จม.ถึงจิตแพทย์.. เรื่องแม่ค่ะ

แม่หนูเคยไปพบจิตแพทย์แล้วค่ะแต่ยังไม่ได้จัดว่าป่วย ไม่มียา ไม่มีการรักษาค่ะ แต่หนูยังมีปัญหา เรียกตัวเองว่าหนูแต่จริงๆอายุยี่สิบสองแล้วค่ะ จม.นี้ตั้งใจจะเอาไปให้วันจันทร์นี้ที่นัดไว้..

อย่าเพิ่งไล่หนูกลับนะคะ _/\_  มันเป็นปัญหาจริงๆสิ่งที่รบกวนหนูอยู่ คือหลายครั้งที่ผ่านมาหนูสับสนและเรียบเรียงมันเป็นคำพูดดีๆออกมาไม่ได้ แต่ครั้งนี้หนูรู้สึกว่าเข้มแข็งขึ้นและพร้อมที่จะเผชิญหน้าและแก้ปัญหา หรือบางทีมันอาจไม่ใช่ปัญหาเป็นแค่เรื่องเล็ก? แต่มันกระทบชีวิตและความหวาดกลัวถึงอนาคตของหนูเหลือเกิน หนูหวังว่ามันจะพอมีทางแก้ให้ดีขึ้นได้ หรืออย่างน้อยให้หนูได้มีวิธีวางใจนะค่ะ คือ
ปัญหาของหนูคือเรื่อง แม่ ค่ะ
สาเหตุที่นำหนูมาในวันนี้คือ
1.    หนูกลัวถูกทำร้ายทั้งทางกายและใจ มันมีหลายเหตุการณ์มากที่ทำให้หนูคิดอย่างนี้
2.    หนูรู้สึกว่าหนูเริ่มโทษปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหลายไปที่แม่
3.    แม่คิดว่าทุกคนจะทิ้งแม่ไป หนูอยากเข้าใจว่าแม่หนูเป็นอะไร หนูเข้าใจว่าคงมีความผิดปกติบางอย่างแต่ก็ยังไม่ถึงกับบ้าก็จริง แต่มันทำร้ายแม่และ เอ่อหนูคิดว่าหนูและพ่อด้วย และความผิดปกตินั้นมีข้อควรระวังอะไร
4.    หนูเองไม่รู้จะปรึกษาใคร หรือตัวเองมองเห็นเหตุการณ์ถูกต้องหรือไม่เพราะหนูก็ chronic depression จากเรื่องนี้มานานและก็เป็น OCD ตอนเด็กๆด้วย หรือบางทีปัญหาเป็นที่ตัวหนูเองด้วย?
5.    พ่อหนูสบายดีมาก มากจนหนูไม่เข้าใจว่าพ่อวางตัววางใจได้อย่างไร
คือเรื่องนี้มันเหมือนเกิดขึ้นตลอดเวลาแต่หนูเลี่ยงที่จะยอมรับและพูดถึงมัน มานานแล้วอะค่ะ คือทุกครั้งที่หนูบอกว่าเศร้าจากเรื่องเพื่อนหรือเรื่องอื่นๆแต่จริงๆแล้วปัญหามันอยู่ที่เรื่อง แม่ ตลอดเวลาเลยค่ะ และตอนนี้คือหนูคงทำใจให้รักแม่ไม่ได้แล้ว เพราะหนูกลัวว่าถ้าทำอย่างนั้นหนูเชื่อว่าหนูจะถูกทำร้ายอีก คือตอนปีสาม ซักสองปีก่อนเรื่องมันเริ่มหนักอะค่ะ ที่ตอนนั้นแม่บอกว่ามีปัญหากับยาย แล้วก็ทะเลาะกันเอาหนูเข้าไปขวางตรงกลางตลอด แต่คำพูดหนึ่งที่หนูจำฝังใจคือ ถ้ายายทำอะไรกับฉัน ฉันก็จะทำกับแกด้วย แล้วถ้าฉันไม่มีความสุข ใครก็ต้องไม่มีความสุข แล้วแม่ก็อาละวาด พาทุกคนออกจากบ้าน ทำเสียงดังโครมครามรุนแรงแล้วก็หนูจำอะไรไม่ค่อยได้อะค่ะ (มันเป็นความผิดปกติด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่หนูจำอะไรๆไม่ค่อยได้เลยอะค่ะมีการ Recall ที่แย่มาก เหมือนไม่อยากจะจำหรือยังไงก็ไม่รู้) แล้วเรื่องก็สงบลง แต่พอหนูใกล้สอบ แม่ก็หาเรื่องยายอีก