ไปดูหนังในกระแสมาเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในระบบ 4DX แต่ติดภารกิจเล็กน้อยเลยเพิ่งจะทำรีวิวเสร็จครับ ต้องขออนุญาตเกริ่นก่อนเลยว่าผมยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มที่สองนี้เลย เพราะฉะนั้นรีวิวต่อไปนี้จะไม่ขอพาดพิงหรือเปรียบเทียบกับหนังสือแต่อย่างใดนะครับ ว่ากันเฉพาะตัวหนังเลย
หลังจากที่ภาคแรกดูไม่เป็นทีประทับใจเท่าไรนัก PERCY JACKSON : SEA OF MONSTERS ก็ถูกเข็นออกมาเหมือนจะแก้มือใหม่อีกครั้ง สำหรับเนื้อเรื่องโดยย่อของภาคนี้จะเกี่ยวกับการผจญภัยของ Percy Jackson เพื่อจะเอาขนแกะทองคำที่มีพลังอำนาจวิเศษกลับไปช่วยเหล่าครึ่งเทพและมนุษย์ทั้งหลายด้วยตัวเอง ซึ่งในการทำภารกิจให้สำเร็จ เขาและเพื่อนๆต้องเดินทางไปยังดินแดนเร้นลับที่รู้จักกันในนาม Sea of Monsters เพื่อเอาขนแกะทองคำกลับมา
เนื้อเรื่องนั้นผูก Percy ไว้กับคำทำนายปรัมปราบางอย่างอันนำไปสู่ “การแหกคอก” เพื่อพิสูจน์คำทำนาย พร้อมกับสหายร่วมทีมทั้งหน้าเก่าและอีกหนึ่งหน้าใหม่นามว่า Tyson ที่มีความสัมพันทางสายเลือดกับ Percy โดยรวมแล้ว แม้ผมจะยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มที่สองนี้ก็สามารถเดาทางหนังได้อย่างทะลุปรุโปร่งเลยครับ ส่วนการวางโครงเรื่องก็เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและเหมาะสม หนังจึงดำเนินไปแบบเป็นเรื่องเป็นราวเรื่อยๆของมันจนจบ ด้วยเหตุนี้ ผมขออนุญาตไม่เผยข้อมูลของหนังเรื่องนี้มากนัก อีกทั้งขอให้คะแนนเนื้อหาและการวางโครงเรื่องไว้ที่ 6/10 คะแนนครับ เพราะว่าหนังไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่เสียทีเดียว
ด้วยหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชน แน่นอนว่าต้องมีสาระและคุณค่าสอนใจผู้อ่าน(หนังสือ)และผู้ชมหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน เช่น อย่าเชื่อในสิ่งที่รู้หรือเห็นมาทั้งหมด เพราะบางครั้งคนเราก็ไม่สามารถตัดสินกันได้แค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น อีกข้อคิดดีๆคือ ถ้าอยากได้ความไว้ใจและมิตรภาพ คุณก็ต้องเริ่มเป็นผู้ให้เองเสียก่อน และยิ่งไปกว่านั้น อย่าเอาชาติกำเนิด ภูมิหลัง หรือการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวมาเป็นปมปัญหาของตัวเอง เพียงแค่คุณคิดง่ายๆว่า “คุณอยากจะเป็นคนดี” เท่านั้นเอง ข้อคิดสุดท้ายนี้ หนังสื่อออกมาด้วยการเปรียบเทียบตัวละคร 2 ตัวอย่างชัดเจน ลองหาคำตอบดูนะครับว่าหนังเปรียบเทียบตัวละครไหนกันบ้าง
เรื่องสาระและคุณค่าของหนังผมให้ 8/10 คะแนน บอกได้เลยว่าต้องยกความดีความชอบให้กับนักเขียนวรรณกรรมเรื่องนี้จริงๆครับ
เรามาว่ากันถึงเรื่องของ “ภาพ และ สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค” กันบ้าง จะขอรีวิวและให้คะแนนเฉพาะตัวหนังเท่านั้น ส่วนเอฟเฟ็คจากระบบ 4DX จะรีวิวเพื่อประกอบการพิจารณาเลือกชมภาพยนตร์ของคุณผู้อ่านนะครับ
