บทความจากคุณ Wu Krisaravudh ซึ่ง GMM OME เอามาเผยแพร่
___________________________________________
ตอนนี้คู่ควรจะได้เป็นบทสรุปของซีรีส์จริงๆ...
ผมพยายาม "อ่าน" มาตลอดทั้งชั่วโมงว่าซีรีส์เรื่องนี้ต้องการจะฝากอะไรไว้กันแน่
แล้วก็พบหลายอย่าง... จะเล่าให้ฟังทีละอย่างละกันนะ
ถ้าคุณติดตาม Hormones มาโดยตลอด น่าจะอ่านได้ไม่ยาก
ว่าสารที่ซีรีส์ต้องการส่งถึงคนดูคือ "ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว เพื่อน และการใช้ชีวิต"
และผู้กำกับก็ชอบที่ทิ้งอะไรหลายๆอย่างไว้ให้คนดูคิดเอาเอง โดยไม่เฉลย!!
ในบทสรุปของซีรีส์ สิ่งที่ทิ้งท้ายไว้ก็คือ...
"การเติบโต การเปลี่ยนผ่านผลัดวัย ก้าวจากวัยรุ่นไปเผชิญหน้ากับโลกความจริง และการ
ก้าว ต่อ ไป" !!!!!!!!!!!
...............................................................................................
เบรคแรก
เริ่มฉากแรก... ดาวที่ร่วงลงจากฟ้า... วิน...
ความพยายามที่จะแก้ไขอะไรที่ตัวเองเคยทำเอาไว้ บางครั้งมันก็ไม่ได้ผล
กว่าจะรู้สึกตัว ว่าเวลาที่ผ่านมา ตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ก็สายเกินไปเสียแล้ว!
คนเราไม่ได้มีโอกาสแก้ตัวตลอดไป โอกาสมันมีอยู่แค่ถึงจุดๆนั้น ถ้าผ่านจุดนั้นไป คำว่า "สายเกินไป" ก็ยังเป็นสัจธรรมได้เสมอ...
...............................................................................................
เบรคที่สอง
ถัดมา... Big Event กำลังจะมา...
ผมคิดว่าผู้กำกับฉลาดมากที่เลือกฉาก Big Mountain เป็นฉากสุดท้าย
ปกติภาพยนตร์ที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คน
คือภาพยนตร์ที่ "ยิ่งใหญ่" อย่างเรือยักษ์ Titanic หรือการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์อย่าง Avatar
แล้วอะไรจะเป็นสิ่งที่ "ยิ่งใหญ่" และ "เข้ากับวัยรุ่น" ได้มากไปกว่าคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่อีกล่ะ?
ผมยังนึกตัวเลือกที่จะมาปิดฉากซีรีส์วัยรุ่นให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ไม่ออกจริงๆ...
อีกตัวละครที่น่าสนใจ... นกที่จะก้าวออกจากอกแม่... ดาว
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าคนเป็นพ่อแม่จะพยายามควบคุมให้ชีวิตลูกเป็นไปในแนวทางของตนขนาดไหน สุดท้าย ชีวิต ย่อมมีหนทางของมัน (Jurassic Park บอกผมไว้แบบนั้น)...
...............................................................................................
เบรคที่สาม การก้าวผ่านของตัวละครแต่ละตัว
การผลัดเปลี่ยน การเติบโต และ ก้าวต่อไป
เบรคนี้เป็นเบรคที่ผมชอบที่สุด และคำพูดที่ชอบที่สุดของวันนี้คือ คำพูดของพี่ในวงซีซเคปพ์
"ไม่ต้องกลัวว่าจะเล่นผิดหรือถูก
ปล่อยทุกอย่างออกไปให้เต็มที่
อย่าให้เหลืออะไรไว้เสียใจภายหลัง"
ชีวิตมันเป็นแบบนี้จริงๆ และต้าร์ก็ได้ "เผาไหม้อย่างสมบูรณ์" ในตอนนี้นี่เอง
ฉากที่ภูโผล่มาใกล้ๆเต้ย กำลังจะจับมือกับเต้ย (ซีนนี้ใครๆก็คงคิดแบบนั้น ผู้กำกับเก่งจริงๆที่สื่อฉากนี้ได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดซักคำ) แต่สุดท้ายก็ไม่จับ
ต้าร์เห็นภูกำลังอยู่กับเต้ย แต่ก็สามารถ "ควบคุมตัวเอง" ไม่ให้แสดงอารมณ์ออกมา
และเปลี่ยนอารมณ์ทั้งหมด เอาไปใส่ในเพลง เผาไหม้ลุกโชน
"ไม่ว่าภูกับเต้ยจะยังไงกัน แต่ตอนนี้ ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันกำลังเล่นดนตรี
ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่มี ฉันทุ่มเทลงไปตรงนี้จนหมดแล้ว"
ไม่เหลืออะไรไว้ให้เสียดายภายหลังอีกต่อไป...
