ตามที่สมาชิกต่างสีบอกว่าถ้าไม่อยากให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้ามาป่วนกระทู้ก็ให้ตั้งหัวกระทู้แบบนี้ หวังว่าท่านจะเคารพกติกา
จากหัวกระทู้ที่ผมตั้งนี้ เกิดจากการจุดประกายของท่านพี่ อาร์ต โฟล์คสวาเก้นฯ ในกระทู้ยิ่งลักษณ์ยิ้มเย้ยยุทธจักร ที่พูดถึงคำพยากรณ์ไว้ในกระทู้ล่างๆที่ผ่านมา
ผมได้ยินคำพยากรณ์มานานกว่า20ปีแล้ว หลายท่านเข้าใจว่าท่านฤาษีลิงดำทำนายไว้แต่จริงๆไม่ใช่ เพราะทางทนายของสำนักฤาษีออกมาปฏิเสธแล้ว
คำพยากรณ์นี้มีมาช้านานแล้ว เป็นคำทำนาย คำพยากรณ์อนาคตของบ้านเมือง อาจเป็นของปราชญ์ หรือ ผู้ทรงศีล ผู้หยั่งรู้อนาคต ท่านใดท่านหนึ่ง เอาเป็นว่าคำทำนายนี้มีอยู่จริงก็พอ ไม่ใช่มาแต่งเอาใจยิ่งลักษณ์เมื่อตอนเลือกตั้งแน่
ความฮือฮาของคำพยากรณ์ที่ต่อเนื่องกันหลายบทที่กล่าวถึงความเป็นไปของบ้านเมือง ในช่วงสัก6-7 ปีที่ผ่านมานี้ช่างตรงกับคำพยากรณ์อย่างน่าอัศจรรย์
“แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน”
ช่วงนั้นบ้านเมือง แบ่งเป็น2ขั้วแบ่งเป็นเหลืองแดงอย่างชัดเจน มีการปราบจลาจล มีคนล้มตาย บ้านเมืองอยู่ในวิกฤติทางการเมืองเรื่อยมาตั้งแต่นายกสมัคร นายกสมชายและนายกมาร์ค
จนกระทั่งมาถึงยุค
หนึ่งนารีขี่ม้าขาว
“จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ”
จุดมุ่งหมายกระทู้นี้ของผมคือ ต้องการจะมาคลายปริศนา มาให้เหตุผลว่า การพยากรณ์ในกลอนบทนี้
จะหมายถึงท่านยิ่งลักษณ์อย่างแท้จริงหรือไม่ ถ้าใช่ก็จะเป็นการให้กำลังใจท่านทำงานได้อย่างดีอีกทางหนึ่ง
ผมเห็นว่า กลอน4 บันทัดข้างต้นนี้ มีเนื้อหาเดียวกันที่ผู้พยากรณ์ต้องการสื่อว่า
“ หนึ่งนารีที่ควงทฑาและผู้ปกครองที่เป็นหญิง “ คือคนเดียวกัน จึงมารวมไว้บทเดียวกัน
(ที่ผ่านๆมาผมอ่านมาจากหลายที่ตีความว่าเป็นคนละคน)
คำว่า "สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ" ผมมองว่าต้องตีความ ว่าหมายถึง ถึงปัญหาอุปสรรคของการบริหารการปกครอง มากกว่าที่จะเป็นสายน้ำจริงๆในช่วงน้ำท่วม ซึ่งบังเอิญเกิดขึ้นพอดีในช่วงที่ยิงลักษณ์เป็นนายก
ถ้าดูจากคำพยากรณ์ที่ว่า “ จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว”
ผมเห็นว่าคือ ท่าน ยิ่งลักษณ์ แน่ๆครับ โดยมีเหตุผลรองรับดังนี้
ประการแรก โปรดดูคำว่า” ม้าขาว” นะครับ ผมเชื่อว่า หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า” อัศวิน ขี่ม้าขาว” มาช่วย
ในกรณีย์ที่เกิดสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะสิ้นหวัง หรือ อับจนหนทาง
หากมีใครสักคนได้เข้ามาช่วยแบบไม่ได้คาดหมาย โดยไม่ได้คาดคิด
เราจะเรียกคนนั้นว่าเป็น” อัศวิน ม้าขาว” และ คำว่าหนึ่งนารี นั้นชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่าอัศวินท่านนี้ คือ เพศหญิง
ท่าน ยิ่งลักษณ์ เป็นที่ทราบกันว่า เข้ามาเป็นแคนดิเดท นายกแบบกระทันมาก แบบไม่คาดคิดมาก่อน
การมาเป็นนายกของท่านยิ่งลักษณ์ เป็นการเข้ามาแก้สถานการณ์ที่เลวร้ายทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสมัคร สมชาย และมาร์ค ต่างบริหารได้อย่างอยากลำบาก จากความขัดแย้งต่างๆ