แม้จะมีชื่อภาคว่า Sea of Monsters แต่ก็หาได้มีสัตว์ประหลาดหรืออสูรกายทะเลมากมายอย่างที่คาดหวังเอาไว้ครับ ภาพและสเปเชียลเอฟเฟ็คบางจุดดูขัดๆตาอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าสอบผ่านเมื่อเทียบกับหนังฮอลลีวู้ดแนวแฟนตาซีครับ ระบบ 3D ถือว่าทำออกมาได้สวยเลย แต่ฉากส่วนใหญ่แทบไม่จำเป็นต้องดูแบบ 3D ก็ได้ ฉากต่อสู้กับกระทิง Colchis ที่เหมือนหลุดมาจากหนังเรื่อง Transformers กับอีกฉากที่ต่อสู้กับเทพเจ้า Kronos ถือเป็นหน้าเป็นตาของหนังภาคนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับคะแนนในหมวดนี้ผมให้ที่ 7/10 เพราะผมชอบฉากที่เทพเจ้า Kronos ค่อยๆคืนชีพ และกระทิง Colchis ที่แม้ดูจะโอเวอร์ไปนิดสำหรับหนังอิงเทพนิยายกรีกโรมัน แต่ก็ได้เห็นอะไรใหม่ๆแบบท่ไม่คิดว่าจะเจอในหนังแนวนี้เหมือนกันครับ
ระบบ 4DX นั้นช่วยเสริมอรรถรสในการชมฉากกระทิง Colchis บุกแคมป์พวกลูกครึ่งเทพมากๆ เขย่าไปมา โยกซ้ายขวา หน้าหลัง พ่นลมด้านหน้าเก้าอี้ และด้านข้าง(หลัง)เก้าอี้ เล่นเอาผมแทบทานน้ำและป็อปคอร์นไม่ได้เลย แถมยังต้องกลัวป็อปคอร์นจะหกอีกต่างหาก แอบเวียนหัวนิดๆ อ่านซับไตเติลแทบไม่รู้เรื่อง เพราะเพลินกับฉากที่อยู่ตรงหน้าและเก้าอี้ที่บันเทิงมากๆ แต่บทพูดในฉากนั้นมีไม่มากและเข้าใจไม่ยากครับ ฟังเฉยๆก็พอรู้เรื่อง อีกฉากที่ระบบ 4DX เข้ามาเสริมอรรถรสให้กับหนังได้คือฉากหลังจากต่อสู้กับเทพเจ้า Kronos จบแล้ว มีตัวละครหนึ่งโดนแทงจากข้างหลัง เก้าอี้ก็ตุกหลังจนผมตกใจเล็กน้อย เพราะเหมือนเราเข้าใจว่าทุกอย่างสงบแล้ว แต่อยู่ๆก็มีเหตุการณ์นี้เข้ามาทำลายความเงียบ
อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับราคาบัตรชมภาพยนตร์ระบบ 4DX แล้ว ถือว่ายังไม่คุ้มเท่าที่ควรครับ แนะนำว่าดูแค่ระบบ 2D ก็พอครับ หรือหากเป็นคนที่ชื่นชอบการดู 3D ก็ไม่เสียหาย แต่ 4DX นี่ไม่แนะนำเลยจริงๆครับ เว้นแต่คุณผู้อ่านจะมีโปรโมชั่นดีๆที่ใช้กับระบบนี้ได้ แล้วจะลองชมดูก็ถือว่าน่าสนุกดีครับ
สรุปคะแนนเฉลี่ยโดยรวมได้ที่ 7/10 คะแนนครับ
ดูๆแล้วผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเพราะแฟนหนังสือส่วนใหญ่บอกว่าตัดและบิดเบือนเนื้อหาของหนังสืออีกแล้ว แต่เท่าที่เช็คที่นั่งก่อนจองตั๋ว ที่นั่งก็แทบจะเต็มทุกที่เลยแม้จะเป็นระบบ 4DX ก็ตาม คงต้องลุ้นรายได้กันอีกทีว่าจะพอให้ทางสตูดิโออยากจะเข็นภาคต่อไปออกมาหรือไม่ เพราะแม้จะมีข่าวลือหลุดออกมาว่า Percy Jackson 3 : The Titan’s Curse มีกำหนดฉายคร่าวๆประมาณเดือนตุลาคม ปี 2015 แต่ทางสตูดิโอ 20th Century Fox ก็ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการครับ
สุดท้ายนี้ขอฝากข้อคิดดีๆจากหนังนิดนึงครับ
"Forget the oracle. You don't like your destiny? Write a new one!" – Annabeth
“ลืมคำพยากรณ์นั่นซะ เธอไม่ชอบชะตาชีวิตของเธอใช่ไหม? เธอก็เขียนมันใหม่สิ!”