ฉากนี้แสดงให้เห็นว่า วุฒิภาวะได้เติบโตขึ้นแล้ว
ต้าร์ได้บรรลุก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งแล้วในที่สุด!!
ซีรีส์ทิ้งปริศนาเอาไว้ว่า แล้วระหว่าง ภู-เต้ย-ต้าร์ จะยังไง?
คำตอบคือ เป็นสไตล์พี่ย้งที่ชอบทิ้งอะไรไว้ให้คนดูสรุปเอง...
...............................................................................................
เบรคสุดท้าย - บทสรุป - ทิฐิละลายลง ผูกพันกันด้วยดนตรี ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่วันนี้เราทั้งหมดคือเพื่อนกัน...
ฉากนี้ค่อยๆถ่ายไปที่ตัวละครแต่ละตัว อยู่กันเป็นคู่ๆ
คู่กันแบบที่ควรจะเป็นน่ะแหละ ไผ่-สไปรท์ ต้าร์-เต้ย ภู-ธีร์
แสดงว่าซีรีส์ต้องการสื่อว่าทุกคนลงเอยกัน(เป็นแฟนกัน)ได้ด้วยดีอย่างนั้นเหรอ?
ผมว่าไม่ใช่...
สิ่งที่ต้องการสื่อก็คือ วันนี้พวกเราทั้งหมดยังไงก็เป็นเพื่อนกัน
ไม่ว่าจะมีทิฐิมาก่อนหน้ากันขนาดไหน แต่วันนี้ ตอนนี้ ณ จุดๆนี้ พวกเราคือเพื่อนกัน!!
ฉากที่ขวัญเดินมาคู่กับสไปรท์ตั้งแต่เบรคแรกก็สื่อความหมายในทำนองนั้นอยู่แล้ว...
วันพรุ่งนี้(หลังงานเลี้ยงเลิกรา)ทุกคนก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตของตน...
และก็ต้อง "เติบโต" ต่อไป...
ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ พี่ตูน Body Slam เคยบอกไว้แบบนั้น...
...............................................................................................
ส่งท้าย : สถาบันครอบครัว...
ครอบครัวแต่ละครอบครัวย่อมมีปัญหาของตน และซีรีส์นี้ก็ค่อยๆเผยให้เห็นว่า
แต่ละครอบครัวปล่อยปัญหาให้เรื้อรังยังไง หรือแก้ปัญหานั้นยังไง
ภาพที่ทุกคนมีภาพถ่ายร่วมกับครอบครัว
ยกเว้นอยู่คนเดียว คนที่ดูเท่ สมาร์ทมาตั้งแต่ตอนแรก วิน
และเป็นคนเดียวที่ดูจะยัง "ก้าวข้าม" พ้นวัยว้าวุ่นของตนไปไม่ได้
ผมเชื่อว่าซีรีส์นี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า สถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่มีพลังมากขนาดไหน
และ "แสงนำทาง" ในตอนต้นเรื่อง แสงแรกแห่งชีวิตของคนทุกคนก็ต่อสถาบันครอบครัวนี่แหละ...
นกที่ขาดแสงนำทางอย่างวิน ก็ต้องร่อนเร่ต่อไปอย่างไม่มีวันจบ
จนซีรีส์ปิดตัวลง วินก็ยังหาทางกลับไม่ได้เลย...
และการร่อนเร่ใน 3 มิติ ไม่มีทางการันตีได้ว่าจะได้กลับมาสู่จุดเดิม
ต่างกับการร่อนเร่ใน 2 มิติที่สามารถกลับมาสู่จุดเดิมได้แน่นอน...
ทฤษฎีบททางคณิตศาสตร์อันหนึ่งบอกไว้ว่าอย่างนั้น
ต้นฉบับ
https://www.facebook.com/dosaku.hao/posts/10151679323559064
เพจ GMM ONE ที่แชร์ต่อ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=218640421626916
ตอนนี้คู่ควรจะได้เป็นบทสรุปของซีรีส์จริงๆ... (Hormones)
___________________________________________
ตอนนี้คู่ควรจะได้เป็นบทสรุปของซีรีส์จริงๆ...
