ผมไม่อยากจะเขียนถึงเท่าไหร่หรอก แต่นั่งฟังคุณรสนา อภิปราย ตั้งแต่ตอนช่วงเย็น  

เอาเริ่มแรก ขอตำหนิ เทพไท หน่อย  

เมื่อวานที่ ประธานนิคม ฯ เขาให้สิทธิ์เทพไท อภิปราย แต่เทพไทก็ไม่ยอมอภิปรายเสียที พูดโน่นพูดนี่ ไม่ยอมจบ จนมากระทั่งเมื่อเช้า  สุดท้ายตอนอภิปรายมาตรา 2   เทพไท บอกว่า ขอยุ ให้ประกาศกฎหมายฉบับนี้ ใช้ทันทีมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา  โดยให้เหตุผลว่า "เห็นว่าเร่งรีบกันมาก ก็เลยให้บังคับใช้ในวันที่ประกาศในราชกิจจา ฯ เลย

ประเด็นก็คือว่า  คุณกำลังหมิ่นพระราชอำนาจนะครับ

ปรกติ ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการทูลเกล้า ฯ ถวายกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งให้ทรงลงพระปรมาภิไท นั้น พระมหากษัตริย์ทรงมีสิทธิ์ที่จะยับยั้งกฎหมายนั้นได้ หากมีการผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว สมัยยุคทักษิณเป็นนายก ฯ ตอนปลาย  สำนักพระราชวัง ตีกลับ พระราชบัญญัติฉบับหนึ่ง (ผมจำไม่ได้ว่าเป็นสาธารณสุขหรือเปล่า)  ให้ทางสภา ฯ แก้ไขใหม่ เนื่องจากมันมีความขัดแย้งในเนื้อความและมาตราที่เขียนในนั้น

โดยปรกติ กฎหมายใด ๆ ก็ตาม จะมีมาตราสุดท้าย ที่บัญญัติไว้ว่า "ให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดไปนับแต่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา"

คุณเทพไท จะมาพูดประชดประชันแบบนี้ไม่ได้

มันเสียหายนะครับ

พูดเล่น ๆ เอามันส์แบบนี้ ไม่ดี  ผมก็นั่งรอดูว่า คุณเทพไท ที่อุตส่าห์ยกมือ จะแปรญัตติ ที่มันมีประโยชน์หรือเข้าท่าแบบไหนบ้าง  ซึ่งผมนั่งฟังอีกคน ถ้าจำไม่ผิด คือ ส.ส.กทม.  เขายังอภิปรายมีเหตุผล (แต่ฟังไม่ขึ้นสำหรับผม)

นี่อะไร คุณเทพไท ขึ้นมาพูดแป๊บเดียว จบ เอาสนุกสะใจแค่นั้น

ส่วนคุณรสนา  ประเด็นที่ผมจับใจความได้ก็คือ  กลัวผลประโยชน์ทับซ้อน สภาผัวเมีย รัฐสภาไม่ควรออกกฎหมายให้ตัวเองได้สิทธิ์เลือกตั้งแบบนี้

เอาอย่างแรก  สภาผัวเมีย

ผมฝากถามหน่อย ทุกวันนี้ ในสภา มีคนนามสกุล "เทือกสุบรรณ" กี่คน ที่เป็น ส.ส.    เท่าที่ผมรู้  มี สุเทพ เทือกสุบรรณ เชน เทือกสุบรรณ ธานี เทือกสุบรรณ  นั่งอยู่ในสภา ฯ ทั้งหมดเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นลูกพี่ลูกน้อง กับสุรนันท์ เวชชาชีวะ   ภราดร ปริศนานันทกุล เป็นลูกชายของเสี่ยตือ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล

เทอดพงษ์ ไชยนันท์ ส.ส.ตาก ประชาธิปัตย์ เป็นอะไรกับ ธนิตพงษ์ ไชยนันท์ อดีต ส.ส.ตาก

ไม่รวมอีกหลาย ๆ คน ทั้งในพรรคเพื่อไทย หรือ ประชาธิปัตย์

เพิ่มเติม

หรือจะเอาย้อนไปสมัยยุคสมัย ส.ว.แต่งตั้ง 100%  คุณชาติศิริ โสภณพณิช เป็นอะไรกับคุณหญิงกัลยา ส.ส.ประชาธิปัตย์ นี่ก็เคยเป็น ส.ว.แต่งตั้ง  คุณหญิงชดช้อย โสภณพณิช เป็น ส.ว.เลือกตั้ง ปี 2543
----------------------------------------------------------------------------
ถามว่ามันต่างจากทุกวันนี้อย่างไร ที่จะมีหรือไม่มีญาติโกโหติกา หรือ เครือญาติ นักการเมืองที่ทำธุรกิจ แล้วมาเป็น ส.ว. โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง?

ผมคิดว่า สิ่งสำคัญ มันไม่ใช่ตรงนั้น มันอยู่ที่การส่งเสริมให้ประชาชนได้รู้จักคิด เลือก เอาคนที่ทำงานเป็นต่างหาก มาเป็นผู้แทนของเขา ไม่ใช่ไปตั้งกติกาว่า ห้ามลูกเมียเขาลง สมัคร เพราะยังงั้น มันก็จะเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของคนเลยทีเดียว

จริงอยู่ มันไม่เป็นการเหมาะสมเลย ที่จะมีญาติ ๆ เข้ามานั่งในสภา ด้วย แต่สิ่งที่เป็นไปได้ก็คือ ควรที่จะไปเลือกคนทำงานจริง ๆจัง ๆ ดีกว่ามั้ยครับ

เอ้า อย่างสมมติ สุราษฎร์ ฯ  ตระกูลเทือกสุบรรณ เขาทำความดีให้กับคนในพื้นที่ เขาก็สมควรที่จะถูกได้รับเลือกมา หากเป็นฉันทามติของประชาชนใช่มั้ย

แต่ทั้งหมดทั้งมวลอยู่นี่ เป้าโจมตีของคุณรสนา กับคนประชาธิปัตย์ที่คัดค้านตรงนี้ก็คือ กลัวตระกูลชินวัตรนั่นเอง  ผมได้ยินแว่ว ๆ วัชระ เพชรทองพูดพาดพิงประธานนิคมว่า เป็นทาสของตระกูลชินวัตร

อยากจะฝากไปยังวัชระ ด้วยว่า   ตอนสมัยพันธมิตรประท้วง สนธิ ลิ้ม ฯ พูดในรายการว่าตระกูลชินวัตร จนโดน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตรฟ้อง จนสนธิ ต้องยกมือไหว้ขอขมา พล.อ.ชัยสิทธิ์กลางศาลมาแล้ว

วัชระ จำไม่ได้หรือไง

ตรรกะของรสนา ขอบอกว่า ไม่ได้เรื่องครับ  เหมือนกับบอกว่า อย่าซื้อรถยนต์เลย เพราะกลัวถูกขโมย

สมัยก่อน ส.ว. มาจากการแต่งตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์  สมัยคุณบรรหารเป็นนายก ฯ เป็นยุคสุดท้ายที่มี ส.ว.จากการแต่งตั้ง สมัยนั้นให้อำนาจนายกรัฐมนตรีคนเดียว เป็นคนเลือกว่าใครจะเป็น ส.ว.

คุณรสนาบอกว่า ต้องมีนิติรัฐ พูดพล่ามอะไรก็ไม่รู้  ผมฟังดู ก็มันถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า ตกลงมาใส่หน้าคุณรสนาตลอด