ขอบคุณสำหรับผู้อ่านทุกท่านที่สละเวลาอ่านบทวิจารณ์สมัครเล่นของผมอีกครั้ง แต่นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น หวังว่าจะสามารถเป็นประโยชน์ประกอบการเลือกชมภาพยนตร์เรื่องถัดไปที่ทุกคน กำลังจะตีตั๋วและตบเท้าเข้าไปชมกันนะครับ และเช่นเคย หากผิดพลาดประการใด ยินดีน้อมรับคำติชมและแนะนำเสมอครับ พบกันใหม่กับเรื่องถัดไปครับ
ขอบคุณครับ
PK [蔡春熙]
[CR] Review : PERCY JACKSON 2 : SEA OF MONSTERS [4DX] (No Spoilers) by PK [蔡春熙]
หลังจากที่ภาคแรกดูไม่เป็นทีประทับใจเท่าไรนัก PERCY JACKSON : SEA OF MONSTERS ก็ถูกเข็นออกมาเหมือนจะแก้มือใหม่อีกครั้ง สำหรับเนื้อเรื่องโดยย่อของภาคนี้จะเกี่ยวกับการผจญภัยของ Percy Jackson เพื่อจะเอาขนแกะทองคำที่มีพลังอำนาจวิเศษกลับไปช่วยเหล่าครึ่งเทพและมนุษย์ทั้งหลายด้วยตัวเอง ซึ่งในการทำภารกิจให้สำเร็จ เขาและเพื่อนๆต้องเดินทางไปยังดินแดนเร้นลับที่รู้จักกันในนาม Sea of Monsters เพื่อเอาขนแกะทองคำกลับมา
เนื้อเรื่องนั้นผูก Percy ไว้กับคำทำนายปรัมปราบางอย่างอันนำไปสู่ “การแหกคอก” เพื่อพิสูจน์คำทำนาย พร้อมกับสหายร่วมทีมทั้งหน้าเก่าและอีกหนึ่งหน้าใหม่นามว่า Tyson ที่มีความสัมพันทางสายเลือดกับ Percy โดยรวมแล้ว แม้ผมจะยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มที่สองนี้ก็สามารถเดาทางหนังได้อย่างทะลุปรุโปร่งเลยครับ ส่วนการวางโครงเรื่องก็เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและเหมาะสม หนังจึงดำเนินไปแบบเป็นเรื่องเป็นราวเรื่อยๆของมันจนจบ ด้วยเหตุนี้ ผมขออนุญาตไม่เผยข้อมูลของหนังเรื่องนี้มากนัก อีกทั้งขอให้คะแนนเนื้อหาและการวางโครงเรื่องไว้ที่ 6/10 คะแนนครับ เพราะว่าหนังไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่เสียทีเดียว
ด้วยหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชน แน่นอนว่าต้องมีสาระและคุณค่าสอนใจผู้อ่าน(หนังสือ)และผู้ชมหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน เช่น อย่าเชื่อในสิ่งที่รู้หรือเห็นมาทั้งหมด เพราะบางครั้งคนเราก็ไม่สามารถตัดสินกันได้แค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น อีกข้อคิดดีๆคือ ถ้าอยากได้ความไว้ใจและมิตรภาพ คุณก็ต้องเริ่มเป็นผู้ให้เองเสียก่อน และยิ่งไปกว่านั้น อย่าเอาชาติกำเนิด ภูมิหลัง หรือการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวมาเป็นปมปัญหาของตัวเอง เพียงแค่คุณคิดง่ายๆว่า “คุณอยากจะเป็นคนดี” เท่านั้นเอง ข้อคิดสุดท้ายนี้ หนังสื่อออกมาด้วยการเปรียบเทียบตัวละคร 2 ตัวอย่างชัดเจน ลองหาคำตอบดูนะครับว่าหนังเปรียบเทียบตัวละครไหนกันบ้าง
เรื่องสาระและคุณค่าของหนังผมให้ 8/10 คะแนน บอกได้เลยว่าต้องยกความดีความชอบให้กับนักเขียนวรรณกรรมเรื่องนี้จริงๆครับ
เรามาว่ากันถึงเรื่องของ “ภาพ และ สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค” กันบ้าง จะขอรีวิวและให้คะแนนเฉพาะตัวหนังเท่านั้น ส่วนเอฟเฟ็คจากระบบ 4DX จะรีวิวเพื่อประกอบการพิจารณาเลือกชมภาพยนตร์ของคุณผู้อ่านนะครับ
