[CR] [CR] Kick-Ass 2 "Game on, Cock Suckers", เกรียนโคตรอีกครั้ง แต่ไม่มหาประลัยเท่าเดิม


หากจะกล่าวถึง Kick-Ass 2 คงจะหลีกหนีไม่พ้นจากการเปรียบเทียบกับภาคแรกเป็นแน่แท้ Kick-Ass ภาคแรก จัดเป็นม้ามืดนอกกระแส ที่แม้จะโกยเงินไม่เยอะในช่วงที่ออกฉาย แต่กลับเป็นที่จดจำในแง่ของ ภาพยนตร์ เรต R ที่ให้ความบันเทิงได้อย่างครบเครื่อง เพียบพร้อมกับความสดใหม่ กึ่งๆล้อเลียน การ์ตูน super hero ทั้งคำหยาบและฉาก action เลือดสาดที่ใส่เข้ามาอย่างพอเหมาะพอเจาะ สอดคล้องกับคำวิจารณ์จากสื่อหลายแขนงที่ยกคะแนนในแดนบวกกันพร้อมเพรียง อีกทั้งยังเป็นการ แจ้งเกิดในวงกว้าง ของ ผกก Matthew Vaughn จนได้ดิบได้ดีให้ไปกำกับ X-Men First Class ให้กับ Fox รวมไปถึงหนูน้อยแต่ความสามารถ ไม่น้อยอย่าง Chloe Grace Moretz จาก 500 days of summer ที่มีบทเด่นแย่งซีนพระเอกของเรื่อง ถูกใจสาวก โลลิค่อน กันไปตามๆกัน คำถามสำหรับผู้ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ในตอนนั้นคือ เราจะได้ดูภาคต่อ รึเปล่า?



แต่แล้วปีนี้ ภาค 2 ก็ถูกเข็นออกมาให้เราชมกัน โดยส่วนตัวของผมแล้ว เมื่อข่าวการสร้างภาคสอง รู้สึกหวั่นใจไม่น้อย ด้วยเหตุผลที่ว่า Matthew Vaughn ได้ทิ้งเก้าอี้ผกก และ ผู้ร่วมเขียนบทไป ด้วยเหตุผล ตารางงานชนกับการกำกับ X-Men First Class และไม่มั่นใจในการสร้างสรรค์ ของภาคต่อนั้นจะออกมาได้ดีเท่ากับ ภาคแรกหรือไม่? ด้วยเหตุผลนี้ ผมเสียดายมากๆ  เพราะ Matthew Vaughn เป็นผู้ริเริ่มโครงการภาพยนตร์ Kick-Ass คนแรกๆ ร่วมกับ Mark Millar เลยทีเดียว



เมื่อภาค 2 ออกฉาย กลับได้รับคำวิจารณ์ในทางลบ ชนิดที่เรียกว่า ต่ำเตี้ยเรียดิน ทำเอาหลายคนใจแป้ว รวมทั้งตัวผมด้วย แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น บวกกับเป็นแฟนตัวยงของน้อง Chloe ยังไงๆ ก็ต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตา เลยจัดไป 2 รอบได้ความว่า ตัวหนังยังมีจุดดี และมีความต่อเนื่องมาจากภาคแรก ตัวบทว่าด้วยเรื่องของ การเติบโตในวัยรุ่นของตัวละคร การปรับตัวให้เข้ากับชีวิตสองหน้าของตัวละครหลัก ซึ่งถือเป็นการพัฒนา character จากภาคแรกของตัวเอกทั้งหลาย หนังภาคนี้ เหมือนเป็นการย้อนแย้งของภาคแรก ที่เดิม Kick-Ass ต้องใช้ Hit-Girl และ Big Daddy เป็นแบบอย่างในการเป็น hero แต่กลับกันในภาคนี้ที่ Hit-Girl ต้องพึ่ง Kick-Ass ในแง่ของการใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง, เป็นสติคอยเตือนถึงความเป็นตัวตนและเป็นเพื่อนผู้คลายความโดดเดี่ยว พล็อตที่ขยายเรื่องราว ของการเป็นแรงบันดาลใจและตัวจุดกระแสให้ผู้คนของ Kick-Ass ผู้คนมากมายมารวมตัวกัน เพื่อทำในสิ่งที่ใฝ่ฝัน หรือสนองปมในใจก็แล้วแต่ main plot มี sub plot ประกอบอีกมากมาย แต่ไม่ขอกล่าวถึงจนหมด ในด้านเนื้อเรื่อง ถือเป็นหนังที่ดี ไม่กลวงเรื่องหนึ่ง ดูแล้ว มีอะไรให้คิดตามและ คิดต่อ นักแสดงทุกคนส่วนใหญ่ ทำหน้าที่ของตนได้ดีมาตราฐาน แต่..... จุดอ่อนของตัวหนังเองก็มีไม่น้อย



แม้ตัวหนังจะมีจุดขายหลักที่ชัดเจน แต่ในแง่การนำเสนอที่ ไม่แข็งแรงเท่าภาคแรก ความอ่อนและการขาดเหตุผลรองรับที่แข็งแรงในบางซีน การสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมดูจะดรอปลงมากจากภาคแรก ทำให้ไม่อิน แถม ยังดูตลก ลิเกไปบ้าง  เพลงประกอบที่ให้อารมณ์จี๊ดจ๊าดได้แค่ พอใช้ ไม่เหมือนกับภาคแรกที่เสริมอารมณ์ร่วมได้อย่างดีทะลุลิมิต ความสดใหม่ที่หายไป ไม่แสบสันเหมือนเดิมซึ่งก็เป็นสิ่งที่หลีกหนีได้ยาก ของหนังภาคต่อ



action scene ยังมีความโหดมันฮา(และคำหยาบ) เช่นเดิม ความดิบ เถื่อน โหด ระดับความรุนแรงในส่วนนี้ ยังจัดว่าตอบสนองความบันเทิงได้เทียบเท่ากับภาคแรก เพียงแต่ไม่มีอะไรให้ประทับใจ หรือเป็นภาพจำอย่างภาคแรก CG ในหลายๆฉาก ไม่เนียน ทำให้ขัดใจอยู่บ้างแต่ไม่มาก

โดยรวมแล้วจัดว่า สนุกคุ้มค่าตั๋ว อารมณ์คงเส้นคงวาต่อเนื่องจากภาคก่อน แต่ไม่ประทับใจเท่าที่ควร น้องChloe เป็นสาวแล้วน่ารักกว่าเดิม  บทเยอะดี และตอนจบที่ไม่เหมือนใน comic ไม่รู้ว่าจะเข็นภาค 3 ออกมาปิดบทสรุปแบบ comic รึเปล่า




ปล.มีฉากท้ายend credit นะจ๊ะ
มีการเปลี่ยนตัวละครประกอบหนึ่งตัว(เพื่อนพระเอก) ซึ่งคิดว่าคนเก่าเล่นได้ดีและเข้าขากว่า ส่วนตัวละคร Night Bitch นั้นถือเป็นของแถมเพราะ รู้สึกว่าตัวจริงจะสวยกว่าในบทอยู่เยอะ เอารูปไปตัดสินกัน

ชื่อสินค้า:   Kick-Ass 2
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่