มายุคท่านยิ่งลักษณ์ ท่านคืออัศวินม้าขาวจริงๆ เพียงแค่เริ่มหาเสียงท่านก็เริ่มกำจัดความขัดแย้งด้วยการขอพบ ท่านผบ ทบ .ประยุทธ์ หลายท่านยังคงจำกันได้ แรกๆก็หมางเมินแต่ตอนนี้ก้ทำงานร่วมกันดี
ท่านยิ่งลักษณ์ท่านเป็นผู้มีบุคลิกนอบน้อม เข้าหาผู้ใหญ่ ต่างกับพี่ชายท่านมากที่แข็งเกินไป
จนวันนี้ทุกฝ่ายทางการเมืองที่เป็นอุปสรรคใหญ่เริ่มมาสนับสนุนท่าน โดยเฉพาะทหารที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเพื่อไทยมาตลอด
ความเป็นสตรีเพศบุคลิกที่นุ่มนวล ไม่โต้ตอบช่วย ลดความขัดแย้ง นำพาการบริหารไปสู่ความสำเร็จ ได้อย่างดียิ่งในทุกด้าน
คำว่า"ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ" นั้นก็ทำนายได้ตรงเผง
เรื่อง อุปสรรค ในการบริหาร ในการปกครอง นายกท่านนี้ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามจัดหนักในหลายเรื่องทุก อิริยาบถ ถือว่ามีอุปสรรคมากมายจริงๆ เพราะท่านไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นนายกแบบนายมาร์ค ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจึงมีมาก ก็โดนฝ่ายตรงข้ามจัดหนักในทุกเรื่อง แต่ท่านก็อดทนแก้ไข ไม่ไม่แก้ตัว ไม่โต้ตอบ นอกจากนี้ท่านยังโดนอีกหลายเรื่องจากฝ่ายตรงข้าม จะเห็นว่ามีทั้งนอกสภาในสภา จากม้อบหลากหลาย
จากโซเซียลเน็คเวอร์ค จากสื่อ ฯลฯ เอาเป็นว่า อุปสรรคมากมายมหาศาลจาระไนได้ไม่หมด แต่ท่านก็ปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างไปได้โดยไม่ย่อท้อ
พวกเราในกระทู้นี้ขอเป็นกำลังใจให้ท่านฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปให้ได้โดยราบรื่น
เหลือเพียงคำว่า "ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง" ที่หลายคนติดใจว่าคำพยากรณ์ตรงจุดนี้ว่าจะต้องไม่ใช่สามัญชน
จริงๆแล้วเป็นเรื่อง” เส้นผมบังภูเขา” มานาน
คำว่า "ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"
จริงๆมีความหมายที่ตรงตัวมากๆ ไม่ต้องคิดไปไกลมาก เพราะ
คำว่า ควงคฑา คำคำนี้ ผมหรือใครๆจะสามารถจะนึกถึง คำว่า ดรัมเมเย่อร์ที่ต้องควงทฑาเวลานำขบวนพาเหรด
เราก็ใช้คำคำนี้ในภาษาที่เข้ากันใจดีอยู่แล้วโดยทั่วไป
ผมค้นข้อมูลไปทราบว่า ท่านนายกยิ่งลักษณ์ เคยเป็นดรัมเมเย่อร์สมัยเรียนมัธยมฯมาก่อน
แต่ก็ยังไม่ได้แก้ปริศนาว่าตรงกับคำทำนาย
เพราะคำว่า "ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง" นั้นต้องสอดคล้องหรือเป็น เหตุการณ์ที่"ต่อเนื่อง"กับคำว่า
จะมี
หนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผมพยายาม ค้นหาความต่อเนื่องนี้ต่อ
จนกระทั่งได้อ่านบทความของคุณวาทตะวัน สุพรรณเภษัช
ที่ได้เปรียบการทำหน้าที่ของ นายกยิ่งลักษณ์ว่า
เป็นเสมือนดั่ง ดรัมเมเย่อร์ของประเทศที่นำสยามประเทศไปสู่ความมีชื่อเสียง
ให้อารยะประเทศได้รู้จักในทางที่ดีขึ้น
ปริศนาในใจผม พลันถูกกำจัดไปอย่างหมดสิ้น ครับ
คำว่าควงคฑา เป็นคำกิริยา ที่ใช้กับดรัมเมเย่อร์ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป
