ขอเล่าก่อนนะคะ
เรากับแฟนคบกันเลิกกัน กลับมาคบกัน ใช้เวลา 7 ปีค่ะ จนเกือบแก่ ไม่มีการขอแต่งงานเหมือนต่างฝ่ายต่างรู้ว่าน่าจะถึงเวลาแล้ว
ก่อนแต่งประมาณปีกว่า อยู่ ๆ แฟนก็เอาเงินมาให้ซื้อทองเก็บ เค้าจะเก็บเดือนละบาท แต่ให้ไม่เกิน 10 บาทนะอยากได้เย๊อะซื้อเอง ตอนนั้นแฟนเงินเดือนรวมรายได้อื่นน่าประมาณ 20000 ตอนนั้นทองประมาณ 8000 เค้าเหลือใช้เดือนหมื่นนิด ๆ แต่พอค่ะเพราะอยู่หอฟรี ยังเหลือเก็บเป็นเงินสดเป็นค่าสินสอดอีก
เก็บทองครบ ก็โทรให้พอหาฤกษ์ให้ เตรียมงานรอเรากับแฟนพร้อมครอบครัวแฟนไปทีเดียววันแต่งเลย พ่อเราไม่ว่าอะไรเพราะเราโตแล้ว บ้านแฟนอยู่ภาคกลาง บ้านเราอยู่อีสาน ก็คุยกับพ่อว่า ไปขอไปแต่งทีเดียวเลยนะพ่อว่าอะไรมั๊ย พ่อบอกแล้วแต่ลูก พ่อไม่พูดถึงสินสอดสักคำ เพราะพ่อรู้จักเราดีว่ายังไงเราก็รู้ว่าอะไรเหมาะสม (พ่อเคยเจอแฟนครั้งเดียวตอนนั้นน้องเรารับปริญญา)
ที่บ้านก็เตรียมงานไป ให้พี่สาวเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกิน พ่อดูแลเรื่องสถานที่ เรามารู้ทีหลังน้ำตาแทบไหล พ่อลงมือจัดเวทีให้เราเอง ทั้ง ๆ ที่เราบอกพ่อว่า ขอผูกข้อมือธรรมดานะพ่อ ไม่อยากจัดใหญ่ กลัวพ่อเหนื่อย
พอถึงวันงาน ทางอีสานเค้าจะมีกินเลี้ยงกันก่อนวันแต่งคืนหนึ่ง เรียกงันดอง อะไรประมาณนี้แหละไม่แน่ใจ ที่บ้านก็จัดกันไปร้องรำทำเพลง แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยังไปไม่ถึง มัวพาญาติ ๆ แวะโน่นแวะนี่ กว่าจะถึงก็ 4 ทุ่มกว่า คุณพ่อนั่งไม่ติดซิคะกลัวเสียหน้าจัดงานเก้อ ส่วนพี่น้องก็เฮฮาปกติ
ปกติพ่อจะนอนเร็ว วันนั้นต้องรอเราไปถึง ถึงจะหลับลง 5555 ไปถึงก็มัวนั่งคุยพี่น้องได้นอนไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาแต่งหน้า ช่างก็หาเอาจากเพื่อน ๆ นั่นแหละ ชุดก็เตรียมไปผ้าไหมธรรมดาไม่ได้เลิศเลย แหวนแต่งงานไม่มีงบหมด
สินสอดก็ได้ทอง 10 บาท ส่วนเงินไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ คือแฟนมี 50000 แต่แม่กับน้าเพิ่มให้ เราไม่รู้จำนวนเพราะยกให้พ่อหมด ที่เรารู้สึกดีมากคืองานแต่งเราแขกที่มางานมีแต่รุ่นยายเย๊อะมาก นี่คือแขกพิเศษเราเพราะทุกคนคือเพื่อนไปวัด ไปจังหันด้วนกันตอนเราเด็ก ๆ อายุเฉลี่ยก็ประมาณ 70 ทุกคนมาเพราะรักเรา ยินดีกับเรา เราไม่รู้หรอกว่าพวกคุณยายใส่ซองให้พ่อเท่าไหร่ แต่เราน้ำตาไหลตอนที่พวกคุณยายมาผูกแขนให้เราอวยพรเรา พวกคุณยายเอ็นดูเราตั้งแต่เด็กเพราะเรากำพร้าแม่ แม่หัดให้เราไปวัดทุกเช้าตั้งแต่ 5 ขวบ แต่แม่ไม่ได้ไปด้วยเพราะแม่ไม่ค่อยแข็งแรง พอ 7 ขวบกว่าแม่ก็เสีย เราก็ยังไปวัดกับพวกคุณยายทุกวันจนจบประถม ต้องเข้าไปเรียนในอำเภอ ต้องออกจากบ้านแต่เช้าก็ห่างหายการไปวัด แต่ถ้าเสาร์อาทิตย์ไหนไม่ติดภารกิจเก็บผักหวาน ดอกกระเจียวขายหาเงินไปโรงเรียน เราก็จะไปวัดตลอด (ชักนอกเรื่อง)
