แบ่งปันความรู้ แชร์ ประสบการณ์ ขอสินเชื่อบ้าน ราคา 6 ล้าน ในวัย 26 ปี (ได้รับการอนุมัติแล้วค่ะ)

เราเชื่อว่า คำถามที่พบเห็นทุกวัน ในการขอสินเชื่อบ้าน คือ การเป็นเป็นกังวลกับการขอสินเชื่อบ้าน อยากมีบ้าน แต่ ไม่แน่ใจว่า เงินเดือนเท่านี้ จะกู้ผ่านไหม?
วันนี้เราขออนุญาติแชร์ประสบการณ์ การขอกู้สินเชื่อ (ที่เราไม่คิดว่าจะได้ แต่ เราก็ได้มาแล้วค่ะ)  เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน เพราะเราเชื่อว่า "บ้าน" น่าจะเป็นความฝันของใครหลายๆคน ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เราขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวคร่าวๆ เราเป็น อดีตสาวออฟฟิต บ.เอกชน  ปัจจุบัน อายุ 27 ปี 3เดือน  เริ่มทำงานออฟฟิตกินเงินเดือนจริงๆจังๆ เมื่อปี 2010

ปี 2010 เดือนมีนาคม เริ่มทำงานที่แรก เงินเดือน 20,000 บาทถ้วน (ทำงาน 6เดือน ได้รับอนุมัติบัตรเครดิต 2 ใบ )
ปี 2011 เดือนมกราคม ย้ายไปทำงานที่ใหม่ เงินเดือน 25,000 บาท

----------------------------------------------
การขอกู้ซื้อบ้านครั้งแรก เริ่มขึ้นในช่วงปี 2011 ราวๆ เดือนมิถุนายน (ในขณะนั้น เงินเดือน 25000บาท กับ ภาระบัตรเครดิต 2ใบ)
ไปดูโครงการทาวน์โฮม ราคา 5,400,000 บาท ได้ใบเสนอราคาจากโครงการมา 1 ใบ ไปยื่นให้ธนาคาร Pre-Approve เบื้องต้น (ยังไม่ได้ทำการจองนะคะ ตอนนั้นเราอยากรู้ความสามารถและกำลังในการกู้ของตัวเอง และทางโครงการก็แนะนำให้ลองยื่นพรีดูค่ะ)

จำได้เลยว่า วันนั้น เดินดุ่มๆ เข้าไป ธนาคารแห่งหนึ่ง ใต้ตึกออฟฟิต และบอกเจ้าหน้าที่ว่า อยากขอปรึกษาการกู้สินเชื่อบ้านค่ะ
(ตอนเดินไปถาม ไม่มีเอกสารอะไรไปนะคะ มีแต่ตัว กับ หัวใจนักสู้ล้วนๆ) ก็เล่าให้ธนาคารฟังว่าเราอยากจะซื้อบ้านของตัวเองนะ กู้คนเดียวไม่มีใคร ทำงานกินเงินเดือนเท่าไหร่ มีอะไรบ้าง เล่าๆให้ฟังหมดเปลือกค่ะ เจ้าหน้าที่รับฟัง และบอกว่า ให้เตรียมเอกสาร ตามนี้ๆมาค่ะ (เอกสารทั่วไปที่จำเป็น + เอกสารที่ธนาคารขอเพิ่มพิเศษ)

เชื่อว่าถึงตรงนี้ ต้องมีคนหลายคนแย้งว่า มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่ เงินเดือน เท่านี้ จะซื้อบ้าน ราคา 5ล้านกว่าๆได้ (เราก็ไม่เชื่อค่ะ)

วันต่อมา เราก็เอาเอกสาร ที่เค้าต้องการ ไปให้ เอกสารเราไม่เหมือนคนอื่นแน่นอนค่ะ เพราะเรามีอะไร เราเอาให้เจ้าหน้าที่หมดเลยค่ะ
เช่น ทรานสคริป พาสปอร์ต วีซ่า เข้าออกต่างประเทศ บัญชีเงินฝากประจำ มีกี่บัญชี สำเนาโฉนดคอนโดปลอดภาระ ยื่นให้หมดทุกอย่างที่มี  << หลายคนคงแปลกใจเอกสารเหล่านี้ เกี่ยวอะไรด้วยกับการขอสินเชื่อ

