กว่าจะมาเป็นทหารโรมันเกราะหนาๆโล่ห์บิ๊กบึ้มอย่างที่พวกเราๆท่านๆคุ้นเคยกันดี เรามาดูพัฒนาการทางการทหารของชาวโรมันกันก่อนดีกว่า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ชาวโรมันพิชิตโลกเมดิเตอเรเนียนได้
กองทัพโรมันในยุคแรกๆหรือยุคราชอาณาจักร(ปกครองโดยกษัตรยิ์อีทรัสกันจากตอนเหนือ)ก็คือกองทัพกรีกดีๆนี่เอง(แต่กากกว่า) เพราะได้รับอิทธิพลมาจากพวกอีทรัสกันที่มีอารยธรรมลอกแบบมาจากกรีกปกครองโรมอยู่นานนับร้อยปี
ต่อมาเมื่อชาวโรมันปลดแอกตนเอง และขับไล่พวกอีทรีสกันออกไปจากโรมได้ จึงตั้งกองทัพเป็นของตนเองขึ้นมา เป็นกองทหารรูปแบบเดียวกับกรีกเด๊ะๆ
สมัยต่อมาเมื่อชาวโรมันขับไล่กษัตริย์ออกจากบังลังค์และได้ตั้งสาธารณรัฐโรมขึ้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่พวกกอลอพยพลงมาในคาบสมุทรอิตาลี และตีกองทหารฮอปไลต์โรมันแตกเนื่องจากบริเวณตอนกลางของอิตาลีมีภูมิประเทศเป็นเนินเขา ทำให้รุปขบวนฟาลังซ์-ฮอปไลต์ใช้ไม่ได้ผล แถมกรุงโรมยังโดนพวกกอลเผา เดือดร้อนต้องมาไถ่พระนครคืนจากพวกกอลด้วยทองคำที่หนักอึ้ง
พวกโรมันเลยปรับเปลี่ยนรูปแบบทหารใหม่ โดยใช้เกราะโซ่ถักแบบพวกกอลแทน ใช้โล่ห์ใหญ่แบบกอล(Scutum) แล้วก็ใช้หมวก"มนเตฟอรติโน(Montefortino)"แบบพวกกอลอีกเช่นกัน(ประยุกต์ดี)
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกกอลถึงได้พากันมารุกรานกรุงโรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กองทัพที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้เรียกว่า manipular army หรือ "Polybian army" เป็นกองทหารที่เกณฑ์มาจากโรมหรือแคว้นละติอุม โดยรัฐจะจ่ายเงิน(บางทีก็เป็นเกลือ)ให้แล้วเฉดหัวให้ไปรบ
โดยจะมีกองทหารอยู่3แถวหลัก และทหารราบเบาขนาบข้างหรือออกไปโจมตีฉาบฉวยก่อน
ซ้าย Hastatus ขวา Princeps
- Hastati(เอกพจน์-Hastatus) เป็นทหารที่มีอายุน้อยสุด และอ่อนประสบการ์สุด มีอาวุธคือโล่ห์สกูตุม ดาบกลาดิอุส ใส่แค่หมวกมนเตฟอรติโน่ และแผ่นเกราะเล็กๆที่หน้าอกเท่านั้น โดยเมื่อฝ่ายศัตรูแข็งแกร่งมากจนไม่อาจตีแตกได้ พวกHastati ก็จะถอยหลังไปหาทหารแนวที่2 คือ
- Pricipes(เอกพจน์-Princeps) ซึ่งจะป็นทหารที่มีอายุมากกว่า และมีประสบการณ์มากกว่า แล้วยังรวยกว่า Pricipes จะใส่เกราะโซ่ถัก(Lorica hamata) หมวกมนเตฟอรติโน่ โล่ห์สกูตุม ดาบกลาดิอุส และแหลน และเมื่อศัตรูแกร่งมากจริงๆ พวกPrincipes ก็จะถอยหลังไปหาแนวที่3 ซึ่งก็คือ...