คุณวาทตะวัน เปรียบ ท่านยิ่งลักษณ์เป็นดรัมเมเย่อร์ของไทยแลนด์แบนด์
“ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง”
มุ่งสู่ดาว คือ มุ่งสู่ความสำเร็จ ความงดงาม ความมีชื่อเสียง เป็น The star สามารถสื่อ หรือ ตีความได้แบบนี้แน่อยู่แล้ว
"ควงคฑา" เป็นกริยาของดรัมเมเย่อร์ผู้นำBand สามารถตีความได้อย่างสอดคล้องว่า ผู้นำประเทศนายกยิ่งลักษณ์กำลังบริหารประเทศปฏิบัติหน้าที่สร้างชื่อเสียงสู่ความสำเร็จให้กับประเทศ
ผมเห็นว่า ท่านายกยิ่งลักษณ์ที่ผ่านมาเกือบ2ปีนี้นั้น ได้ทำหน้าที่ได้อย่างคำทำนาย ทีเดียว
การปฏิบัติหน้าที่ทั้งในไทยและต่างประเทศมากมายหลายครั้ง ผมเห็นแต่ภาพที่มีความสง่างามของท่าน(ผมขอเอามาภาพลง 2 ภาพจากกระทู้ก่อนหน้า)
อย่างไรก็ตามขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยนำภาพเหล่านั้นมาลงประกอบด้วยนะครับ
จริงๆจะว่าไป มาร์ค ของเราก็เคยเป็นดรัมเมเย่อร์ไทยแลนด์แบนด์มาเช่นกัน แต่ควงคฑาพาประเทศลงเหว ไม่ได้มุ่งสู่ดาวแบบท่านยิ่งลักษณ์(ฮา)
สิ่งที่ผมเขียนมานี้ก็เป็นการถอดคำพยากรณ์ที่ติดค้างในใจผมมานาน ต้องขอบคุณ” คุณ วาทตะวัน สุพรรณเภษัช” ที่ช่วยทำให้ปริศนาในใจถูกกำจัดไปโดยหมดสิ้น ถ้ามีใครอ่านกระทู้นี้แล้วจะไปบอกท่านนายกยิ่งลักษณ์ ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ขออนุญาต ลิ้งค์ บทความของคุณ วาทตะวัน ไว้ข้างล่างนี้
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=338
+++กระทู้NONสลิ่มNONแมลงสาป ขอเชิญมาร่วมให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ “หนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง”+++
จากหัวกระทู้ที่ผมตั้งนี้ เกิดจากการจุดประกายของท่านพี่ อาร์ต โฟล์คสวาเก้นฯ ในกระทู้ยิ่งลักษณ์ยิ้มเย้ยยุทธจักร ที่พูดถึงคำพยากรณ์ไว้ในกระทู้ล่างๆที่ผ่านมา
ผมได้ยินคำพยากรณ์มานานกว่า20ปีแล้ว หลายท่านเข้าใจว่าท่านฤาษีลิงดำทำนายไว้แต่จริงๆไม่ใช่ เพราะทางทนายของสำนักฤาษีออกมาปฏิเสธแล้ว
คำพยากรณ์นี้มีมาช้านานแล้ว เป็นคำทำนาย คำพยากรณ์อนาคตของบ้านเมือง อาจเป็นของปราชญ์ หรือ ผู้ทรงศีล ผู้หยั่งรู้อนาคต ท่านใดท่านหนึ่ง เอาเป็นว่าคำทำนายนี้มีอยู่จริงก็พอ ไม่ใช่มาแต่งเอาใจยิ่งลักษณ์เมื่อตอนเลือกตั้งแน่
ความฮือฮาของคำพยากรณ์ที่ต่อเนื่องกันหลายบทที่กล่าวถึงความเป็นไปของบ้านเมือง ในช่วงสัก6-7 ปีที่ผ่านมานี้ช่างตรงกับคำพยากรณ์อย่างน่าอัศจรรย์
“แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน”
ช่วงนั้นบ้านเมือง แบ่งเป็น2ขั้วแบ่งเป็นเหลืองแดงอย่างชัดเจน มีการปราบจลาจล มีคนล้มตาย บ้านเมืองอยู่ในวิกฤติทางการเมืองเรื่อยมาตั้งแต่นายกสมัคร นายกสมชายและนายกมาร์ค
จนกระทั่งมาถึงยุค
หนึ่งนารีขี่ม้าขาว
“จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ”
จุดมุ่งหมายกระทู้นี้ของผมคือ ต้องการจะมาคลายปริศนา มาให้เหตุผลว่า การพยากรณ์ในกลอนบทนี้
จะหมายถึงท่านยิ่งลักษณ์อย่างแท้จริงหรือไม่ ถ้าใช่ก็จะเป็นการให้กำลังใจท่านทำงานได้อย่างดีอีกทางหนึ่ง