คือก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าเดินเข้าไปต้องทะเลาะกัน แล้วก็ทะเลาะเรื่องเดิมๆ คือเดินเข้าไปบอกยายด่าเรื่องลูกชายคนโตของเค้า คือเดินเข้าไปด่าก่อนโดยที่ไม่ได้มีเหตุอะไร แล้วก็เอาหนูไปขวางอีก ให้รับรู้อีกเหมือนทุกๆครั้ง ทำเสียงดังสร้างความรุนแรงเหมือนเคย แล้วก็มาเคาะห้องหนูอีกตอนตีสามบอกว่า แกคิดว่าแกจะแย่งสมบัติฉันไปได้หรอ คิดว่ายายเค้าจะยกให้แก กล้าดียังไงมาแย่งของที่เป็นของฉัน.. หนูจำอย่างอื่นไม่ได้จริงๆแต่ช่วงนั้นเกิดเหตุแบบนี้บ่อยมาก บ่อยมากๆแล้วแม่ก็จะโทร.หาหนูตอนกลางวันซักวันละ 10 รอบเป็นปกติอะค่ะ โทร.มาเล่าเรื่องยายเลว แกต้องช่วยชั้น แกต้องเชื่อว่าฉันดีแต่ยายเลว ฉันเป็นแบบนี้ก็รู้ไว้ซะเพราะฉันถูกเลี้ยงดูมาไม่ดี ยายให้กินข้าวกับน้ำปลา แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาๆๆ แต่ที่จำไม่กล้าลืมอีกอย่างคือวันสอบ แม่โทร.มาด่าว่าหนูมันทรพี คิดแย่งสมบัติ งก แกมันก็งกอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ ฉันจำได้เลยแกรู้ไว้ตอนเด็กๆเนี่ยเห็นเพชรปุ๊บตาวาวเลย...  คือเขียนออกมาแล้วรู้สึกตลกดี แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันไม่ตลกเลยอะค่ะ จริงๆตอนนั้นพ่อนั่งอยู่ด้วย กำลังขับรถไปส่งหนูไปสอบ พ่อบอกว่าอย่าคิดมาก คิดเหมือนตัวเองเป็นดาราโดนข่าวซุบซิบจะเก็บมาคิดจริงจังทำไม.. พ่อทำใจง่ายขนาดนั้นเลยหรอ
จริงๆเค้าเคยขู่ว่าจะฆ่าหนูถึงสองรอบ..
แกจะไปให้ใครช่วยคนเนรคุณอย่างแกน่ะ ขนาดคนที่ดีกับแก แกยังทำกับเค้าได้ลงเลย คดีอุทลุมน่ะ รู้จักมั้ย
แต่หนูก็คิดว่านั่นอาจเป็นแค่ตัวประหลาดที่เป็นส่วนประหลาดในใจเค้าที่อยากทำร้ายเรา ไม่ใช่เค้าทั้งหมด หนูหวังไว้อย่างนั้น เพราะเค้าก็ไม่เคยทำจริง เค้าเลี้ยงหนูดีทุกอย่าง แต่เค้าก็ชอบให้ทุกอย่างขึ้นกับเค้า เค้าต้องควบคุมหนูได้ ความรู้สึก วิชาที่เรียน.. เค้าชอบบอกว่าปล่อย แต่จริงๆ... และทุกครั้งที่เค้ารู้สึกว่า control อะไรไม่ได้มันจะมี consequence ตามมาเสมอ
หนูไม่มั่นใจว่า หนูคิดเว่อร์คิดมากไปเอง หรือ หนูควรจะต้องกลัวแม่เอาไว้จริงๆ แต่ทำอย่างหลังยังไงก็ปลอดภัยกว่า?  คืออันนั้นช่วงนั้นมันเด็ดสุดในชีวิตหนูอะค่ะ คือเสียน้ำตาไปลิตรนึงคงได้ ร้องไห้ไม่หยุด ร้องจนป่วย เกรดห่วยแตกนับแต่บัดนั้น ชีวิตแย่มากอะค่ะโดยรวม จำไม่ค่อยได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่ที่เรียนก็แข่งขันสูงมากอยู่แล้ว เสียใจมากที่รู้สึกว่าแม่ไม่ได้รักเรามากพอที่จะไม่ทำร้ายเรา คือเอาความรู้สึกว่ายายไม่รัก และอิจฉา?มาลงที่เรา
