทำให้สาวโสดสวย(ถึก)อย่างสาวเหนือเกิดอาการวัยทองก่อนวัยอันควรค่ะ ไม่คิดจะรออะไรใครแล้ว พลันจะกลายเป็นพึ่งพาคนอื่น ทำอะไรไม่เป็นกันพอดี ทีสาวฝรั่งเค้าเที่ยวคนเดียวได้ ทำไมสาวเหนือประเทศไทยอย่างอิฉันจะทำไม่ได้ มีโอกาสได้เที่ยวไปจงไปซะ เต็มที่กับโลกกว้างไปเลย!
ส่วนการเลือกโอกาสเที่ยว จากประสบการณ์แล้ว อิฉันเลือกจากช่วงที่เพื่อนมีการแต่งงานในต่างจังหวัดค่ะ เหตุเพราะการแต่งงานส่วนใหญ่มักจะมีการแจ้งล่วงหน้าหลายเดือนหรือข้ามปี (แต่บอกล่วงหน้าแค่เดือนสองเดือนก็ไม่ไหว มีสถิติเร็วสุดในเพื่อนอิฉันคือ บอกล่วงหน้าแค่อาทิตย์เดียว! ทำไมจัดงานเร็วนะฟร่ะ มีเลศนัยอะไรหรือเปล่าเนี่ย? ตรูคงจะไปทันอยู่หรอก(สรุปงานนั้นคือไม่ได้ไป เพราะเตรียมตัวไม่ทัน) ซึ่งทำให้เราวางแผนจะแจ้งเจ้านายลางานได้แต่เนิ่นๆดีกว่าจะนัดรวมกลุ่มไปกันเอง (จากประสบการณ์แล้วชวดบ่อยถ้ามานัดเอาพวกวันหยุดยาวๆ เพราะเพื่อนเราก็อยากหยุดพาครอบครัวหรือแฟนไปเที่ยว บางบริษัทต้องทำเรื่องลายาวข้ามปีเลยทีเดียว) เพราะงานแต่งเพื่อนนี่แหละ เป็นงานรวมพลเพื่อนที่ไม่เจอกันหลายปีดีดัก ยิ่งถ้าออกต่างจังหวัด เหมาะโอกาสจะมีทติ้งกันยิ่งนัก (เพิ่มเติมว่า รุ่นพี่ที่อิฉันเคารพ มีหลักการประจำตัวแกว่า จะไปงานของเพื่อนเฉพาะงานแต่ง...กับงานศพเท่านั้น
เพราะถือว่าเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย(เอางี้เลยหรือเฮีย) ส่วนงานบวชลูก ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจริงๆ ขอละเว้นไม่ไปล่ะกัน) ดังนั้นช่วงที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา มีกิจกรรมออกค่ายต่างจังหวัด (แต่ไม่ใช่ไปรับน้องโหด ไปล่าไก่พัทยา ไปเสม็ดเสร็จทุกราย อันนี้ไม่หนับหนุนนะย่ะ!) ก็จงไปร่วมสนุกกับเพื่อนเถอะค่ะ โมเม้นต์ได้ไปสนุกร่วมกันเป็นหมู เอ๊ย หมู่คณะนี่หายากแล้วถ้าออกไปทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือกลายเป็นพ่อคนแม่คน อย่างสาวเหนือเคยมีบางทริปปฏิเสธไม่ไปกับเพื่อน เพราะจะเอาเวลาอ่านหนังสือสอบ ขี้เกียจบ้าง...จนเดี๋ยวนี่ยังเสียดายไม่หายเลยว่า รู้งี้น่าจะไปกับเค้าด้วย ให้มีความทรงจำประทับใจ
เพิ่มเติมอีกนิดเมื่อมีเพื่อนแนะนำว่า ถ้าอยากประหยัดตั๋วบินให้มากกว่านี่ ทำไมไม่ลองจองแบบสองสายการบินต่อๆกัน เช่น บินจากเชียงใหม่ด้วยหางแดง แล้วมาต่อกระบี่ด้วยนกเหลือง จะช่วยประหยัดว่าบินรวดเดียวน้องฟ้าหรือป้าม่วง...แต่เมื่อสาวเหนือได้ลองคำนวณไฟต์แล้ว นกเหลืองกับหางแดงยังแพงกว่าน้องฟ้าช่วงโปรอีก แถมการบินต่อเครื่อง ต้องวิ่งรอกกันลิ้นห้อย เจอร้ายกว่านั้นคือเลทจากหางแดงหรือแอ็คซิเดนซ์จากนกเหลือง ไหนถ้าเกิดปัญหากระเป๋าที่โหลดไม่มาด้วยเล่า เลยตัดใจบินในสายการบินรวดเดียวเลยดีกว่า มีปัญหาอะไรจะได้เคลมสะดวกกว่าบินควบกันไปมาแบบนี้ อยากไปเที่ยวอย่างสบายใจค่ะ ไม่อยากเดินทางไปเที่ยวแนวธีมเรื่องจริงผ่านจอนัก