ผมเห็นว่า กลอน4 บันทัดข้างต้นนี้ มีเนื้อหาเดียวกันที่ผู้พยากรณ์ต้องการสื่อว่า
“ หนึ่งนารีที่ควงทฑาและผู้ปกครองที่เป็นหญิง “ คือคนเดียวกัน จึงมารวมไว้บทเดียวกัน
(ที่ผ่านๆมาผมอ่านมาจากหลายที่ตีความว่าเป็นคนละคน)
คำว่า "สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ" ผมมองว่าต้องตีความ ว่าหมายถึง ถึงปัญหาอุปสรรคของการบริหารการปกครอง มากกว่าที่จะเป็นสายน้ำจริงๆในช่วงน้ำท่วม ซึ่งบังเอิญเกิดขึ้นพอดีในช่วงที่ยิงลักษณ์เป็นนายก
ถ้าดูจากคำพยากรณ์ที่ว่า “ จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว”
ผมเห็นว่าคือ ท่าน ยิ่งลักษณ์ แน่ๆครับ โดยมีเหตุผลรองรับดังนี้
ประการแรก โปรดดูคำว่า” ม้าขาว” นะครับ ผมเชื่อว่า หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า” อัศวิน ขี่ม้าขาว” มาช่วย
ในกรณีย์ที่เกิดสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะสิ้นหวัง หรือ อับจนหนทาง
หากมีใครสักคนได้เข้ามาช่วยแบบไม่ได้คาดหมาย โดยไม่ได้คาดคิด
เราจะเรียกคนนั้นว่าเป็น” อัศวิน ม้าขาว” และ คำว่าหนึ่งนารี นั้นชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่าอัศวินท่านนี้ คือ เพศหญิง
ท่าน ยิ่งลักษณ์ เป็นที่ทราบกันว่า เข้ามาเป็นแคนดิเดท นายกแบบกระทันมาก แบบไม่คาดคิดมาก่อน
การมาเป็นนายกของท่านยิ่งลักษณ์ เป็นการเข้ามาแก้สถานการณ์ที่เลวร้ายทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสมัคร สมชาย และมาร์ค ต่างบริหารได้อย่างอยากลำบาก จากความขัดแย้งต่างๆ
มายุคท่านยิ่งลักษณ์ ท่านคืออัศวินม้าขาวจริงๆ เพียงแค่เริ่มหาเสียงท่านก็เริ่มกำจัดความขัดแย้งด้วยการขอพบ ท่านผบ ทบ .ประยุทธ์ หลายท่านยังคงจำกันได้ แรกๆก็หมางเมินแต่ตอนนี้ก้ทำงานร่วมกันดี
ท่านยิ่งลักษณ์ท่านเป็นผู้มีบุคลิกนอบน้อม เข้าหาผู้ใหญ่ ต่างกับพี่ชายท่านมากที่แข็งเกินไป
จนวันนี้ทุกฝ่ายทางการเมืองที่เป็นอุปสรรคใหญ่เริ่มมาสนับสนุนท่าน โดยเฉพาะทหารที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเพื่อไทยมาตลอด
ความเป็นสตรีเพศบุคลิกที่นุ่มนวล ไม่โต้ตอบช่วย ลดความขัดแย้ง นำพาการบริหารไปสู่ความสำเร็จ ได้อย่างดียิ่งในทุกด้าน
คำว่า"ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ" นั้นก็ทำนายได้ตรงเผง
เรื่อง อุปสรรค ในการบริหาร ในการปกครอง นายกท่านนี้ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามจัดหนักในหลายเรื่องทุก อิริยาบถ ถือว่ามีอุปสรรคมากมายจริงๆ เพราะท่านไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นนายกแบบนายมาร์ค ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจึงมีมาก ก็โดนฝ่ายตรงข้ามจัดหนักในทุกเรื่อง แต่ท่านก็อดทนแก้ไข ไม่ไม่แก้ตัว ไม่โต้ตอบ นอกจากนี้ท่านยังโดนอีกหลายเรื่องจากฝ่ายตรงข้าม จะเห็นว่ามีทั้งนอกสภาในสภา จากม้อบหลากหลาย
จากโซเซียลเน็คเวอร์ค จากสื่อ ฯลฯ เอาเป็นว่า อุปสรรคมากมายมหาศาลจาระไนได้ไม่หมด แต่ท่านก็ปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างไปได้โดยไม่ย่อท้อ
