ว่าจะไม่เข้ามา  แต่เห็น  จขกท  มีความใส่ใจ  พยายามถาม
555

จขกท  เคยอ่านนิยายกำลังภายในป่าวครับ
หลายคนอ่านคัมภีร์เล่มเดียวกัน
แต่ฝึกออกมาได้ ไม่เท่ากัน




อยากจะบอก  ตัว  จขกท  ว่า

ตัว จขกท นั้น  เสพติด วิธีการเรียนในบ้านเรา  

คือ มีคนมาบอกสูตรสำเร็จ  หรือ มีคนมาบอกสิ่งที่ถูกต้องแล้ว  
และเมื่อเรารับรู้สิ่งที่คนอื่นมาสอนเราแล้ว
เราแค่ทำความเข้าใจ  จำ  แล้วนำไปใช้
แค่นั้นเราก็สำเร็จแล้ว
นี่คือการศึกษาแบบบ้านเรา


จขกท  เสพติด  concept  นี้โดยไม่รู้ตัว


มองเห็นตัวเองยังครับ
555

จ่ายเงินแค่นั้นอ่ะนะ  จะทำให้  จขกท  ชนะตลาด
จขกท  ใช้เงินซื้อเล่มนั้น เท่าไรกัน
แล้ว  จขกท  เอาตังมาเข้าตลาดเท่าไร
เทียบสัดส่วนกันได้รึป่าวครับ


ตลาดหุ้น มัน  มีความไม่แน่นอน  มีความผันผวน

ปัจจัยมันเยอะ  เปลี่ยนไปมาตลอดเวลา  
ผลมันก็สะท้อนออกมาทางด้านราคา
แต่ในท่ามกลางความผันผวน  มันก็มีแนวโน้ม

ในกระบวนการที่พยายามวิเคราะห์ คาดเดาราคาหุ้น
มันมีทั้งวิทยาศาสตร์  ผสมกับ  art
ไม่ง่ายครับ

สิ่งที่เราควรทำ  ในช่วงเริ่มต้น หรือว่า  ช่วงถัดๆ ไป  คือ
empirical   การช่างสังเกตุ ทำให้มาก

จขกท  ชอบต่อ จิ๊กซอว์ ป่าวครับ
เชื่อมโยงไง
การเชื่อมโยงนั้น  เราต้องสังเกตุด้วยว่า
สิ่งที่เราพยายามเชื่อมโยงนั้น  มีความสัมพันธ์ตามที่เราตั้งสมมติฐานแต่แรกรึป่าว
อย่าใช้ความเชื่อ  โดยไม่ได้ทำการสังเกตุควบคู่ไปด้วย


สิ่งที่เราคิดในเริ่มต้นนั้น  ขอให้  จขกท  คิดแค่ว่า  มันคือ สมมติฐาน  ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
ให้เราสังเกตุ  สิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้อง
หาความสัมพันธ์
ไม่ว่า จะ VI  หรือ  trader   ก็ต้องมีสิ่งนี้  คือ ความช่างสังเกตุ

ในการเรียน  ปริญญาโท  ในหลายๆที่  ที่เน้นการทดสอบ สิ่งที่ยังไม่รู้   นั้น
อาจารย์ จะเริ่มให้แค่ติ่งน้อยๆ  และให้เป็นแค่สมมติฐาน  
คำสรุปนั้น  เราต้องไปหาเอาเองจากการทดสอบ

การทดสอบที่ดี  จะต้องมีการสังเกตุ  มีการวิเคราะห์
หลายครั้ง  จากผลการทดสอบ  สมมติฐานที่เรากำลังพิสูจน์ นั้น ไม่เป็นจริง
เราก็ทำซ้ำ  ผลที่ิออกมาเป็นอย่างไร  ก็เป็นอย่างนั้น
เราจะเห็น แนวโน้ม อะไรบางอย่าง



จขกท  เสพติด  สูตร สำเร็จรูป  จริงๆครับ
แก้ไข  
แล้วจะดีเองครับ

: )
  
555

เงินซื้อหนังสือ 1 เล่ม  จะทำให้เราได้กำไรมากมาย
ไม่ฉุกคิดอะไรเลยเหรอครับ  กับจำนวนเงินที่เราเอาไปซื้อหนังสือ 1 เล่ม
กับกำไรที่เราคาดหวัง