ฟ้าจรดทราย .... ก็ไม่รู้สินะ ....

เมื่อก่อนบ้านญาติเราเคยเปิดร้านให้เช่าหนังสือ เราเลยได้มีโอกาสอ่านนิยายของนักประพันธ์มากมายเป็นร้อยเล่ม ที่เราเลือกอ่านหนังสือประเภทนิยายเป็นอันดับต้นๆ เพราะรู้สึกว่าหนังสือที่มีเพียงตัวอักษรเหล่านี้ได้เปิดโอกาสให้เราสามารถใช้จินตนาการของเราได้เต็มที่ ทำให้เราได้มีช่วงเวลาที่สงบ เป็นส่วนตัว และตลอด 20 ปี ของการอ่าน มีนิยายเรื่องหนึ่งที่เราเลือกหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีเบื่อ .... ฟ้าจรดทราย .... ของ โสภาค สุวรรณ

ฟ้าจรดทราย เป็นนิยายเพียงเรื่องเดียวที่ฝังใจเรามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศความแปลกใหม่ในตัวบทประพันธ์ (เมื่อเทียบกับบรรดาหนังสือที่เราได้อ่านในช่วงนั้น) เพราะหัวใจหลักเป็นการดำเนินเรื่องท่ามกลางทะเลทราย ซึ่งสำหรับเรา เด็กอายุ ๑o กว่าขวบในตอนนั้น มันเป็นการเปิดโลกใบเล็กๆ ก็ว่าได้ ทุกรายละเอียดในนั้นมันสร้างความสุข ความตื่นเต้น เรารับรู้ได้ถึงความละเมียดละไมของความรู้สึกที่ชารีฟและมิเชลล์มีร่วมกัน จำได้ว่าสองสามครั้งแรกที่อ่าน เรายังไม่มีภาพใครอยู่ในความคิด เป็นเพียงแค่การสร้างจินตนาการรูปร่างหน้าตาสอดคล้องไปตามที่ผู้ประพันธ์ได้บรรยายถึงลักษณะตัวพระเอกเอาไว้

จนประมาณปี 44 พี่ตุ้ย ธีรภัทร์ ออกอัลบั้มเพลงครั้งแรก คือก่อนหน้านั้นเราเคยได้เย็นชื่อ ได้เห็นหน้าผ่านๆ รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้หล่อ หน้าคม ดูมีสเน่ห์ แต่พอเราได้ฟังเพลงที่เค้าร้อง ตั้งแต่นั้นมาก็จำได้ว่าเราเปิดฟังเพลงที่เค้าร้องทุกคืน เปิดฟังวนไปวนมาจนหลับไป หลงรักผู้ชายคนนี้โดยไม่รู้ตัว เป็นนักร้องชายคนเดียวในดวงใจเลยนะ ชอบเสียงของเค้ามาก เนื้อเสียงของเค้ามีความพิเศษมากๆ ในความรู้สึกของเรา และจนถึงทุกวันนี้ เราก็ยังมีเพลงของเค้าอยู่ในมือถือเราตลอด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกครั้งที่เราหยิบฟ้าจรดทรายขึ้นมาอ่าน เราก็จะมีภาพของพี่ตุ้ยอยู่ในนั้นมาตลอด ชารีฟคือเค้ามาตลอดไม่เคยเป็นคนอื่นเลย เพราะฉะนั้นเราจึงอยากเข้ามาแชร์ความรู้สึกในฐานะคนๆ หนึ่งที่รู้สึกมีความผูกพันต่อบทประพันธ์เรื่องนี้มาก และมันคือความรู้สึกดีใจจริงๆ ที่ปรากฏว่าในที่สุดก็มีผู้กำกับคนนึง ลุกขึ้นมาหยิบนิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละคร และเลือกพี่ตุ้ย ธีรภัทร์ เป็นพระเอก คือมันไม่ใช่แค่คุณทำละคร แต่คุณทำให้ภาพและฝันของผู้หญิงคนหนึ่งเป็นจริงเลยนะ เป็นการรอคอยที่ยาวนานมาก แต่คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าใครจะวิจารณ์ จะด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่าละครเรื่องนี้มันแย่ มันไม่สมจริง ไม่เรียลลลล(ม้วนลิ้นตอนอออกเสียงด้วย) หรืออะไรก็ตามแต่ เราจะบอกเลยว่าเรารักนิยายเรื่องนี้ เรารักละครเรื่องนี้ เรารักตุ้ย ธีรภัทร์ และเริ่มหลงรักขวัญ อุษามณี เป็นครั้งแรก

บอกเลยว่าเราไม่ได้ดูละครช่องเจ็ดมาเกือบสิบปีแล้วด้วยเหตุผลส่วนตัว แต่ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราตั้งใจจะดูให้ได้ ตั้งตารอ คือในมุมของเรา เราไม่สนหรอกว่า Production มันจะห่วย มันจะมั่วอาระเบียน ยูโรเปี้ยน โบฮีเมี่ยน หรืออะไร ประเด็นคือแค่เค้าสร้างมาให้ดูเราก็น้ำตาจะไหลแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะ perfect เพราะว่าจุด perfect ของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ขอบอกว่าช่วงนี้วันจันทร์ อังคาร ของเราสดใสมาก จากที่ปกติ เบื่อมากกับการทำงานเริ่มต้นสัปดาห์ แต่สองอาทิตย์มานี้บอกได้เลยว่ากระดี๊กระด๊ารอกลับไปเจอหน้าพันเอกชารีฟสุดๆ ตัวละครบทนี้มีมาเพื่อรอพี่ตุ้ยจริงๆ ตอนฉากที่นอนในกระโจมข้างมิเชลล์เมื่อวันก่อน บอกเลยว่าฟินมาก เป็นผู้ชายที่เสียงทุ้ม นุ่ม และมีสเน่ห์ที่สุดในสามโลกนี้และสามโลกหน้า ฉากที่ดึงแขนมิเชลล์ตอนขึ้นจากน้ำนั่นก็เล่นเอาตายไปเลย งุงิ ครุคริ ฟรุ้งฟริ้ง อยู่คนเดียวตอนดู

ยังไงก็ให้กำลังใจผู้สร้างเต็มที่ เพราะแค่คุณเลือกพี่ตุ้ย ที่เหลือเรายอม!! คือคนชมก็เยอะ คนด่าก็มี แต่เราขออยู่โซนพี่ตุ้ยละกัน เพราะเราเองก็มั่นใจว่า ผู้หญิงเกินร้อย พร้อมยอมออกไปลำบากกลางทะเลทรายกับพันเอกชารีฟแน่นอน ไม่หวั่นแม้ทรายจะเข้า บอกเลย !!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่