อ่านตอนต่อมาได้ที่นี่
วันที่ 2 กิ๋นริมหาดอ่าวนาง ทั้งบุพเพ่ต์อาหารเช้า มาม่า เค้ก ยันซีฟู้ดบ้านๆที่เหนือคลอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/30925312
วันที่ 3 เช้าติ่มซำ เย็นโต๊ะจีน และนิทราที่เหนือคลอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/30953711
วันที่ 4 ลุยธารโบกขรณี เดินชิลล์นพรัตน์ธารา ลิ้นห้อยที่วัดถ้ำเสือ และข้ามแพไปเกาะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/30985965
วันที่ 5 กิ๋นเบรคฟาสต์ริมหาดสวรรค์ เล่นน้ำที่สระมรกต และไปจบที่!?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/31017259
วันส่งท้ายนอนเกสต์เฮาส์กระทัดรัด จุโรตีที่ตัวเมืองกระบี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http:/
[CR] *CR*สาวเหนือเซาะกิ๋นพาแอ่วกระบี่*@*วันที่ 1 บินกับน้องฟ้า พักโรงแรมติดหาด ยันกิ๋น(เกือบ)แหลกที่อ่าวนาง*U*
ที่บอกว่าเป็นหน้าเก่าในห้องก้นครัวนั้น เพราะเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว อิฉันทำ CR ร้านอาหารในเชียงใหม่ลงพันทิปอยู่บ่อยๆ จนหยุดลงในพันทิปไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพราะงานในชีวิตจริงเริ่มเยอะขึ้น จนต้องรับผิดชอบงานหลักก่อน...จนกระทั่งมีโอกาสได้ฤกษ์ดีเพิ่งกลับมาจากทัวร์เที่ยว(แถมกิน)ประกอบกับได้เห็นอมยิ้มที่เขียนรีวิวการท่องเที่ยวมากมายเช่น คุณน้องผักอ้วน คุณหมอยุ่งชะมัดเป็นสัตวแพทย์(คนเชียงใหม่เหมือนกันพอดี) คุณSuez(รีวิวเที่ยวเกาหลีเหนือ) คุณDoghall(รีวิวพาน้องหมาสามตัวแอ่วทั่วไทย) เห็นแล้วรู้สึกว่าอยากจะลองพัฒนาตัวเองมาเขียน CR การท่องเที่ยว แนะนำโรงแรมดูบ้าง หลังจากเขียนแนะนำแต่ร้านอาหารมานาน...สำนวนอิฉันอาจจะไม่ฮาเท่าคุณน้องผักอ้วน อิฉันออกแนวตลกแป้ก(ฮา) อาจมีจิกกัดนิดหน่อยตามประสาคนเส้นลึก ข้อมูลอาจจะมีไม่ละเอียดมากนักเท่าคุณหมอยุ่ง แต่จะพยายามเขียนเท่าที่หาข้อมูลมาเขียนได้ก็แล้วกันค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัย (แต่ขออย่าว่าจัดหนักนัก เก๊าน้อยใจ๋เป็นเน้อ)