วันที่เราเดินไปหาแบงค์ พร้อมจิตใจอันแรงกล้า เราบอกแบงค์ว่า เราเริ่มทำงาน ตอน อายุ 18 มีรายได้ จากการทำงานพิเศษ ตอนเรียนเมืองนอก มีการบินเข้าออกต่างประเทศ (เป็นล่ามให้กับลูกค้า) ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานเมืองนอกมาตลอด จนกระทั้งเริ่มทำงานประจำ ดังนั้น ก่อนหน้านี้ เรามีรายได้ และเงินเก็บอยู่บ้างนิดหน่อย ราวๆ 6 หลัก (ฝากเงินไว้กับแบงค์นี้ตั้งแต่เด็ก) และ คอนโดปลอดภาระ 1 ห้อง  ด้วยความสัตย์จริง จึงได้เอกเอกสารข้างต้นให้แบงค์ว่าสิ่งที่เราเล่า คือความจริง! คุยกับแบงค์ โม้ ได้โม้เลยค่ะ ให้เห็นถึงความสามารถ ที่เราจะผ่อนกับแบงค์ได้ (แต่อย่าเกินจริงนะคะ)

หลังจากที่ให้เอกสาร ทั้งหมดไป แบงค์ที่รักก็หายไป 1 เดือนได้มั่งคะ
จำได้ว่า วันที่แบงค์โทรมา คือวันที่เราเริ่มทำงานที่ใหม่แล้วค่ะ
(ยอมรับว่า ถอดใจไปแล้ว เพราะคิดว่าไม่ได้ ปกติ แบงค์ใช้เวลาอนุมัติเบื้องต้นไม่น่าเกิน 2 อาทิตย์ แต่นี่ ล่อไปเป็นเดือน เชียวค่ะ
แบงค์โทรมาหาเรา แล้วก็บอกว่า คุณ xxx ครับ ทางธนาคาร ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อบ้านให้คุณ จำนวน 4,500,000 บาท คุณลองมองหาโครงการอื่นๆที่ราคา cover กับสินเชื่อที่คุณได้ดีไหมครับ เราขอบคุณและปฏิเสธการขอใช้วงเงินในขณะนั้น)

----------------------------------------------
6 เดือนต่อมา เราโทรกลับไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิม ขอยื่นกู้ใหม่อีกครั้ง ด้วยเงินเดือน 45,000 บาท (บัตรเครดิต 4 ใบ พร้อมภาระ 6 หลัก ) บ้านที่ต้องการซื้อคราวนี้ ขยับไปที่ 6,200,000 บาท !! (6เดือนก่อนบอกให้เราหาบ้านราคาต่ำลง ไม่ใช่หรอ 555+)

เจ้าหน้าที่คนเดิม มารับเอกสารเพิ่มเติม (อัพเดทบุ๊กแบงค์ และสลิปเงินเดือนใหม่ จากบริษัทใหม่ไป)  (คราวนี้ เรายื่น 2 แบงค์เลยค่ะ) แบงค์เดิมที่เคยขอเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว กับ แบงค์ใหม่ที่ทางโครงการ นำเสนอมา  

ภายใน 3 วัน เจ้าหน้าที่แบงค์ใหม่โทรหาเราค่ะ บอกเราว่า ธนาคาร อนุมัติให้ คุณได้เพียง 2,700,000 บาท !!!! << อ่านไม่ผิดค่ะ ได้ยินเช่นนั้นแล้วจะรออะไรคะ รีบขอบคุณและวางหูซะ ( บัตรเครดิตที่จ่ายดอกให้ทุกเดือน อนุมัติวงเงินมาแค่นี้ ลาก่อน) โบกมือลา ธนาคารใหม่แบบไม่รีรอ  

คราวนี้รอ ธนาคารเดิมโทรกลับมา ....นานอีกแล้วค่ะ เดือนกว่าเห็นจะได้ แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ธนาคาร โทรมาบอกเราว่า

ธนาคาร : สวัสดีครับ คุณ xxx คุณได้รับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อบ้านแล้วนะครับ แต่เราต้องขอโทษด้วยที่ให้คุณได้แค่เพียง 6,000,000 บาทเท่านั้น
เรา : กรี๊ดดดดด จริงหรอคะ ไม่เป็นไร 6 ล้านก็เอาค่ะ ให้ไปหาเลยไหมคะ สัญญากู้ เซ็นเลยไหม เอาค่ะ เอา
ธนาคาร : ต้องเอานะครับ เพราะ ถ้าไม่เอาคราวนี้ จะกลับมาขอคราวหน้าลำบากแน่ คราวที่แล้ว ให้ไปทีไม่ยอมรับ
เรา : ก็แหม ส่วนต่างเยอะขนาดนั้น จะไปหาที่ไหนมาโปะ (( ถึงมีก็ไม่เอาหรอกค่ะ))
ธนาคาร : ครับ สะดวกเข้ามา เซ็นสัญญาวันไหนครับ ....
----------------------------------------------

จากวันนั้น ถึงวันนี้ มีภาระ 30 ปี เป็นของตัวเองแล้วค๊า ในวัย 26 ปี กู้บ้านราคา 6 ล้าน ผ่านแล้ว !!!!