แม้จะมีชื่อภาคว่า Sea of Monsters แต่ก็หาได้มีสัตว์ประหลาดหรืออสูรกายทะเลมากมายอย่างที่คาดหวังเอาไว้ครับ ภาพและสเปเชียลเอฟเฟ็คบางจุดดูขัดๆตาอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าสอบผ่านเมื่อเทียบกับหนังฮอลลีวู้ดแนวแฟนตาซีครับ ระบบ 3D ถือว่าทำออกมาได้สวยเลย แต่ฉากส่วนใหญ่แทบไม่จำเป็นต้องดูแบบ 3D ก็ได้ ฉากต่อสู้กับกระทิง Colchis ที่เหมือนหลุดมาจากหนังเรื่อง Transformers กับอีกฉากที่ต่อสู้กับเทพเจ้า Kronos ถือเป็นหน้าเป็นตาของหนังภาคนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับคะแนนในหมวดนี้ผมให้ที่ 7/10 เพราะผมชอบฉากที่เทพเจ้า Kronos ค่อยๆคืนชีพ และกระทิง Colchis ที่แม้ดูจะโอเวอร์ไปนิดสำหรับหนังอิงเทพนิยายกรีกโรมัน แต่ก็ได้เห็นอะไรใหม่ๆแบบท่ไม่คิดว่าจะเจอในหนังแนวนี้เหมือนกันครับ
ระบบ 4DX นั้นช่วยเสริมอรรถรสในการชมฉากกระทิง Colchis บุกแคมป์พวกลูกครึ่งเทพมากๆ เขย่าไปมา โยกซ้ายขวา หน้าหลัง พ่นลมด้านหน้าเก้าอี้ และด้านข้าง(หลัง)เก้าอี้ เล่นเอาผมแทบทานน้ำและป็อปคอร์นไม่ได้เลย แถมยังต้องกลัวป็อปคอร์นจะหกอีกต่างหาก แอบเวียนหัวนิดๆ อ่านซับไตเติลแทบไม่รู้เรื่อง เพราะเพลินกับฉากที่อยู่ตรงหน้าและเก้าอี้ที่บันเทิงมากๆ แต่บทพูดในฉากนั้นมีไม่มากและเข้าใจไม่ยากครับ ฟังเฉยๆก็พอรู้เรื่อง อีกฉากที่ระบบ 4DX เข้ามาเสริมอรรถรสให้กับหนังได้คือฉากหลังจากต่อสู้กับเทพเจ้า Kronos จบแล้ว มีตัวละครหนึ่งโดนแทงจากข้างหลัง เก้าอี้ก็ตุกหลังจนผมตกใจเล็กน้อย เพราะเหมือนเราเข้าใจว่าทุกอย่างสงบแล้ว แต่อยู่ๆก็มีเหตุการณ์นี้เข้ามาทำลายความเงียบ
อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับราคาบัตรชมภาพยนตร์ระบบ 4DX แล้ว ถือว่ายังไม่คุ้มเท่าที่ควรครับ แนะนำว่าดูแค่ระบบ 2D ก็พอครับ หรือหากเป็นคนที่ชื่นชอบการดู 3D ก็ไม่เสียหาย แต่ 4DX นี่ไม่แนะนำเลยจริงๆครับ เว้นแต่คุณผู้อ่านจะมีโปรโมชั่นดีๆที่ใช้กับระบบนี้ได้ แล้วจะลองชมดูก็ถือว่าน่าสนุกดีครับ
สรุปคะแนนเฉลี่ยโดยรวมได้ที่ 7/10 คะแนนครับ
ดูๆแล้วผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเพราะแฟนหนังสือส่วนใหญ่บอกว่าตัดและบิดเบือนเนื้อหาของหนังสืออีกแล้ว แต่เท่าที่เช็คที่นั่งก่อนจองตั๋ว ที่นั่งก็แทบจะเต็มทุกที่เลยแม้จะเป็นระบบ 4DX ก็ตาม คงต้องลุ้นรายได้กันอีกทีว่าจะพอให้ทางสตูดิโออยากจะเข็นภาคต่อไปออกมาหรือไม่ เพราะแม้จะมีข่าวลือหลุดออกมาว่า Percy Jackson 3 : The Titan’s Curse มีกำหนดฉายคร่าวๆประมาณเดือนตุลาคม ปี 2015 แต่ทางสตูดิโอ 20th Century Fox ก็ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการครับ
สุดท้ายนี้ขอฝากข้อคิดดีๆจากหนังนิดนึงครับ
"Forget the oracle. You don't like your destiny? Write a new one!" – Annabeth
“ลืมคำพยากรณ์นั่นซะ เธอไม่ชอบชะตาชีวิตของเธอใช่ไหม? เธอก็เขียนมันใหม่สิ!”
ขอบคุณสำหรับผู้อ่านทุกท่านที่สละเวลาอ่านบทวิจารณ์สมัครเล่นของผมอีกครั้ง แต่นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น หวังว่าจะสามารถเป็นประโยชน์ประกอบการเลือกชมภาพยนตร์เรื่องถัดไปที่ทุกคน กำลังจะตีตั๋วและตบเท้าเข้าไปชมกันนะครับ และเช่นเคย หากผิดพลาดประการใด ยินดีน้อมรับคำติชมและแนะนำเสมอครับ พบกันใหม่กับเรื่องถัดไปครับ
ขอบคุณครับ
PK [蔡春熙]