เวิ้นเว่อไปมาก เข้าเรื่องกันดีกว่าตามหัวข้อ CR ครั้งนี่คือ เมื่อสาวเหนือเซาะกิ๋นพาแอ่วกระบี่ เมืองกาไส มีไทรรากปรก มีอ่าวท้องครก หาดกวางดีดติ้ง มีโตนน้ำวิ่ง มีหญิงพุงใหญ่ อันเป็นการมาครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกที่ไปเยือนหลังเกิดสึนามิได้ไม่เพียงครึ่งปี แต่ครั้งนั้นไปในฐานะนักศึกษาดูงาน ไม่ค่อยเก็บข้อมูลอะไรมากนัก...การไปที่สองครั้งนี้จะไปในฐานะนักท่องเที่ยวแบบเต็มตัว ทำให้อิฉันลงทุนถอยหนังสือไกด์บุคมาศึกษาก่อน อ่านขนาดเหมือนอ่านหนังสือสอบก็มิปาน(ฮา) อิฉันใช้เวลาในการเลือกไกด์บุคอยู่นาน เลือกเล่มเดียวเจ๋งๆไปเลย แล้วก็ได้หนังสือเที่ยวกระบี่ Low cost ของสนพ.B Wows มา เพราะนอกจากภายในเล่มจะสี่สีสวยสดแล้ว ยังมีส่วนลดที่พักและร้านอาหารอีกต่างหาก (อันนี้สำคัญมากสำหรับสาวๆ) แต่ถึงจะได้ข้อมูลมาจากหนังสือ อิฉันก็ยังมิวายกลายเป็นโรคกระบี่โฟเบีย ตั้งกระทู้ถามในห้องบลูถึงสิ่งที่ไม่เข้าใจเยอะ เช่น พักที่นี่ดีไหม ขึ้นรถไหนไปต่อที่ไหนได้บ้าง ถามนานาสารพัด จนเพื่อนในห้องบลูเห็นชื่ออมยิ้ม(เก่า)ของอิฉันตั้งกระทู้บ่อยๆ อาจหมั่นไส้ได้ว่า อินี่จะกลัวอะไรกับการไปเที่ยวกระบี่นักหนา ไปเที่ยวนะเอ้ย ไม่ได้ไปเที่ยวซีเรียหาทางหนีทีไล่นะเอ้ย(ฮา)
ที่มาของทริปนี่เกิดจากเพื่อนชายสมัยเรียนมหาลัยของอิฉันเกิร่นข่าวเชิญไปร่วมงานแต่งงานที่กระบี่ อันเป็นที่ทำงานของบ่าวสาว(แต่มิใช่บ้านเกิด)อันว่าเพื่อนกล่าวเชิญด้วยวาจา ส่วนการ์ดนั้นส่งแท็กแบบ Facebook ตามประสาหนุ่มสาวแต่งงานยุคนี่ที่เน้นความทันสมัยและประหยัดเข้าว่า(ฮา แต่ก็ยังต้องพิมพ์การ์ดส่งไปให้แขกผู้ใหญ่ตามมารยาทอยู่ดี แต่สำหรับเพื่อนๆนั้นไม่ต้องส่งการ์ดของจริง แท็กแค่ Facebook ก็พอ ประหยัดตังค์จำนวนพิมพ์บัตรงานแต่งขึ้นอีกเยอะ(ฮา) และโชคดีที่เพื่อนระบุวันแต่งได้เร็วขึ้น(เพราะถ้าบอกวันแต่งแต่นานๆ จะได้จองตั๋วเครื่องบินถูกกว่าไปจองใกล้ๆ) ทำให้อิฉันประจวบเหมาะได้จองตั๋วในช่วงโปรครบรอบ 45 ปีของน้องฟ้าพอดี(ไม่น่าเชื่อ น้องฟ้าอายุมากกว่าอิฉันเสียอีก เปลี่ยนไปเรียก น้าฟ้า แทนดีมะ ไหนๆก็มีป้าม่วงแล้ว) ที่ได้จองไฟล์ เชียงใหม่-กระบี่ (บินเปลี่ยนเครื่อง) บินไป-กลับทั้งหมด 3,990 บาท (จากราคาปกติเกือบเหยียบหมื่น และมีเพียงน้องฟ้าที่มีไฟต์นี่ในราคาถูก หางแดงหรือนกเหลืองไม่มีเลย ส่วนป้าม่วงถึงมีบิน แต่ก็ราคาชวนหน้าม่วงพอกับไฟต์ปกติของน้องฟ้า) ต้องขอขอบคุณหมอยุ่งและเพื่อนในห้องบลูที่ช่วยเบรกให้อิฉันรอโปรนี่ออกก่อน (ปกติไม่ได้รู้ข่าววงในสายการบินเล้ย) ราคานี่ฟรีกระเป๋าหนักไม่เกิน 20 กก. อาหาร-เครื่องดื่มฟรีตลอดไฟต์ ไม่ต้องซื้อประกันล่วงหน้ากี่ชม.ใดๆ เลยจร้า!