- Triarii (เอกพจน์-Triarius) ซึ่งเป็นทหารที่อาวุโสสุด มีประสบการณ์มากสุด มีอาวุธดีกว่าชาวบ้านเขาเนื่องจากรวยสุด อาวุธหลักของTriarii คือ หมวกอิตาโล-คอรินเธียน โล่ห์สกูตุม หอกยาวชื่อHasta และดาบกลาดิอุส เนื้อแท้แล้วคือกองทหารฮอปไลต์ แต่แต่งตัวแบบโรมัน และถ้าพวกนี้ยังจะถอยอีก ขอแนะนำว่ากลับโรมเหอะเพ่!
-Velites (เอกพจน์-Veles)เป็นทหารชาวบ้านตาดำๆที่ไม่มีเงินทุนมากนัก หาซื้อเกราะไม่ได้
เลยกลายเป็นกองทหารราบเบาแทน ทำหน้าที่ลาดตระเวน และคอยก่อกวนแนวรบของข้าศึก อุปกรณ์ที่มีคือ หอกซัด ดาบสั้น โล่ห์อันเล็กๆกลมๆน่ารัก เสื้อผ้าธรรมดาๆ และบางทีอาจเอาหนังหมาป่ามาห่มด้วย
เมื่อโรมันรบชนะรัฐอิตาเลียนอื่นๆ พลเมืองชายของรัฐอื่นๆก็จะถูกเกณฑ์มาเป็นทหารในรูปแบบกองหนุน-Auxilia โดยจะเกณฑ์มาในรูปแบบได้ก็แล้วแต่ว่ารัฐไหนเก่งด้านใด บางรัฐก็เป็นพลสลิง บางรัฐก็พลธนู บางรัฐก็มีพลแหลนที่มีชุดเหมือน Velites ราวกับแกะโคลนนิ่งดอลลี่ บางรัฐก็มาในรูปแบบทหารม้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐทางตอนเหนือที่มีม้าค่อนข้างเยอะ ในขณะที่โรมไม่ค่อยจะมีม้าใช้มากนัก เนื่องจากตอนกลางของอิตาลีมีม้าน้อย
ต่อมาในปี 107 ก่อนคริสตกาล ไกอัส มาริอุส(Gaius Marius)กงสุล และผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งโรม ได้เล็งเห็นความไร้ประสิทธิภาพของกองทัพโรมัน เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำจากสงครามคาร์เทจครั้งสุดท้าย และสงครามฮิสปาเนีย(สเปน) ทำให้พลเมืองโรมยากจนลง คนรวยมีน้อยลง กองทหารส่วนใหญ่จึงมักเป็น Hastatus ส่วนTriarius มีจึ๋งเดียว
แกจึงลงมือปฏิรูประบบโครงสร้างกองทัพใหม่ เปลี่ยนจากระบบเกณฑ์เป็นรับสมัครแทน
โดยไม่จำกัดชนชั้น และให้สิทธิพลเมืองโรมันแก่ชาวอิตาเลียนทุกคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และเสนอสวัสดิการต่างๆแก่ผู้สมัครทหาร สำหรับชนชาตินอกดินแดนอิตาลีอื่น เมื่อประจำการในหน่วยกองหนุนหรือ Auxilia ครบ25ปี ก็จะได้รับสิทธิพลเมืองโรมัน ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้สมัครเข้าเป็นทหารอย่างล้นหลาม มีการฝึกอย่างหนักหน่วงตลอดเวลา และจากเมื่อกอนที่จะมีกองเสบียงตามหลังกองทัพ กลายเป็นว่าทหารจะต้องแบกสัมภาระย่ามต่างๆไปด้วยตนเอง จึงตัดปัญหาเรื่องโดนตัดขาดจากกองเสบียงไปได้มาก กองทัพมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การปฏิรูปนี้มีชื่อว่า Marian Reforms
กองทัพรูปแบบใหม่นี่เองที่เป็นที่คุ้นเคยกันดี และกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเมื่อเราพูดถึงจักรวรรดิโรมัน