กลับมาเรื่องแต่งงานค่ะ ที่เราภูมใจคือเงินทุกบาท ทองทุกบาท มาจากน้ำพักน้ำแรงของแฟนเรา จะมีก็แม่กับน้าช่วยเติมให้ตัวเลขค่าสินสอดสวย คือทางอีสานนิยมเลข 9 อ้อแล้วเรามีช่วยที่กำเหน็ดทองไป 400 มีเดือนหนึ่งเค้าให้ออกเงินก่อน พอโอนมาโอนมาแต่ค่าทองค่ากำเหน็ดไม่ให้ จะทวงก็กลัวไม่ได้แต่ง 555
แต่งเสร็จ แฟนเหลืองเงินไม่กี่หมื่น ช่วยกันทำ ช่วยกันหา ช่วยกันเก็บ ผ่านไป 7 ปี เรามีบ้านสองหลัง รถคนละคัน ลูก สองคน ที่นา 30 กว่าไร่ อันนี้เราซื้อก่อนแต่งด้วย
(ให้เครติตคุณย่าหน่อย คุณย่าให้เงินมาดาวน์รถคันแรก 200000 แต่ท่านให้ลูกชาย 3 คน คนละเท่า ๆ กัน และคุณย่าอีกแล้ว ช่วยเลี้ยงลูกคนแรกให้เราได้ทำงานเต็มที่ ) นอกนั้นจากน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งนั้น
เงินช่วยงานเราไม่รู้ได้เท่าไหร่ ให้พ่อหมด เงินจัดงานก็หมดไม่เท่าไหร่คือจัดที่บ้านกับข้าวกับปลาพี่สาวกับญาติ ๆ ทำเอง ส่วนเงินผูกข้อมือเราเก็บ เงินค่าสินสอดรวมกันประมาณ 150000 จากราคาทองตอนนั้น งานไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็กเพราะพ่อก็ชอบหน้าบานอยู่ เปรียบเทียบกับงานน้องเราจัดงานใหญ่โตมากเพราะรับราชการทั้งคู่ (น้องเราจัดการเอง) สินสอดไม่เหลือให้พ่อซักบาท เงินช่วยกับเงินผูกข้อมือเกือบไม่พอค่าจัดงาน
แท็ก การสอนลูกด้วยเพราะ ที่เราเป็นเรามาถึงทุกวันนี้เพราะการอบรมสั่งสอนจากแม่ผู้ล่วงลับตั้งแต่เรายังเล็ก
อ่านกระทู้งานแต่งแล้ว ตึ๊บค่ะ อยากชวนเพื่อน มาแชร์ งานแต่งแบบประหยัด เรียบง่าย แต่มีความสุขที่สุด
เรากับแฟนคบกันเลิกกัน กลับมาคบกัน ใช้เวลา 7 ปีค่ะ จนเกือบแก่ ไม่มีการขอแต่งงานเหมือนต่างฝ่ายต่างรู้ว่าน่าจะถึงเวลาแล้ว
ก่อนแต่งประมาณปีกว่า อยู่ ๆ แฟนก็เอาเงินมาให้ซื้อทองเก็บ เค้าจะเก็บเดือนละบาท แต่ให้ไม่เกิน 10 บาทนะอยากได้เย๊อะซื้อเอง ตอนนั้นแฟนเงินเดือนรวมรายได้อื่นน่าประมาณ 20000 ตอนนั้นทองประมาณ 8000 เค้าเหลือใช้เดือนหมื่นนิด ๆ แต่พอค่ะเพราะอยู่หอฟรี ยังเหลือเก็บเป็นเงินสดเป็นค่าสินสอดอีก
เก็บทองครบ ก็โทรให้พอหาฤกษ์ให้ เตรียมงานรอเรากับแฟนพร้อมครอบครัวแฟนไปทีเดียววันแต่งเลย พ่อเราไม่ว่าอะไรเพราะเราโตแล้ว บ้านแฟนอยู่ภาคกลาง บ้านเราอยู่อีสาน ก็คุยกับพ่อว่า ไปขอไปแต่งทีเดียวเลยนะพ่อว่าอะไรมั๊ย พ่อบอกแล้วแต่ลูก พ่อไม่พูดถึงสินสอดสักคำ เพราะพ่อรู้จักเราดีว่ายังไงเราก็รู้ว่าอะไรเหมาะสม (พ่อเคยเจอแฟนครั้งเดียวตอนนั้นน้องเรารับปริญญา)
ที่บ้านก็เตรียมงานไป ให้พี่สาวเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกิน พ่อดูแลเรื่องสถานที่ เรามารู้ทีหลังน้ำตาแทบไหล พ่อลงมือจัดเวทีให้เราเอง ทั้ง ๆ ที่เราบอกพ่อว่า ขอผูกข้อมือธรรมดานะพ่อ ไม่อยากจัดใหญ่ กลัวพ่อเหนื่อย
พอถึงวันงาน ทางอีสานเค้าจะมีกินเลี้ยงกันก่อนวันแต่งคืนหนึ่ง เรียกงันดอง อะไรประมาณนี้แหละไม่แน่ใจ ที่บ้านก็จัดกันไปร้องรำทำเพลง แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยังไปไม่ถึง มัวพาญาติ ๆ แวะโน่นแวะนี่ กว่าจะถึงก็ 4 ทุ่มกว่า คุณพ่อนั่งไม่ติดซิคะกลัวเสียหน้าจัดงานเก้อ ส่วนพี่น้องก็เฮฮาปกติ