ส่วนการเลือกวันเวลาสำหรับทริปนั้น...อิฉันค่อนข้างทำอะไรประหลาดโลกตามประสาเด็กติสต์ จบป.โท MAD มาเชียวนะเธอว์(ชื่อสาขาเต็มคือ Media Arts and Design เรียกชื่อย่อปริญญา MAD = บ้า) เนื่องจากคิดไม่ออกว่าจะเลือกวันเวลาไปทริปแค่ไหนถึงจะเหมาะสม ลองถามเพื่อนร่วมรุ่นจะไปบินกันวันไหน เพื่อนก็ตอบไม่ได้ เพราะต้องทำเรื่องลาเจ้านายที่ทำงานว่าจะให้ไปหรือไม่ แล้วไปได้ก็ไม่รู้ว่าจะลาได้ถึงวันไหน คงต้องไปจองตั๋วเอาเดือนใกล้ๆเดินทาง...ซึ่งอิฉันก็รอไม่ได้อีกเหมือนกัน! เพราะโปรน้องฟ้าจะหมดลงในวันที่ 15 เมษายนแล้ว!(เป็นฟรีแลนต์ เลยไม่ต้องรอเจ้านาย)จึงตัดสินใจทำอะไรประหลาดโลกคือ เปิดดูจำนวนที่นั่งว่างในเว็บมันทุกวัน ดูว่าถ้าวันไหนที่อยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 10 – 20 สิงหาคม (ช่วงวันแต่งงานของเพื่อน) ถ้าไฟต์ไหนมีตั๋วเหลือ 1 ที่นั่ง ก็บุคกิ้งจองวันนั้นไปเลย(ฮา)ถ้ายังเหลือแค่ 2 ที่นั่งก็ยังไม่รีบจอง(ซะงั้น)อิฉันทำอย่างนี้ตั้งแต่โปรออก จนกระทั่งถึงวันที่ 10 เมษายน (เปิดปฏิทินดูเป็นวันมงคลฤกษ์ดีในการตัดสินใจทำอะไร แน่ะ! มีพึ่งไสยศาสตร์ด้วยวุ้ย) ก็คิดตัดสินใจจองในวันนั้นไปเลย เพราะไอ่ครั้นจะไปจองเอาวันสุดท้าย กลัวจะเจอระบบเว็บล่มแบบหางแดงแหง ยิ่งคนส่วนใหญ่จะแห่จองวันสุดท้ายกันปานสึนามิถล่มจะชวดเอาง่ายๆ จองก่อนวันหมดเขตนี่แหละปลอดภัยสุด...ก็ได้วันที่บุคกิ้งคือ วันที่ 15 สิงหาคม ช่วงบิน 6.55 น. สองไฟต์ 1,990 บาท (บินเช้ามากเลือกไฟต์ 2 ไม่ได้ เพราะจะไปถึงกระบี่เกือบเย็นใกล้มืดค่ำ เสี่ยงอันตรายดีแท้) และบินกลับวันที่ 20 สิงหาคม ช่วงบิน 11.40 น.สองไฟต์1,940 บาท (รวมเป็น 4 ไฟต์ เพราะเป็นการบินเปลี่ยนเครื่อง) รวมเวลาทริปนี่คือ 5 วันจ้า
...และทริปนี่ สาวเหนือไปคนเดียวนะจ๊ะ บินเดี่ยวเที่ยวเองคนเดียวแบบไม่แบ่งใคร!?
....ที่จริงอิฉันชวนเพื่อนไปร่วมทริปเพิ่มเติม แต่เป็นการเชิญทีละคน คนนี้ไปไม่ได้ก็เชิญคนต่อไป...ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดไปไม่ได้เลย! มีปัญหาตั้งแต่ตั๋วแพง(ตอนมีโปรก็มัวลังเล ขอเวลาคิดดูก่อน ไม่จองสักที จนเพิ่งมาคิดได้ โปรก็ผ่านไปแล้ว ราคาปกติก็แพงนะซิเคอะ!) จนกระทั่งปัญหายอดฮิตคือ...แฟนไม่ให้ไป! นี่หน้าตาอิฉันมันหน้าตาเหมือนพวกมือที่สามขนาดนี่เลยหรือไงเนี่ย แฟนเพื่อนถึงกลัวกันนักไม่ยอมให้ไป!?