ซึ่งก็คือ Legionary(ละติน-Legio) อาวุธหลักคือ กลาดิอุส โล่ห์สกูตุม และหมวกมนเตฟอรติโน่แบบใหม่ ใช้เกราะลอริกา ฮามาทา ในยุคแรก และ เซกเมนทาทา(Segmentata)หรือเกราะแผ่น ในยุคหลัง ส่วนทหารกองหนุนหรือAuxilia ก็รับสมัครมาจากดินแดนที่เป็นประเทศราช หรือพันธมิตรของโรมัน หรือผู้ที่มีฝีมือด้านนั้นๆ
ตัวอย่างAuxiliaที่เป็นที่รู้จักกันดี
- พลธนูซีเรียน
- พลหอกกอล(ถึงกอลจะถูกผนวกเป็นดินแดนโรมันแล้ว แต่ตามชนบทป่าเขาก็ยังมีชาวบ้านเซลต์อยู่)
- ทหารม้ากอล
- ทหารม้าเยอรมัน
- พลธนูครีต
คราวหน้าค่อยมาต่อเรื่องกองทัพยุคหลังนะครับ
ศัพท์
Sagittarii (เอกพจน์Sagittarius) - พลธนู ส่วนอีกความหมายก็คือธนู หรือราศีธนู
Funditores(เอกพจน์Funditore) - พลยิงสลิง ซึ่งจะเกณฑ์มาจากพลเมืองชั้นล่างของโรม หรือไม่ก็รัฐพันธมิตรอิตาเลียนของโรม
อีทรัสกัน(Etruscan) - หรือชาวแคว้นอีทรูเรีย(Etruria)เป็นกลุ่มชนที่มีอารยธรรมอันเก่าแก่ ซึ่งคาดว่าน่าจะอพยพมาจากเอเชียไมเนอร์ แต่หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าอาจเป็นพวกฟินิเชียน ปัจจุบันแคว้นอีทรูเรียคือแคว้นทัสคานีของอิตาลี
Eques (เอกพจน์Equites) - ทหารม้า
(สาระ) พัฒนาการทางทหารของโรมันตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม
กว่าจะมาเป็นทหารโรมันเกราะหนาๆโล่ห์บิ๊กบึ้มอย่างที่พวกเราๆท่านๆคุ้นเคยกันดี เรามาดูพัฒนาการทางการทหารของชาวโรมันกันก่อนดีกว่า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ชาวโรมันพิชิตโลกเมดิเตอเรเนียนได้
กองทัพโรมันในยุคแรกๆหรือยุคราชอาณาจักร(ปกครองโดยกษัตรยิ์อีทรัสกันจากตอนเหนือ)ก็คือกองทัพกรีกดีๆนี่เอง(แต่กากกว่า) เพราะได้รับอิทธิพลมาจากพวกอีทรัสกันที่มีอารยธรรมลอกแบบมาจากกรีกปกครองโรมอยู่นานนับร้อยปี
ต่อมาเมื่อชาวโรมันปลดแอกตนเอง และขับไล่พวกอีทรีสกันออกไปจากโรมได้ จึงตั้งกองทัพเป็นของตนเองขึ้นมา เป็นกองทหารรูปแบบเดียวกับกรีกเด๊ะๆ
สมัยต่อมาเมื่อชาวโรมันขับไล่กษัตริย์ออกจากบังลังค์และได้ตั้งสาธารณรัฐโรมขึ้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่พวกกอลอพยพลงมาในคาบสมุทรอิตาลี และตีกองทหารฮอปไลต์โรมันแตกเนื่องจากบริเวณตอนกลางของอิตาลีมีภูมิประเทศเป็นเนินเขา ทำให้รุปขบวนฟาลังซ์-ฮอปไลต์ใช้ไม่ได้ผล แถมกรุงโรมยังโดนพวกกอลเผา เดือดร้อนต้องมาไถ่พระนครคืนจากพวกกอลด้วยทองคำที่หนักอึ้ง
