"Conjuring คนเรียกผี" หนังจากผู้สร้างเดียวกับ Saw และหนังสยองสุดแนว Insidious ที่แม้ขนาดหนังยังไม่เข้า ก็มีกระแสแรงๆมาว่า หนังเรื่องนี้ได้เรต R ไม่ใช่เพราะฉากโหด ไม่ใช่เพราะฉากโป๊ ไม่ใช่เพราะคำหยาบ แต่ความสยองล้วนๆ ด้วยความที่เป็นคนที่สนุกกับสยองขวัญบันเทิง เลยกลายเป็นหนังที่รอคอยที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปีของผมเลยครับ
หากเราจะเอ่ยถึงหนังผีตลอดช่วงชีวิตที่ได้เคยดูมา ก็กล้าพูดได้นะครับว่า จริงๆแล้วจนถึงทุกวันนี้ ลูกเล่นทุกสิ่งอย่างของหนังผี ที่จะเอามาหลอกนักดูหนังให้ขนลุกซู่ต้านแรงโน้มถ่วงโลกนั้นอาทิเช่นฉาก อุปกรณ์ ผี เสียงได้ถูกคิด ถูกประดิษฐ์ ถูกเอามาใช้ จนแทบน่าจะหมดเกลี้ยงละ ขนาดผีในอวกาศก็ยังมีให้เห็นกัน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของคนสร้างหนังสยองขวัญ โดยเฉพาะหนังผี มันไม่ใช่เรื่องของการสร้างสิ่งใหม่ แต่มันคือเอาของเดิมๆนี่แหละมาจัดเรียงใหม่ มาเซ็ตอัพใหม่ จนกลายเป็นหนังสยองขวัญใหม่ๆขึ้นมา
ซึ่งผู้สร้าง Conjuring ประสบความสำเร็จกับการร้อยเรียงเรื่องราว สถานการณ์ เสียงตุ้งแช่ และผีฮู่แร่ ให้ออกมาหลอนคนดูได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว ถึงแม้ไม่ต้องกระหน่ำให้ผีออกมาเดินพาเหรดกันมากมาย ทั้งเรื่องผีกลับออกมาเพียงพอประมาณ แถมให้เห็นผีเต็มๆก็ไม่กี่ฉาก อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นครับ หนังมีการบริหารจัดการอุปกรณ์สะดุ้งคนดูได้ดีเยี่ยม ทั้งเสียง ทั้งสถานการณ์ เนื้อเรื่อง และลูกเล่นต่างๆ ที่ถึงแม้คุณจะเดาได้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหนแต่เดาไม่ถูกหรอกครับว่าจะมาเวลาไหนกันแน่
ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีการดึงเอาความคลาสสิคของหนังสยองขวัญในอดีตกลับมาใช้ได้ได้อย่างน่ายกย่อง และกลมกลืนกับยุคสมัย แถมยังไม่ใช้ไม้ตายแบบที่หนังสยองขวัญยุคนี้ใช้กันอย่างพวกฉาก "อี๋แหวะ" และ "ตับไดไส้พุง" เพราะไม้ตายเหล่านี้ต่อให้ใช้ได้ผลในการดึงความกลัวให้คนดูพุ่งปรี๊ด ผมว่ามันก็ใช้ได้ผลในความพะอืดพะอมมากกว่าหลอนสะดุ้ง ซึ่ง Conjuring เห็นเลือดและฉากโหดๆน้อยมากถึงมากที่สุด (อย่าไปเทียบกับ Evil Dead 2013 อันนั้นขนเลือดมาอย่างกะทะเลสาบ)
สำหรับผม หนังผีที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ไม่ควรจะหยุดอยู่แค่ในโรง แต่ควรจะสานต่อความเสียงสันหลังต่อไปยังที่บ้านของคนดูราวกับว่าผีขอกลับไปนอนด้วย Conjuring ก็ยังคงประสบความสำเร็จที่ดำเนินเรื่องใน "บ้าน" เป็นหลัก และทำให้เราเห็นด้วยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักหลังจากที่ดูหนังผีมามากมายหลายเรื่องว่า "บ้าน" นี่แหละ ทำให้กูกลัวผีมากสุด ฮ่าๆ
และไอเดียที่ล้ำเลิศมากๆที่นำมาใช้คือการเล่นซ่อนแอบปิดตาปรบมือเนี่ยล่ะ เอามาใช้ได้หลอนจิตสุดๆ เรียกได้ว่าดูจบ อยากจะบอกคนรอบข้างว่าเวลา "เวลาเรียกกูนี่ ตะโกนเรียกกูนะ อย่าได้ปรบมือเรียกกรูเชียว"
เป็นหนังผีที่สนุก หลอน สะดุ้ง ตุ้งแช่ บีบหัวใจ ฮู่แร่ แบร้ มาครบ ใครที่ชอบสยองขวัญบันเทิงนี่ผมว่าไม่ควรพลาดเลย แต่ส่วนตัวผมแล้ว ถ้าผู้สร้างเดียวกันผมกลับชื่นชอบ Insidious มากกว่า ที่พยายามคิดค้นลูกเล่นแปลกๆใหม่ๆ และมีความหลอนเหวอระหว่างชมมากกว่า
>>>> A <<<<
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=703858892964491&set=a.261764163840635.83587.246975608652824&type=1&theater