ผมพยายาม "อ่าน" มาตลอดทั้งชั่วโมงว่าซีรีส์เรื่องนี้ต้องการจะฝากอะไรไว้กันแน่
แล้วก็พบหลายอย่าง... จะเล่าให้ฟังทีละอย่างละกันนะ
ถ้าคุณติดตาม Hormones มาโดยตลอด น่าจะอ่านได้ไม่ยาก
ว่าสารที่ซีรีส์ต้องการส่งถึงคนดูคือ "ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว เพื่อน และการใช้ชีวิต"
และผู้กำกับก็ชอบที่ทิ้งอะไรหลายๆอย่างไว้ให้คนดูคิดเอาเอง โดยไม่เฉลย!!
ในบทสรุปของซีรีส์ สิ่งที่ทิ้งท้ายไว้ก็คือ...
"การเติบโต การเปลี่ยนผ่านผลัดวัย ก้าวจากวัยรุ่นไปเผชิญหน้ากับโลกความจริง และการ
ก้าว ต่อ ไป" !!!!!!!!!!!
...............................................................................................
เบรคแรก
เริ่มฉากแรก... ดาวที่ร่วงลงจากฟ้า... วิน...
ความพยายามที่จะแก้ไขอะไรที่ตัวเองเคยทำเอาไว้ บางครั้งมันก็ไม่ได้ผล
กว่าจะรู้สึกตัว ว่าเวลาที่ผ่านมา ตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ก็สายเกินไปเสียแล้ว!
คนเราไม่ได้มีโอกาสแก้ตัวตลอดไป โอกาสมันมีอยู่แค่ถึงจุดๆนั้น ถ้าผ่านจุดนั้นไป คำว่า "สายเกินไป" ก็ยังเป็นสัจธรรมได้เสมอ...
...............................................................................................
เบรคที่สอง
ถัดมา... Big Event กำลังจะมา...
ผมคิดว่าผู้กำกับฉลาดมากที่เลือกฉาก Big Mountain เป็นฉากสุดท้าย
ปกติภาพยนตร์ที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คน
คือภาพยนตร์ที่ "ยิ่งใหญ่" อย่างเรือยักษ์ Titanic หรือการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์อย่าง Avatar
แล้วอะไรจะเป็นสิ่งที่ "ยิ่งใหญ่" และ "เข้ากับวัยรุ่น" ได้มากไปกว่าคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่อีกล่ะ?
ผมยังนึกตัวเลือกที่จะมาปิดฉากซีรีส์วัยรุ่นให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ไม่ออกจริงๆ...
อีกตัวละครที่น่าสนใจ... นกที่จะก้าวออกจากอกแม่... ดาว
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าคนเป็นพ่อแม่จะพยายามควบคุมให้ชีวิตลูกเป็นไปในแนวทางของตนขนาดไหน สุดท้าย ชีวิต ย่อมมีหนทางของมัน (Jurassic Park บอกผมไว้แบบนั้น)...
...............................................................................................
เบรคที่สาม การก้าวผ่านของตัวละครแต่ละตัว
การผลัดเปลี่ยน การเติบโต และ ก้าวต่อไป
เบรคนี้เป็นเบรคที่ผมชอบที่สุด และคำพูดที่ชอบที่สุดของวันนี้คือ คำพูดของพี่ในวงซีซเคปพ์
"ไม่ต้องกลัวว่าจะเล่นผิดหรือถูก
ปล่อยทุกอย่างออกไปให้เต็มที่
อย่าให้เหลืออะไรไว้เสียใจภายหลัง"
ชีวิตมันเป็นแบบนี้จริงๆ และต้าร์ก็ได้ "เผาไหม้อย่างสมบูรณ์" ในตอนนี้นี่เอง
ฉากที่ภูโผล่มาใกล้ๆเต้ย กำลังจะจับมือกับเต้ย (ซีนนี้ใครๆก็คงคิดแบบนั้น ผู้กำกับเก่งจริงๆที่สื่อฉากนี้ได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดซักคำ) แต่สุดท้ายก็ไม่จับ
ต้าร์เห็นภูกำลังอยู่กับเต้ย แต่ก็สามารถ "ควบคุมตัวเอง" ไม่ให้แสดงอารมณ์ออกมา
และเปลี่ยนอารมณ์ทั้งหมด เอาไปใส่ในเพลง เผาไหม้ลุกโชน
"ไม่ว่าภูกับเต้ยจะยังไงกัน แต่ตอนนี้ ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันกำลังเล่นดนตรี
ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่มี ฉันทุ่มเทลงไปตรงนี้จนหมดแล้ว"
ไม่เหลืออะไรไว้ให้เสียดายภายหลังอีกต่อไป...