พวกโรมันเลยปรับเปลี่ยนรูปแบบทหารใหม่ โดยใช้เกราะโซ่ถักแบบพวกกอลแทน ใช้โล่ห์ใหญ่แบบกอล(Scutum) แล้วก็ใช้หมวก"มนเตฟอรติโน(Montefortino)"แบบพวกกอลอีกเช่นกัน(ประยุกต์ดี)
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกกอลถึงได้พากันมารุกรานกรุงโรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กองทัพที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้เรียกว่า manipular army หรือ "Polybian army" เป็นกองทหารที่เกณฑ์มาจากโรมหรือแคว้นละติอุม โดยรัฐจะจ่ายเงิน(บางทีก็เป็นเกลือ)ให้แล้วเฉดหัวให้ไปรบ
โดยจะมีกองทหารอยู่3แถวหลัก และทหารราบเบาขนาบข้างหรือออกไปโจมตีฉาบฉวยก่อน
ซ้าย Hastatus ขวา Princeps
- Hastati(เอกพจน์-Hastatus) เป็นทหารที่มีอายุน้อยสุด และอ่อนประสบการ์สุด มีอาวุธคือโล่ห์สกูตุม ดาบกลาดิอุส ใส่แค่หมวกมนเตฟอรติโน่ และแผ่นเกราะเล็กๆที่หน้าอกเท่านั้น โดยเมื่อฝ่ายศัตรูแข็งแกร่งมากจนไม่อาจตีแตกได้ พวกHastati ก็จะถอยหลังไปหาทหารแนวที่2 คือ
- Pricipes(เอกพจน์-Princeps) ซึ่งจะป็นทหารที่มีอายุมากกว่า และมีประสบการณ์มากกว่า แล้วยังรวยกว่า Pricipes จะใส่เกราะโซ่ถัก(Lorica hamata) หมวกมนเตฟอรติโน่ โล่ห์สกูตุม ดาบกลาดิอุส และแหลน และเมื่อศัตรูแกร่งมากจริงๆ พวกPrincipes ก็จะถอยหลังไปหาแนวที่3 ซึ่งก็คือ...
- Triarii (เอกพจน์-Triarius) ซึ่งเป็นทหารที่อาวุโสสุด มีประสบการณ์มากสุด มีอาวุธดีกว่าชาวบ้านเขาเนื่องจากรวยสุด อาวุธหลักของTriarii คือ หมวกอิตาโล-คอรินเธียน โล่ห์สกูตุม หอกยาวชื่อHasta และดาบกลาดิอุส เนื้อแท้แล้วคือกองทหารฮอปไลต์ แต่แต่งตัวแบบโรมัน และถ้าพวกนี้ยังจะถอยอีก ขอแนะนำว่ากลับโรมเหอะเพ่!
-Velites (เอกพจน์-Veles)เป็นทหารชาวบ้านตาดำๆที่ไม่มีเงินทุนมากนัก หาซื้อเกราะไม่ได้
เลยกลายเป็นกองทหารราบเบาแทน ทำหน้าที่ลาดตระเวน และคอยก่อกวนแนวรบของข้าศึก อุปกรณ์ที่มีคือ หอกซัด ดาบสั้น โล่ห์อันเล็กๆกลมๆน่ารัก เสื้อผ้าธรรมดาๆ และบางทีอาจเอาหนังหมาป่ามาห่มด้วย
เมื่อโรมันรบชนะรัฐอิตาเลียนอื่นๆ พลเมืองชายของรัฐอื่นๆก็จะถูกเกณฑ์มาเป็นทหารในรูปแบบกองหนุน-Auxilia โดยจะเกณฑ์มาในรูปแบบได้ก็แล้วแต่ว่ารัฐไหนเก่งด้านใด บางรัฐก็เป็นพลสลิง บางรัฐก็พลธนู บางรัฐก็มีพลแหลนที่มีชุดเหมือน Velites ราวกับแกะโคลนนิ่งดอลลี่ บางรัฐก็มาในรูปแบบทหารม้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐทางตอนเหนือที่มีม้าค่อนข้างเยอะ ในขณะที่โรมไม่ค่อยจะมีม้าใช้มากนัก เนื่องจากตอนกลางของอิตาลีมีม้าน้อย