สิ่งที่เค้าชอบบอกบ่อยๆว่ายายทำกับเค้า (และหนูเกรงว่ามันจะเป็นสิ่งที่เค้าจะทำกับหนู และบางอย่างได้เกิดขึ้นจริงแล้ว)
-    เป็นแม่ที่อิจฉาลูก ขัดขวางหน้าที่การงาน วันสำคัญเนี่ยถ้ารู้ว่ามีอะไรสำคัญจะเข้ามาขัดขวางทันที
-    ขโมยหลาน ทำให้หลานเกลียดแม่ แฟนเกลียดเค้า (หนูกลัวการมีลูกและแฟนไม่รู้จะต้องเอาเค้ามาเจอกับอะไร)
-    เกลียดเพราะได้ดีกว่า
-    ทำให้เพื่อนเกลียด ขัดขวางไม่ให้มีใครคบหรือทำกิจกรรม จะได้มีเค้าคนเดียวและไม่ทิ้งเค้า
-    ไม่เคยให้คำอวยพร ให้แต่คำสาปแช่ง
-    เห็นแก่ตัวไม่เคยรักใครจริง
-    ฉันถูกทำร้ายมา ฉันถึงเป็นอย่างทุกวันนี้ และแกก็เหมือนกัน ต่อไปแกก็ต้องเอาไปลงที่หลาน
-    เกิดมาเพื่อเป็นมารของลูก
บางทีหนูก็ไม่เคยเชื่อจริงจังซักครั้งว่ายายหนูจะทำอะไรกับเค้าขนาดนั้นเลยหรอ เพราะเพื่อนแม่แต่ละคนไม่เคยบอกไม่ดีเลย และเค้าชอบเสริมแต่งแบบสุดๆไปเรื่อย แต่พ่อเชื่อ หนูก็เชื่อ ถ้าพ่อหนูจิตไปอีกคนหนูจะอยู่ยังไง? หนูก็กลัวนะคะที่พูดออกมาแบบนี้ กลัวว่าหนูจะเป็นอีลูกเนรคุณ เห็นแก่ตัว และไม่เข้าใจความรู้สึกของแม่หรือว่าแม่ผ่านนอะไรมาบ้างแต่นี่เป็นสิ่งที่หนูรู้สึกอย่างจริงที่สุด ไม่หลอกตัวเอง
บางทีหนูก็รู้สึกว่าแม่จำเหตุการณ์ต่างๆที่แม่ทำกับหนูไม่ได้เลย?
มันเริ่มมีคำด่าของแม่(ซึ่งมักจะเป็นปัญหากลุ้มใจที่หนูเล่าให้ฟังเอง)มาปรากฎในหัวหนูบ่อยๆอะค่ะหลังๆนี้ แล้วหนูก็ทำอย่างที่เค้าด่าทุกอย่าง เหมือนทำร้ายตัวเอง เช่น
-    แกมันเห็นแก่ตัว ไม่มีใครรัก ไม่มีเพื่อนเพราะเห็นแก่ตัว เอาแต่ตัวรอดน่ะสิแกน่ะ
-    มัวแต่ขาดความมั่นใจแบบนี้ เสียเวลา โง่ คิดไม่ได้อย่างนี้ไม่มีใครเค้าอยากทำงานกับแกหรอก
-    ชุ่ย เห็นอย่างนี้เค้าด่าป่นปี้หมดแล่ะคนข้างนอกน่ะ ฉันด่าแกแค่นี้ยังน้อยไป ทำงานอย่างนี้โดนอ.ด่าแน่ๆ
และตอนนี้ก็ใกล้เหตุการณ์สำคัญในชีวิตหนู คือการออกไปทำงาน ปัญหาต่างๆปรกติหนูก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้เค้าฟังได้อยู่แล้ว และพ่อก็อยู่กับเค้าตลอดเวลา และ quality of mind หนูก็ไม่ได้ดีเลยและนั่นก็ทำให้หนูขาดที่พึ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนูกลัวว่า หนูเองที่จะบ้าไปก่อน และเค้าจะทำอะไรอีกไม่รู้ แล้วยิ่งเมื่อวานแม่โทร.มาพูดกับหนูว่าหนูไม่รักเค้า เค้ากลัวพ่อจะทิ้งเค้า หนูยิ่งกลัว พูดออกมาขนาดนี้ อีกไม่นานเค้าต้องลงมือทำอะไรซักอย่างแน่ แล้วหนูกำลังจะสอบอีก แล้วหนูควรวางใจยังไง
แล้วหนูก็กำลังจะทำอย่างที่เค้าทำ คือทำร้ายตัวเองเพื่อทำร้ายแม่จริงๆใช่มั้ย..