ฉากนี้แสดงให้เห็นว่า วุฒิภาวะได้เติบโตขึ้นแล้ว
ต้าร์ได้บรรลุก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งแล้วในที่สุด!!
ซีรีส์ทิ้งปริศนาเอาไว้ว่า แล้วระหว่าง ภู-เต้ย-ต้าร์ จะยังไง?
คำตอบคือ เป็นสไตล์พี่ย้งที่ชอบทิ้งอะไรไว้ให้คนดูสรุปเอง...
...............................................................................................
เบรคสุดท้าย - บทสรุป - ทิฐิละลายลง ผูกพันกันด้วยดนตรี ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่วันนี้เราทั้งหมดคือเพื่อนกัน...
ฉากนี้ค่อยๆถ่ายไปที่ตัวละครแต่ละตัว อยู่กันเป็นคู่ๆ
คู่กันแบบที่ควรจะเป็นน่ะแหละ ไผ่-สไปรท์ ต้าร์-เต้ย ภู-ธีร์
แสดงว่าซีรีส์ต้องการสื่อว่าทุกคนลงเอยกัน(เป็นแฟนกัน)ได้ด้วยดีอย่างนั้นเหรอ?
ผมว่าไม่ใช่...
สิ่งที่ต้องการสื่อก็คือ วันนี้พวกเราทั้งหมดยังไงก็เป็นเพื่อนกัน
ไม่ว่าจะมีทิฐิมาก่อนหน้ากันขนาดไหน แต่วันนี้ ตอนนี้ ณ จุดๆนี้ พวกเราคือเพื่อนกัน!!
ฉากที่ขวัญเดินมาคู่กับสไปรท์ตั้งแต่เบรคแรกก็สื่อความหมายในทำนองนั้นอยู่แล้ว...
วันพรุ่งนี้(หลังงานเลี้ยงเลิกรา)ทุกคนก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตของตน...
และก็ต้อง "เติบโต" ต่อไป...
ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ พี่ตูน Body Slam เคยบอกไว้แบบนั้น...
...............................................................................................
ส่งท้าย : สถาบันครอบครัว...
ครอบครัวแต่ละครอบครัวย่อมมีปัญหาของตน และซีรีส์นี้ก็ค่อยๆเผยให้เห็นว่า
แต่ละครอบครัวปล่อยปัญหาให้เรื้อรังยังไง หรือแก้ปัญหานั้นยังไง
ภาพที่ทุกคนมีภาพถ่ายร่วมกับครอบครัว
ยกเว้นอยู่คนเดียว คนที่ดูเท่ สมาร์ทมาตั้งแต่ตอนแรก วิน
และเป็นคนเดียวที่ดูจะยัง "ก้าวข้าม" พ้นวัยว้าวุ่นของตนไปไม่ได้
ผมเชื่อว่าซีรีส์นี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า สถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่มีพลังมากขนาดไหน
และ "แสงนำทาง" ในตอนต้นเรื่อง แสงแรกแห่งชีวิตของคนทุกคนก็ต่อสถาบันครอบครัวนี่แหละ...
นกที่ขาดแสงนำทางอย่างวิน ก็ต้องร่อนเร่ต่อไปอย่างไม่มีวันจบ
จนซีรีส์ปิดตัวลง วินก็ยังหาทางกลับไม่ได้เลย...
และการร่อนเร่ใน 3 มิติ ไม่มีทางการันตีได้ว่าจะได้กลับมาสู่จุดเดิม
ต่างกับการร่อนเร่ใน 2 มิติที่สามารถกลับมาสู่จุดเดิมได้แน่นอน...
ทฤษฎีบททางคณิตศาสตร์อันหนึ่งบอกไว้ว่าอย่างนั้น
ต้นฉบับ
https://www.facebook.com/dosaku.hao/posts/10151679323559064
เพจ GMM ONE ที่แชร์ต่อ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=218640421626916