ยางไม่มียางใน กับ มียางใน ดีต่างกันอย่างไร เหมาะกับรถแบบไหนครับ

ยางไม่มียางใน(tubeless) กับ มียางใน ดีต่างกันอย่างไร เหมาะกับรถแบบไหนครับ


คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
Tubeless(ทูปเลส หรือคนไทยเรียกว่ายางจุ๊บเลส) คือ ยางที่ไม่มียางใน ใช้ยางนอกที่มีเนื้อหนา และโครงสร้างแข็งแรงขึ้น มีขอบอัดแน่นกับขอบกระทะล้อในการเก็บลม เมื่อถูกวัตถุแหลมทิ่มแทง และรูไม่ใหญ่นัก เนื้อของยางจะพยายามบีบรูนั้นไว้ ทำให้ลมรั่วออกช้า หรือถ้าวัตถุแหลมคมนั้นยังปักติดกับหน้ายาง บางครั้งพบว่าผ่านไปหลายวันกว่ายางจะแบน

       ยาง Tubeless ถูกออกแบบมาเพื่อลบจุดด้อยของยางในอดีต เพราะยางในอดีตนั้นเป็นยางแบบมียางใน ถ้าถูกตะปูหรือวัตถุแหลมคมแทงทะลุยางชั้นนอก เข้าไปถึงยางชั้นใน ลมก็จะรั่วออกอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทียางก็แบนสนิท หรืออาจถึงขั้นยางระเบิด ทำให้รถเสียการทรงตัวได้
ข้อดีของยาง Tubeless  
1.ไม่ต้องใช้ยางใน เพราะใช้ขอบล้อของยางและขอบของล้อแม็กเป็นตัวผนึกลมไม่ให้ออกไปไหน  
2.เวลาโดนตะปูหรือของมีคมตำก็จะไม่แบนในทันที เพราะตะปูที่ตำนั้นจะกลายสภาพเป็นจุกอุดลม ถ้าเราไม่ดึงออกยางก็จะไม่แบนในทันที  
3.โอกาสที่ยางจะระเบิดนั้นมีน้อยกว่ายางแบบมียางใน เพราะยางแบบ Tubeless มีความร้อนน้อยกว่า ยางแบบมียางใน เนื่องจากยางแบบใช้ยางใน เวลาวิ่งนั้น ยางนอกและยางในจะเกิดการเสียดสีกัน
เองทำให้เกิดความร้อนสูง
4.ไม่เกิดปัญหายางนอกเสียดสีกับยางในจนทำให้ยางแบน

ข้อเสียของยาง Tubeless
1.ราคาแพง
2.ถ้ายางโดนของมีคมเป็นแผลใหญ่ก็ไม่สามารถปะแบบตัวหนอนได้ จะต้องสตีมยางหรือการใช้ความร้อน ซึ่งการสตีมก็ไม่ดีนัก เนื่องจากจะทำให้สิ่งสกปรกสามารถแทรกซึมเข้าไปในใต้ชั้นผ้าใบ เกิดการผุกร่อน ยางอาจจะเสียรูปหรือบวมได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ซึ่งมีราคาแพง







ข้อดีของยางแบบมียางใน  
1.ราคาถูก  
2.กรณียางโดนตะปูหรือของมีคมตำนั้น ค่าปะยางมีราคาถูก
3.สามารถอัดลม รองรับการบรรทุกหนักได้ดีกว่า เช่น รถสิบล้อ รถแทรคเตอร์
4.มีความยืดหยุ่น แก้มยางไม่ต้องออกแบบมาเป็นพิเศษ ใช้ในที่ทุรกันดารได้ดี
5.ยางหาซื้อได้ง่ายกว่ายาง Tubeless

ข้อเสียของยางแบบมียางใน
1.เมื่อยางโดนตะปูหรือวัตถุมีคมแทงทะลุยางชั้นนอก เข้าไปถึงยางชั้นใน ลมก็จะรั่วออกอย่างรวดเร็ว
2.ต้องหมั่นเติมลมยางให้แข็งอยู่เสมอ เพราะถ้าลมอ่อน จะทำให้เวลารถวิ่งยางนอกจะไปเสียดสีกับยาง
ในทำให้ยางรั่วได้
3.เนื่องจากยางแบบใช้ยางใน เวลาวิ่งนั้น ยางนอกและยางในจะเกิดการเสียดสีกัน
เองทำให้เกิดความร้อนสูง ถ้ายางระเบิดขณะขับรถอยู่ อาจทำให้เกิดอันตรายได้

การปะยาง จุบเลส มี 2 แบบ
          -ปะยางแบบตัวหนอน วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องถอดยางออกจากล้อ ยกเว้นว่าเราหารูรั่วไม่เจอ ก็จะต้องถอดยางออกจากล้อ
ขั้นตอนการปะยางแบบตัวหนอน มีดังนี้
          1. ดึงตะปูหรือวัตถุแหลมคมออกจากยาง
          2. ใช้เครื่องมือที่หนึ่งแทงทะลุแผล เพื่อให้แผลมีความกลมและสะอาด
          3. ใช้เส้นใยตัวหนอนสอดกับเครื่องมือที่สอง แทงเข้าตำแหน่งเดิมจนสุด แล้วจึงดึงออก เส้นใยตัวหนอนจะเข้าไปอุดตำแหน่งที่รั่วทันที
          4. ตัดแต่งเส้นใยตัวหนอนให้เรียบร้อย เติมลมยางและตรวจสอบรอยรั่วอีกครั้ง จึงเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน

          -ปะยางแบบสตีมหรือการใช้ความร้อน วิธีนี้ต้องถอดยางออกจากล้อ ซึ่งข้อดีของการปะยางด้วยวิธีนี้ คือ วัสดุที่นำมาปะด้วยความร้อนจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันภายในด้านในของยาง ทำให้โอกาสรั่วเป็นไปได้ยาก
ขั้นตอนการปะยางแบบสตีมหรือการใช้ความร้อน มีดังนี้
          1. นำกระดาษทรายมาขัดเพื่อทำความสะอาดบาดแผลบริเวณที่รั่ว
          2. ใช้ตัวปะยางปิดไปยังตำแหน่งที่ยางรั่ว
          3. ใช้เครื่องมือสตีมยางกดไปยังตำแหน่งที่รั่ว กดใช้ความร้อนให้ตัวปะยางละลาย ทิ้งไว้ 10-15 นาที ตัวปะยางจะละลายเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อยาง
          4. ประกอบยางเข้ากับล้อ และใส่ล้อเข้าไปกับรถ เป็นการเสร็จสิ้นขั้นตอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่