ปกติพ่อจะนอนเร็ว วันนั้นต้องรอเราไปถึง ถึงจะหลับลง 5555 ไปถึงก็มัวนั่งคุยพี่น้องได้นอนไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาแต่งหน้า ช่างก็หาเอาจากเพื่อน ๆ นั่นแหละ ชุดก็เตรียมไปผ้าไหมธรรมดาไม่ได้เลิศเลย แหวนแต่งงานไม่มีงบหมด
สินสอดก็ได้ทอง 10 บาท ส่วนเงินไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ คือแฟนมี 50000 แต่แม่กับน้าเพิ่มให้ เราไม่รู้จำนวนเพราะยกให้พ่อหมด ที่เรารู้สึกดีมากคืองานแต่งเราแขกที่มางานมีแต่รุ่นยายเย๊อะมาก นี่คือแขกพิเศษเราเพราะทุกคนคือเพื่อนไปวัด ไปจังหันด้วนกันตอนเราเด็ก ๆ อายุเฉลี่ยก็ประมาณ 70 ทุกคนมาเพราะรักเรา ยินดีกับเรา เราไม่รู้หรอกว่าพวกคุณยายใส่ซองให้พ่อเท่าไหร่ แต่เราน้ำตาไหลตอนที่พวกคุณยายมาผูกแขนให้เราอวยพรเรา พวกคุณยายเอ็นดูเราตั้งแต่เด็กเพราะเรากำพร้าแม่ แม่หัดให้เราไปวัดทุกเช้าตั้งแต่ 5 ขวบ แต่แม่ไม่ได้ไปด้วยเพราะแม่ไม่ค่อยแข็งแรง พอ 7 ขวบกว่าแม่ก็เสีย เราก็ยังไปวัดกับพวกคุณยายทุกวันจนจบประถม ต้องเข้าไปเรียนในอำเภอ ต้องออกจากบ้านแต่เช้าก็ห่างหายการไปวัด แต่ถ้าเสาร์อาทิตย์ไหนไม่ติดภารกิจเก็บผักหวาน ดอกกระเจียวขายหาเงินไปโรงเรียน เราก็จะไปวัดตลอด (ชักนอกเรื่อง)
กลับมาเรื่องแต่งงานค่ะ ที่เราภูมใจคือเงินทุกบาท ทองทุกบาท มาจากน้ำพักน้ำแรงของแฟนเรา จะมีก็แม่กับน้าช่วยเติมให้ตัวเลขค่าสินสอดสวย คือทางอีสานนิยมเลข 9 อ้อแล้วเรามีช่วยที่กำเหน็ดทองไป 400 มีเดือนหนึ่งเค้าให้ออกเงินก่อน พอโอนมาโอนมาแต่ค่าทองค่ากำเหน็ดไม่ให้ จะทวงก็กลัวไม่ได้แต่ง 555
แต่งเสร็จ แฟนเหลืองเงินไม่กี่หมื่น ช่วยกันทำ ช่วยกันหา ช่วยกันเก็บ ผ่านไป 7 ปี เรามีบ้านสองหลัง รถคนละคัน ลูก สองคน ที่นา 30 กว่าไร่ อันนี้เราซื้อก่อนแต่งด้วย
(ให้เครติตคุณย่าหน่อย คุณย่าให้เงินมาดาวน์รถคันแรก 200000 แต่ท่านให้ลูกชาย 3 คน คนละเท่า ๆ กัน และคุณย่าอีกแล้ว ช่วยเลี้ยงลูกคนแรกให้เราได้ทำงานเต็มที่ ) นอกนั้นจากน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งนั้น
เงินช่วยงานเราไม่รู้ได้เท่าไหร่ ให้พ่อหมด เงินจัดงานก็หมดไม่เท่าไหร่คือจัดที่บ้านกับข้าวกับปลาพี่สาวกับญาติ ๆ ทำเอง ส่วนเงินผูกข้อมือเราเก็บ เงินค่าสินสอดรวมกันประมาณ 150000 จากราคาทองตอนนั้น งานไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็กเพราะพ่อก็ชอบหน้าบานอยู่ เปรียบเทียบกับงานน้องเราจัดงานใหญ่โตมากเพราะรับราชการทั้งคู่ (น้องเราจัดการเอง) สินสอดไม่เหลือให้พ่อซักบาท เงินช่วยกับเงินผูกข้อมือเกือบไม่พอค่าจัดงาน
แท็ก การสอนลูกด้วยเพราะ ที่เราเป็นเรามาถึงทุกวันนี้เพราะการอบรมสั่งสอนจากแม่ผู้ล่วงลับตั้งแต่เรายังเล็ก