"SPCG" จับมือ "พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่น" หลังรัฐฯไฟเขียวพร้อมหนุนใช้พลังงานแสงอาทิตย์ "
SPCG เปิดประวัติศาสตร์ใหม่ นำ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด รุกทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ “พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล” ใช้เครือข่าย กฟภ. ลุยศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ขานรับนโยบายพลังงานรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”
นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” เปิดเผยว่า ได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดยการนำ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟจำกัด หรือ SPR ในฐานะผู้พัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาแห่งแรกของประเทศไทยและประชาคมอาเซียน ลงนามบันทึกความเข้าใจการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้พัฒนาพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
เป้าหมายการจัดทำ MOU ครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายพงษ์ศักดิ์ รักตะพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการส่งเสริมภาคครัวเรือน ที่อยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรม ให้ทำการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา โดยรัฐบาลอยู่ในขั้นตอนการมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดทั้งหมด สำหรับเตรียมออกมาตรการภาษีและสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ติดตั้งตามนโยบาย ร่วมกันผลิตไฟฟ้าใช้เองลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ และเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว
“เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีนี้ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด เปิดดำเนินการธุรกิจพร้อมกับเปิดตัวแคมเปญ “โซลาร์ รูฟ แบรนด์ แอมบาสเดอร์” เน้นติดตั้งโซลาร์ รูฟ ภาคครัวเรือน จนถึงขณะนี้ได้รับความสนใจจากผู้มีชื่อเสียงของประเทศลงทะเบียนนำบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 500 หลัง ระหว่างนี้บริษัทยังได้ขยายตลาดเป้าหมายเข้าไปยังภาคอุตสาหกรรม อาทิ หลังคาโรงงานและหลังคาคลังสินค้าต่างๆ”
นางสาววันดีกล่าวว่าบันทึกความเข้าใจของทั้ง 2 ฝ่าย กำหนดจะร่วมมือกัน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. การพัฒนาโอกาสทางธุรกิจด้านการส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา บ้าน อาคาร เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
2. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าและลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้สูงสุด (Peak) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนพลังงานและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
3. ร่วมกันพัฒนา ESCO : Energy Service Company เพื่อให้บริการเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการอนุรักษ์พลังงานครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การอนุญาต การหาแหล่งทุน การติดตั้ง การตรวจวัดเพื่อประเมินผล การประหยัดและให้การรับประกันผลการประหยัดพลังงาน อันจะเป็นประโยชน์ทุกฝ่ายอีกด้วย
ปล. พื้นที่แนวราบการลงทุนเพื่อซื้อที่ดินสำหรับทำโซล่าฟาร์มอาจจะสูงเกินไป ต่อไปในอนาคตอาจจะมีการจับมือกับ โรงงานอุตสหกรรมขนาดใหญ่ๆ เพื่อร่วมธุรกิจกัน WHA ขยับแล้ว TICON กำลังจะขยับ แต่ไม่รู้ว่าร่วมมือกับใครนะครับ ต้องตามต่อ
เดาหุ้นกันเยอะมาก ขอเดาข่าวมั่ง
SPCG เปิดประวัติศาสตร์ใหม่ นำ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด รุกทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ “พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล” ใช้เครือข่าย กฟภ. ลุยศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ขานรับนโยบายพลังงานรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”
นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” เปิดเผยว่า ได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดยการนำ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟจำกัด หรือ SPR ในฐานะผู้พัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาแห่งแรกของประเทศไทยและประชาคมอาเซียน ลงนามบันทึกความเข้าใจการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) กับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้พัฒนาพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
เป้าหมายการจัดทำ MOU ครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายพงษ์ศักดิ์ รักตะพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการส่งเสริมภาคครัวเรือน ที่อยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรม ให้ทำการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา โดยรัฐบาลอยู่ในขั้นตอนการมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดทั้งหมด สำหรับเตรียมออกมาตรการภาษีและสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ติดตั้งตามนโยบาย ร่วมกันผลิตไฟฟ้าใช้เองลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ และเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว
“เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีนี้ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด เปิดดำเนินการธุรกิจพร้อมกับเปิดตัวแคมเปญ “โซลาร์ รูฟ แบรนด์ แอมบาสเดอร์” เน้นติดตั้งโซลาร์ รูฟ ภาคครัวเรือน จนถึงขณะนี้ได้รับความสนใจจากผู้มีชื่อเสียงของประเทศลงทะเบียนนำบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 500 หลัง ระหว่างนี้บริษัทยังได้ขยายตลาดเป้าหมายเข้าไปยังภาคอุตสาหกรรม อาทิ หลังคาโรงงานและหลังคาคลังสินค้าต่างๆ”
นางสาววันดีกล่าวว่าบันทึกความเข้าใจของทั้ง 2 ฝ่าย กำหนดจะร่วมมือกัน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. การพัฒนาโอกาสทางธุรกิจด้านการส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา บ้าน อาคาร เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
2. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าและลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้สูงสุด (Peak) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนพลังงานและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
3. ร่วมกันพัฒนา ESCO : Energy Service Company เพื่อให้บริการเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการอนุรักษ์พลังงานครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การอนุญาต การหาแหล่งทุน การติดตั้ง การตรวจวัดเพื่อประเมินผล การประหยัดและให้การรับประกันผลการประหยัดพลังงาน อันจะเป็นประโยชน์ทุกฝ่ายอีกด้วย
ปล. พื้นที่แนวราบการลงทุนเพื่อซื้อที่ดินสำหรับทำโซล่าฟาร์มอาจจะสูงเกินไป ต่อไปในอนาคตอาจจะมีการจับมือกับ โรงงานอุตสหกรรมขนาดใหญ่ๆ เพื่อร่วมธุรกิจกัน WHA ขยับแล้ว TICON กำลังจะขยับ แต่ไม่รู้ว่าร่วมมือกับใครนะครับ ต้องตามต่อ