[CR] The Conjuring : สยองขวัญ สั่นประสาท ขนลุกซู่ชูชันต้านแรงโน้มถ่วงโลก
"Conjuring คนเรียกผี" หนังจากผู้สร้างเดียวกับ Saw และหนังสยองสุดแนว Insidious ที่แม้ขนาดหนังยังไม่เข้า ก็มีกระแสแรงๆมาว่า หนังเรื่องนี้ได้เรต R ไม่ใช่เพราะฉากโหด ไม่ใช่เพราะฉากโป๊ ไม่ใช่เพราะคำหยาบ แต่ความสยองล้วนๆ ด้วยความที่เป็นคนที่สนุกกับสยองขวัญบันเทิง เลยกลายเป็นหนังที่รอคอยที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปีของผมเลยครับ
หากเราจะเอ่ยถึงหนังผีตลอดช่วงชีวิตที่ได้เคยดูมา ก็กล้าพูดได้นะครับว่า จริงๆแล้วจนถึงทุกวันนี้ ลูกเล่นทุกสิ่งอย่างของหนังผี ที่จะเอามาหลอกนักดูหนังให้ขนลุกซู่ต้านแรงโน้มถ่วงโลกนั้นอาทิเช่นฉาก อุปกรณ์ ผี เสียงได้ถูกคิด ถูกประดิษฐ์ ถูกเอามาใช้ จนแทบน่าจะหมดเกลี้ยงละ ขนาดผีในอวกาศก็ยังมีให้เห็นกัน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของคนสร้างหนังสยองขวัญ โดยเฉพาะหนังผี มันไม่ใช่เรื่องของการสร้างสิ่งใหม่ แต่มันคือเอาของเดิมๆนี่แหละมาจัดเรียงใหม่ มาเซ็ตอัพใหม่ จนกลายเป็นหนังสยองขวัญใหม่ๆขึ้นมา
ซึ่งผู้สร้าง Conjuring ประสบความสำเร็จกับการร้อยเรียงเรื่องราว สถานการณ์ เสียงตุ้งแช่ และผีฮู่แร่ ให้ออกมาหลอนคนดูได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว ถึงแม้ไม่ต้องกระหน่ำให้ผีออกมาเดินพาเหรดกันมากมาย ทั้งเรื่องผีกลับออกมาเพียงพอประมาณ แถมให้เห็นผีเต็มๆก็ไม่กี่ฉาก อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นครับ หนังมีการบริหารจัดการอุปกรณ์สะดุ้งคนดูได้ดีเยี่ยม ทั้งเสียง ทั้งสถานการณ์ เนื้อเรื่อง และลูกเล่นต่างๆ ที่ถึงแม้คุณจะเดาได้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหนแต่เดาไม่ถูกหรอกครับว่าจะมาเวลาไหนกันแน่
ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีการดึงเอาความคลาสสิคของหนังสยองขวัญในอดีตกลับมาใช้ได้ได้อย่างน่ายกย่อง และกลมกลืนกับยุคสมัย แถมยังไม่ใช้ไม้ตายแบบที่หนังสยองขวัญยุคนี้ใช้กันอย่างพวกฉาก "อี๋แหวะ" และ "ตับไดไส้พุง" เพราะไม้ตายเหล่านี้ต่อให้ใช้ได้ผลในการดึงความกลัวให้คนดูพุ่งปรี๊ด ผมว่ามันก็ใช้ได้ผลในความพะอืดพะอมมากกว่าหลอนสะดุ้ง ซึ่ง Conjuring เห็นเลือดและฉากโหดๆน้อยมากถึงมากที่สุด (อย่าไปเทียบกับ Evil Dead 2013 อันนั้นขนเลือดมาอย่างกะทะเลสาบ)
สำหรับผม หนังผีที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ไม่ควรจะหยุดอยู่แค่ในโรง แต่ควรจะสานต่อความเสียงสันหลังต่อไปยังที่บ้านของคนดูราวกับว่าผีขอกลับไปนอนด้วย Conjuring ก็ยังคงประสบความสำเร็จที่ดำเนินเรื่องใน "บ้าน" เป็นหลัก และทำให้เราเห็นด้วยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักหลังจากที่ดูหนังผีมามากมายหลายเรื่องว่า "บ้าน" นี่แหละ ทำให้กูกลัวผีมากสุด ฮ่าๆ
และไอเดียที่ล้ำเลิศมากๆที่นำมาใช้คือการเล่นซ่อนแอบปิดตาปรบมือเนี่ยล่ะ เอามาใช้ได้หลอนจิตสุดๆ เรียกได้ว่าดูจบ อยากจะบอกคนรอบข้างว่าเวลา "เวลาเรียกกูนี่ ตะโกนเรียกกูนะ อย่าได้ปรบมือเรียกกรูเชียว"
เป็นหนังผีที่สนุก หลอน สะดุ้ง ตุ้งแช่ บีบหัวใจ ฮู่แร่ แบร้ มาครบ ใครที่ชอบสยองขวัญบันเทิงนี่ผมว่าไม่ควรพลาดเลย แต่ส่วนตัวผมแล้ว ถ้าผู้สร้างเดียวกันผมกลับชื่นชอบ Insidious มากกว่า ที่พยายามคิดค้นลูกเล่นแปลกๆใหม่ๆ และมีความหลอนเหวอระหว่างชมมากกว่า
>>>> A <<<<
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=703858892964491&set=a.261764163840635.83587.246975608652824&type=1&theater