ต่อมาในปี 107 ก่อนคริสตกาล ไกอัส มาริอุส(Gaius Marius)กงสุล และผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งโรม ได้เล็งเห็นความไร้ประสิทธิภาพของกองทัพโรมัน เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำจากสงครามคาร์เทจครั้งสุดท้าย และสงครามฮิสปาเนีย(สเปน) ทำให้พลเมืองโรมยากจนลง คนรวยมีน้อยลง กองทหารส่วนใหญ่จึงมักเป็น Hastatus ส่วนTriarius มีจึ๋งเดียว
แกจึงลงมือปฏิรูประบบโครงสร้างกองทัพใหม่ เปลี่ยนจากระบบเกณฑ์เป็นรับสมัครแทน
โดยไม่จำกัดชนชั้น และให้สิทธิพลเมืองโรมันแก่ชาวอิตาเลียนทุกคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และเสนอสวัสดิการต่างๆแก่ผู้สมัครทหาร สำหรับชนชาตินอกดินแดนอิตาลีอื่น เมื่อประจำการในหน่วยกองหนุนหรือ Auxilia ครบ25ปี ก็จะได้รับสิทธิพลเมืองโรมัน ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้สมัครเข้าเป็นทหารอย่างล้นหลาม มีการฝึกอย่างหนักหน่วงตลอดเวลา และจากเมื่อกอนที่จะมีกองเสบียงตามหลังกองทัพ กลายเป็นว่าทหารจะต้องแบกสัมภาระย่ามต่างๆไปด้วยตนเอง จึงตัดปัญหาเรื่องโดนตัดขาดจากกองเสบียงไปได้มาก กองทัพมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การปฏิรูปนี้มีชื่อว่า Marian Reforms
กองทัพรูปแบบใหม่นี่เองที่เป็นที่คุ้นเคยกันดี และกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเมื่อเราพูดถึงจักรวรรดิโรมัน
ซึ่งก็คือ Legionary(ละติน-Legio) อาวุธหลักคือ กลาดิอุส โล่ห์สกูตุม และหมวกมนเตฟอรติโน่แบบใหม่ ใช้เกราะลอริกา ฮามาทา ในยุคแรก และ เซกเมนทาทา(Segmentata)หรือเกราะแผ่น ในยุคหลัง ส่วนทหารกองหนุนหรือAuxilia ก็รับสมัครมาจากดินแดนที่เป็นประเทศราช หรือพันธมิตรของโรมัน หรือผู้ที่มีฝีมือด้านนั้นๆ
ตัวอย่างAuxiliaที่เป็นที่รู้จักกันดี
- พลธนูซีเรียน
- พลหอกกอล(ถึงกอลจะถูกผนวกเป็นดินแดนโรมันแล้ว แต่ตามชนบทป่าเขาก็ยังมีชาวบ้านเซลต์อยู่)
- ทหารม้ากอล
- ทหารม้าเยอรมัน
- พลธนูครีต
คราวหน้าค่อยมาต่อเรื่องกองทัพยุคหลังนะครับ
ศัพท์
Sagittarii (เอกพจน์Sagittarius) - พลธนู ส่วนอีกความหมายก็คือธนู หรือราศีธนู
Funditores(เอกพจน์Funditore) - พลยิงสลิง ซึ่งจะเกณฑ์มาจากพลเมืองชั้นล่างของโรม หรือไม่ก็รัฐพันธมิตรอิตาเลียนของโรม
อีทรัสกัน(Etruscan) - หรือชาวแคว้นอีทรูเรีย(Etruria)เป็นกลุ่มชนที่มีอารยธรรมอันเก่าแก่ ซึ่งคาดว่าน่าจะอพยพมาจากเอเชียไมเนอร์ แต่หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าอาจเป็นพวกฟินิเชียน ปัจจุบันแคว้นอีทรูเรียคือแคว้นทัสคานีของอิตาลี
Eques (เอกพจน์Equites) - ทหารม้า