และเพื่อนที่ไม่ได้ไปก็ถามสาวเหนือด้วยความเป็นห่วงว่า ไปเที่ยวคนเดียวจะไปไหวหรือ ทำไมกล้าไปขนาดนี้ เป็นฉันถ้าต้องไปคนเดียวไม่มีเพื่อนไปนะ ขอไม่ไปเสียดีกว่า...แต่สาวเหนือคิดต่างค่ะ ด้วยความเป็นฟรีแลนซ์ที่ทุกวันทำงานแต่ที่บ้าน จะได้ออกไปเที่ยววันหยุดแค่โบกรถไปกาดหลวง ก็ดีใจปลอดโปร่งแล้ว(ฮา)อาการเก็บกดแบบนี้ทำให้เกิดอาการแบบพวกฝรั่งที่อยากท่องโลกกว้าง อาการแบบผู้ชายที่อยากไปเปิดโลกดูบ้าง ขืนมัวแต่รอให้เพื่อนพร้อม แฟนพาไป อิฉันคงเหนี่ยงยานหมดโอกาสสักก่อน อายุก็มากขึ้นแล้ว มีกำลังจะทำอะไรก็รีบทำเสียไม่ต้องรอคนอื่น ไม่ต้องมารอว่าเอาไว้ทีหลัง เพราะคนเราจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...ไอ่ครั้นไม่ตาย แต่มีภาระห่วงหน้าพะวงหลังอย่างที่อิฉันเห็นเพื่อนร่วมรุ่นที่ชิงสุกก่อนห่าม เอ๊ย ชิงแต่งงานตัดหน้าเราไปสักก่อน พอมีลูกมีเมียมีผัวมีหมามีแมว(หรือบางคนมีทั้งหมดเลย!)จะเกิดบ่วงภาระห่วงไปหมด เช่น เดี๋ยวลูกเดี๋ยวผัวไม่มีคนทำการบ้าน(ฮา) เดี๋ยวแมวไม่มีใครเกาพุง(กรณีทาสแมว) เดี๋ยวเมียระแวงว่าแอบมีกิ๊ก เดี๋ยวแฟนไม่ไปด้วยแล้วฉันทำอะไรไม่ได้(ทีตอนเป็นโสดยังทำอะไรเองได้ ทีตอนมีแฟนกลายเป็นง่อยสักงั้น!?) แล้วท้ายสุดก็มาบ่นกับผัวว่า ทำไมตะเองไม่พาเก๊าไปเที่ยวเลย หรือไม่ก็บ่นกับเพื่อนอย่างอิฉันว่า ช่วงนี้ไม่ได้เที่ยวเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ(แล้วคุณเธอจะเริ่มบ่นบลาบลา ประมาณว่ารู้งี้ไปเที่ยวกับแกดีกว่า) ทำให้สาวโสดสวย(ถึก)อย่างสาวเหนือเกิดอาการวัยทองก่อนวัยอันควรค่ะ ไม่คิดจะรออะไรใครแล้ว พลันจะกลายเป็นพึ่งพาคนอื่น ทำอะไรไม่เป็นกันพอดี ทีสาวฝรั่งเค้าเที่ยวคนเดียวได้ ทำไมสาวเหนือประเทศไทยอย่างอิฉันจะทำไม่ได้ มีโอกาสได้เที่ยวไปจงไปซะ เต็มที่กับโลกกว้างไปเลย!