สโลแกน ธนาคารนี้มีจริงนะคะ  กล้าคิด ก็กล้าให้ (เราคิดซื้อบ้าน ธนาคารก็กล้าให้เรา)  

ต้องขอบคุณ เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลเรื่องของเรา เราบอกได้เลยว่า จะกู้บ้านผ่านไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องนี้มีผลกับเรามากนะคะ ต้องเป็นคนที่ชงเรื่องเสนอผู้ใหญ่เก่งๆ ฟัง และเข้าใจเรามากๆๆๆ (วันนี้ เจ้าหน้าที่คนนั้น เป็นใหญ่เป็นโต ย้ายมาหลายสาขาแล้วค่ะ จากเจ้าหน้าที่ไปเป็นผู้จัดการแล้ว) ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และธนาคารมากจริงๆ ที่กล้าให้โอกาสและทำความฝันเราเป็นจริง

ตอนนี้ผ่อนบ้านมาได้ ปีกว่าๆ แล้วค่ะ และลาออกจากการเป็นพนักงานบริษัท มาแล้วด้วย ทุกวันนี้ ทำธุรกิจส่วนตัว ตามที่ตัวเองถนัด เพื่อภาระอันใหญ่ยิ่ง

Tip:
* อยากบอกว่าทรัพย์สินอะไรก็ตามแต่ที่มีชื่อคุณเป็นเจ้าของและปลอดภาระ แบงค์เค้าก็เอาไปร่วมประเมินด้วย ไม่มากก็ได้ อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะคะ
* เงินเก็บ กองทุน อะไรก็ตามที่เป็นการออมเงิน เอกสารเหล่านี้ ใช้ได้หมดนะคะ
* มีเงินเข้าออกกับธนาคารไหน ลองยื่นกับธนาคารนั้นดูค่ะ
*เราคิดว่า ที่ธนาคารกล้าให้ อาจเพราะ เรามี คอนโดปลอดภาระ (แต่เราไม่ได้เอาเข้าแบงค์นะคะ แค่แนบเป็นเอกสารโชว์เฉยๆ) ธนาคารคงคิดว่า วันใดที่ไม่มีตังค์จ่ายเราคงขายคอนโดมาจ่ายบ้านแบบนั้นมั่งคะ ฮา..
* คำว่า กู้ไม่ผ่าน เราว่าแบงค์จะไม่ปฏิเสธการขอจากเรา แต่ ให้วงเงิน ได้ไม่เท่าที่เราต้องการ (ถ้าคุณพอมีเงินเก็บบ้าง บอกแบงค์ไปด้วยว่า คุณพอมีเงินเก็บที่จะจ่ายส่วนต่างได้ เท่าไหร่ก็ว่าไป)
*เวลาขอกู้ธนาคาร เราต้องทำให้เค้าเห็นว่าเราสามารถผ่อนเค้าได้จริง (บังเอิญเราขี้เมาท์ ชอบเล่า ก็ตามน้ำไปค่ะ แบงค์บอกเราว่า เราดูไม่เหมือนคนอายุ 26 (ในขณะนั้น) เงินเดือนเทียบกับวัยเดียวกัน ถือว่า ขึ้นเร็ว (อันนี้เราไม่ทราบว่า เค้าพิจารณา โอกาสเติบโตของแต่ละบุคคลด้วยหรือเปล่า)
* สุดท้าย อย่ากลัว อย่าท้อ วันนี้ ไม่ได้ วันหน้า ยังมี ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น <ประโยคนี้ยังใช้ได้อยู่นะคะ  

เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังจะกู้ซื้อบ้าน หรือ วางแผนจะกู้ซื้อบ้าน สู้ๆๆนะคะ เราทำได้ คุณก็ทำได้ : )

ขอบคุณค่ะ
___________________________________________________________________________
21.08.56 :: 02.04 am
** ขออนุญาติเพิ่มเติม ย้ำ! เจตนารมณ์ในการตั้งกระทู้นี้ ไม่ได้จะสนับสนุนให้ใครมาเป็นหนี้ (มากมาย) เหมือนเรา! แต่เราเชื่อว่า ใครก็ตามที่กำลังจะกู้สินเชื่อธนาคารไม่ว่าจะทำอะไร ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลของตัวเองทั้งสิ้น **

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่