พวกเราในกระทู้นี้ขอเป็นกำลังใจให้ท่านฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปให้ได้โดยราบรื่น
เหลือเพียงคำว่า "ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง" ที่หลายคนติดใจว่าคำพยากรณ์ตรงจุดนี้ว่าจะต้องไม่ใช่สามัญชน
จริงๆแล้วเป็นเรื่อง” เส้นผมบังภูเขา” มานาน
คำว่า "ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"
จริงๆมีความหมายที่ตรงตัวมากๆ ไม่ต้องคิดไปไกลมาก เพราะ
คำว่า ควงคฑา คำคำนี้ ผมหรือใครๆจะสามารถจะนึกถึง คำว่า ดรัมเมเย่อร์ที่ต้องควงทฑาเวลานำขบวนพาเหรด
เราก็ใช้คำคำนี้ในภาษาที่เข้ากันใจดีอยู่แล้วโดยทั่วไป
ผมค้นข้อมูลไปทราบว่า ท่านนายกยิ่งลักษณ์ เคยเป็นดรัมเมเย่อร์สมัยเรียนมัธยมฯมาก่อน
แต่ก็ยังไม่ได้แก้ปริศนาว่าตรงกับคำทำนาย
เพราะคำว่า "ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง" นั้นต้องสอดคล้องหรือเป็น เหตุการณ์ที่"ต่อเนื่อง"กับคำว่า
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผมพยายาม ค้นหาความต่อเนื่องนี้ต่อ
จนกระทั่งได้อ่านบทความของคุณวาทตะวัน สุพรรณเภษัช
ที่ได้เปรียบการทำหน้าที่ของ นายกยิ่งลักษณ์ว่า
เป็นเสมือนดั่ง ดรัมเมเย่อร์ของประเทศที่นำสยามประเทศไปสู่ความมีชื่อเสียง
ให้อารยะประเทศได้รู้จักในทางที่ดีขึ้น
ปริศนาในใจผม พลันถูกกำจัดไปอย่างหมดสิ้น ครับ
คำว่าควงคฑา เป็นคำกิริยา ที่ใช้กับดรัมเมเย่อร์ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป
คุณวาทตะวัน เปรียบ ท่านยิ่งลักษณ์เป็นดรัมเมเย่อร์ของไทยแลนด์แบนด์
“ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง”
มุ่งสู่ดาว คือ มุ่งสู่ความสำเร็จ ความงดงาม ความมีชื่อเสียง เป็น The star สามารถสื่อ หรือ ตีความได้แบบนี้แน่อยู่แล้ว
"ควงคฑา" เป็นกริยาของดรัมเมเย่อร์ผู้นำBand สามารถตีความได้อย่างสอดคล้องว่า ผู้นำประเทศนายกยิ่งลักษณ์กำลังบริหารประเทศปฏิบัติหน้าที่สร้างชื่อเสียงสู่ความสำเร็จให้กับประเทศ
ผมเห็นว่า ท่านายกยิ่งลักษณ์ที่ผ่านมาเกือบ2ปีนี้นั้น ได้ทำหน้าที่ได้อย่างคำทำนาย ทีเดียว
การปฏิบัติหน้าที่ทั้งในไทยและต่างประเทศมากมายหลายครั้ง ผมเห็นแต่ภาพที่มีความสง่างามของท่าน(ผมขอเอามาภาพลง 2 ภาพจากกระทู้ก่อนหน้า)
อย่างไรก็ตามขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยนำภาพเหล่านั้นมาลงประกอบด้วยนะครับ
จริงๆจะว่าไป มาร์ค ของเราก็เคยเป็นดรัมเมเย่อร์ไทยแลนด์แบนด์มาเช่นกัน แต่ควงคฑาพาประเทศลงเหว ไม่ได้มุ่งสู่ดาวแบบท่านยิ่งลักษณ์(ฮา)
สิ่งที่ผมเขียนมานี้ก็เป็นการถอดคำพยากรณ์ที่ติดค้างในใจผมมานาน ต้องขอบคุณ” คุณ วาทตะวัน สุพรรณเภษัช” ที่ช่วยทำให้ปริศนาในใจถูกกำจัดไปโดยหมดสิ้น ถ้ามีใครอ่านกระทู้นี้แล้วจะไปบอกท่านนายกยิ่งลักษณ์ ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ขออนุญาต ลิ้งค์ บทความของคุณ วาทตะวัน ไว้ข้างล่างนี้
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=338