ส่วนการเลือกโอกาสเที่ยว จากประสบการณ์แล้ว อิฉันเลือกจากช่วงที่เพื่อนมีการแต่งงานในต่างจังหวัดค่ะ เหตุเพราะการแต่งงานส่วนใหญ่มักจะมีการแจ้งล่วงหน้าหลายเดือนหรือข้ามปี (แต่บอกล่วงหน้าแค่เดือนสองเดือนก็ไม่ไหว มีสถิติเร็วสุดในเพื่อนอิฉันคือ บอกล่วงหน้าแค่อาทิตย์เดียว! ทำไมจัดงานเร็วนะฟร่ะ มีเลศนัยอะไรหรือเปล่าเนี่ย? ตรูคงจะไปทันอยู่หรอก(สรุปงานนั้นคือไม่ได้ไป เพราะเตรียมตัวไม่ทัน) ซึ่งทำให้เราวางแผนจะแจ้งเจ้านายลางานได้แต่เนิ่นๆดีกว่าจะนัดรวมกลุ่มไปกันเอง (จากประสบการณ์แล้วชวดบ่อยถ้ามานัดเอาพวกวันหยุดยาวๆ เพราะเพื่อนเราก็อยากหยุดพาครอบครัวหรือแฟนไปเที่ยว บางบริษัทต้องทำเรื่องลายาวข้ามปีเลยทีเดียว) เพราะงานแต่งเพื่อนนี่แหละ เป็นงานรวมพลเพื่อนที่ไม่เจอกันหลายปีดีดัก ยิ่งถ้าออกต่างจังหวัด เหมาะโอกาสจะมีทติ้งกันยิ่งนัก (เพิ่มเติมว่า รุ่นพี่ที่อิฉันเคารพ มีหลักการประจำตัวแกว่า จะไปงานของเพื่อนเฉพาะงานแต่ง...กับงานศพเท่านั้น เพราะถือว่าเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย(เอางี้เลยหรือเฮีย) ส่วนงานบวชลูก ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจริงๆ ขอละเว้นไม่ไปล่ะกัน) ดังนั้นช่วงที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา มีกิจกรรมออกค่ายต่างจังหวัด (แต่ไม่ใช่ไปรับน้องโหด ไปล่าไก่พัทยา ไปเสม็ดเสร็จทุกราย อันนี้ไม่หนับหนุนนะย่ะ!) ก็จงไปร่วมสนุกกับเพื่อนเถอะค่ะ โมเม้นต์ได้ไปสนุกร่วมกันเป็นหมู เอ๊ย หมู่คณะนี่หายากแล้วถ้าออกไปทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือกลายเป็นพ่อคนแม่คน อย่างสาวเหนือเคยมีบางทริปปฏิเสธไม่ไปกับเพื่อน เพราะจะเอาเวลาอ่านหนังสือสอบ ขี้เกียจบ้าง...จนเดี๋ยวนี่ยังเสียดายไม่หายเลยว่า รู้งี้น่าจะไปกับเค้าด้วย ให้มีความทรงจำประทับใจ
เพิ่มเติมอีกนิดเมื่อมีเพื่อนแนะนำว่า ถ้าอยากประหยัดตั๋วบินให้มากกว่านี่ ทำไมไม่ลองจองแบบสองสายการบินต่อๆกัน เช่น บินจากเชียงใหม่ด้วยหางแดง แล้วมาต่อกระบี่ด้วยนกเหลือง จะช่วยประหยัดว่าบินรวดเดียวน้องฟ้าหรือป้าม่วง...แต่เมื่อสาวเหนือได้ลองคำนวณไฟต์แล้ว นกเหลืองกับหางแดงยังแพงกว่าน้องฟ้าช่วงโปรอีก แถมการบินต่อเครื่อง ต้องวิ่งรอกกันลิ้นห้อย เจอร้ายกว่านั้นคือเลทจากหางแดงหรือแอ็คซิเดนซ์จากนกเหลือง ไหนถ้าเกิดปัญหากระเป๋าที่โหลดไม่มาด้วยเล่า เลยตัดใจบินในสายการบินรวดเดียวเลยดีกว่า มีปัญหาอะไรจะได้เคลมสะดวกกว่าบินควบกันไปมาแบบนี้ อยากไปเที่ยวอย่างสบายใจค่ะ ไม่อยากเดินทางไปเที่ยวแนวธีมเรื่องจริงผ่านจอนัก
อ่านตอนต่อมาได้ที่นี่
วันที่ 2 กิ๋นริมหาดอ่าวนาง ทั้งบุพเพ่ต์อาหารเช้า มาม่า เค้ก ยันซีฟู้ดบ้านๆที่เหนือคลอง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 3 เช้าติ่มซำ เย็นโต๊ะจีน และนิทราที่เหนือคลอง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 4 ลุยธารโบกขรณี เดินชิลล์นพรัตน์ธารา ลิ้นห้อยที่วัดถ้ำเสือ และข้ามแพไปเกาะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 5 กิ๋นเบรคฟาสต์ริมหาดสวรรค์ เล่นน้ำที่สระมรกต และไปจบที่!? [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันส่งท้ายนอนเกสต์เฮาส์กระทัดรัด จุโรตีที่ตัวเมืองกระบี่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น