ไม่ได้ “เกิดมาเพื่อเป็นนายกฯ" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

บทสัมภาษณ์ “exclusive interview”นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเธอ “ไม่ได้ขอคำปรึกษาจากพี่ชาย(นักโทษหนีคดีอาญา)ของเธอทุกประเด็น ดังที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวาง เธอตัดสินใจด้วยตนเอง ส่วนใหญ่จะขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาหรือไม่ก็ขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ

เมื่อถูกถามว่าที่เธอนั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเพราะกลัวการปฏิวัติใช่หรือไม่ ยิ่งลักษณ์บอกว่า ที่เธอตัดสินใจเช่นนั้นเป็นเพราะว่าเธอต้องการที่จะ“เข้าใจความต้องการของทหารและการจัดลำดับความจำเป็นในการใช้จ่ายของทหาร” เพราะในสองปีที่ผ่านมานั้นเธอไม่เข้าใจอะไรเลย และในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีเธอจะต้องดูแลเกี่ยวกับกิจการทหารรวมทั้งช่วยให้พวกเขามีส่วนในการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

นอกจากนั้นเธอยังหยอดคำหวานให้กับผู้นำเหล่าทัพว่า “ฉันเชื่อว่าทหารมีจุดยืนที่ไม่เข้ามาแทรกแซงการเมือง”(military’s non-interventionist stand) และบอกว่า ที่เธอ “ใส่หมวกสองใบ” นั้นเพื่อให้แน่ใจว่า “เราทำงานเป็นทีม บนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และต้องการกำจัดความไม่ไว้วางใจ หากมีข้อสงสัยก็(เปิดอก)พูดคุยกัน” และเสริมว่า เธอเชื่อว่า “ทหารรู้ว่าสิ่งใดดีที่สุดที่เกิดขึ้นในค่ายของพวกเขา”

ยิ่งลักษณ์ยังบอกว่าเธอติดต่อกับผู้นำเหล่าทัพทุกเหล่า ไม่เพียงแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา เท่านั้น แต่เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติด้วย เธอจึงต้องมีเรื่องปรึกษาหารือกับท่านมากมายกว่าผู้นำเหล่าทัพท่านอื่นๆ

และเธอไม่กังวลเกี่ยวกับรัฐประหาร แต่กังวลเรื่องข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงทางการเมืองที่กระจายไปในวงกว้างเกี่ยวกับตัวเธอ และบอกว่าเธอเผชิญกับมัน “ด้วยความอดทน” เพราะเธอไม่ชอบ "การสาดโคลน" เธอเข้าใจดีว่าเธอมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ  การนิ่งไม่ตอบโต้และคิดบวกทำให้เธอมีสมาธิในการทำงานให้ลุล่วง เพราะประชาชนต้องการอ่านข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไม่ใช่การออกมานด่าทอกัน

ยิ่งลักษณ์บอกว่าเธอไม่ได้ “เกิดมาเพื่อเป็น”นายกรัฐมนตรี “แต่ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดของความสามารถ และจะพยายามสร้างความปรองดอง”

นอกจากนั้นเธอยังสารภาพและขอความเห็นใจจากประชาชนว่าอย่าด่าว่าที่เธอพูดผิดพลาด เพราะว่าเธอไม่ใช่นักพูดมืออาชีพ และเสริมอีกว่า “ผู้นำมีสองประเภท พวกหนึ่งดีแต่พูดแต่ทำงานไม่เป็น แต่อีกพวกพูดไม่เก่งแต่มุ่งเน้นที่ทำงาน”

(ประโยคนี้ เธอขวิดฝ่ายค้าน เข้าเต็มเป้า?)

และตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ยิ่งลักษณ์ได้ปฏิเสธว่า ที่เชิญผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจากต่างชาติเช่นนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ มาร่วมประชุมในไทยนั้นเป็นความคิดของเธอเอง ไม่ใช่ของทักษิณ (นักโทษหนีคดีอาญา) พี่ชายของเธอ

ที่มา......Credit - Bangkok Post :link :http://www.bangkokpost.com/news/local/365245/yingluck-stakes-full-claim-to-reconciliation-forum.



ผมชอบที่ท่านนิ่ง ไม่มาเต้นเเร้งเต้นกาให้เห็น บางคนว่าท่านโง่เเต่ผมมองเเล้ว สงสารคนที่ด่าท่านจริงๆ คนโง่กับคนฉลาด ยังเเยกไม่ออก
บางนโยบายผมไม่เห็นด้วยเเต่ ไม่พูดดีกว่าต่างคนต่างความคิด  เเต่มีกรณี"คุณชัยราชวัตร" ผมเกลียดเลย เป็นสื่อมวลชนที่เเย่
ยังไงเราก็เป็นคนไทยเห็นต่างยังไงก็ไม่ควร ต่อว่าท่านชนิดที่เรียกถ่อยสุดๆเเบบนั้น  ยิ่งเราเป็นเพศชายด้วย เฮ้อ.................

ออกตัวก่อนนะผมเฉยไม่เลือกข้างอันไหนดีก็ชม อันไหนเห็นผิดก็ด่ามั่ง เเต่ก่อนจะเล่นพันทิปผมคิดว่า พวกเสื้อเเดงเนี่ยเป็นประเภท
คนต่างจังหวัด ตามบ้านนอก เท่านั้นเเละคิดว่าสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเสื้อเหลือง กับประชาธิปัตย์ เป็นส่วนมาก
ก็เเปลกใจดีที่กลับข้างกันเห็นๆเลย 55555+              

        อืมหมดเเระ ขอบคุณครับที่อ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่