หรือเป็น Histrionic? ทั้งแม่และหนู
หนูควรวางใจอย่างไร คือหนูก็เข้าใจนี่อาจเป็น menopause แต่ถ้าหลังจากนี้ทุกอย่างมันยังไม่ pause ล่ะ เค้าว่างมากด้วยตอนนี้ ว่างก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ทำงานก็มีปัญหา? หนูมั่นใจว่าหนูไม่ทิ้งและดูแลเค้าแน่ๆ ที่ห่วงคือพ่อ แต่ดูพ่อก็สบายดีและสบายใจมากด้วยทั้งที่อยู่กับเค้าตลอดเวลา หรือว่านั่นจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าความรัก (ซึ่งหนูอาจไม่มีความสามารถที่จะรักใครได้อย่างนั้น)หนูไม่เคยพูดกับพ่อตรงๆในเรื่องนี้แต่ก็รู้สึกว่ารู้กัน หนูรู้สึกว่าพ่อคุยกับหนู รักหนูมากขึ้นตั้งแต่ผ่านตอนนั้นมา และจริงๆนั่นเป็นสิ่งเดียวในตอนนั้นที่ทำให้หนูเก็บกวาดตัวเองและสอบผ่านมาได้ แต่ตอนนี้พอหนูเจอปัญหาอะไรก็เหมือนต้องแก้ด้วยตัวเองให้ได้ ไม่สามารถปรึกษาหรือเล่าให้ใครฟัง แล้วที่บ้านกลับเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องแก้.. ไม่มีที่หลบภัยตรงไหนให้หนูเลยค่ะ หนูเลยต้องหลบหนี รู้สึกว่าตัวเองมี defense mechanism อะไรบางอย่างทำงานอยู่แล้วหนูก็แก้ไม่ตก คือ เรียนไม่รู้เรื่องอะค่ะ ทำงานก็ตกๆหล่นๆ ด้วยพื้นความรู้ที่กระท่อนกระแท่นเพราะเรียนไม่รู้เรื่อง ไร้สติ เป็นอะไรก็ไม่ไดด้ทั้งนั้นถ้าหนูยังเป็นคนที่คิดไม่ตกแบบนี้
สับสนระหว่างความเนรคุณของตัวเอง ทำไมมองไม่เห็นสิ่งดีๆที่แม่ทำให้ตลอดมา.. แต่เค้าก็จะทำร้ายเราจริงๆ?
ทรมานกับความรู้สึกว่าตัวเองเลวตลอดเวลา
ถ้าไม่มีงานทำล่ะ ชีวิตสามสี่คนหมดนี่ต้องตายแน่ บางทีก็รู้สึกว่ามีความเห็นแก่ตัวค้ำคออยู่ตลอดเวลา เพราะเราเห็นแก่ตัวแบบ ถึงได้ร้อนใจแบบนี้ ถ้าเป็นคนดีคงไม่เดือดร้อนอย่างนี้ คงจะรักและอภัยให้แม่ได้ง่ายๆ คงจะตั้งใจเรียนทำโน่นนี่ขยันขันแข็งได้ไม่ตกหล่น เราเห็นแก่ตัวเหมือนยายใช่มั้ย ยายก็เป็นจิตเพท(แม่เคยไปปรึกษาหมอคราวก่อนแล้วบอกว่าไดแอกอย่างนั้น) แม่ก็ประหลาด เราจะรอดไปได้?  .. มันดูงงๆนะคะว่าหนูกังวลเรื่องอะไร แต่สิ่งเหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา เพิ่งมีช่วงที่ผ่านมาที่หนูดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่องยาวนานแต่พอมันทรุดลงอีก.. หนูก็ชักกลัว หนูเคยหวังไว้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูล้มลงและมีจิตใจอ่อนแอ หนูจึงกลัวว่าสภาพเดิมๆมันจะกลับมาอีก

ขอคำปรึกษาค่ะ หนูต้องการความช่วยเหลือ ทนไม่ไหวแล้ว
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สุขภาพจิต ปัญหาครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่