ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า ทั้งหมดเป็นความรู้เท่าหางอึ่งของผม ผิดพลาดประการใคต้องขออภัยด้วยนะครับ
ต่อมาจากกระทู้ Fat Duck, Burger & Lobster
http://ppantip.com/topic/30833656
ภาคสอง
http://ppantip.com/topic/30837452
(ภาพจากเวป)
ชา มีจุดเริ่มต้นในประเทศจีนและถูกนำเข้ามาในประเทศแถบตะวันตกผ่านทางโปรตุเกสในศตวรรษที่ 16 และเป็นที่แพร่หลายในเวลาต่อมา
ในประเทศอังกฤษความนิยมดื่มชาได้เพิ่มขึ้นมากในศตวรรษที่ 19 และหลังจากนั้นไม่นาน ดัชเชสแอนนาแห่งเบดฟอร์ด ได้คิดการทานชาและของว่างในยามบ่าย
ขึ้น เนื่องจากในสมัยนั้นประชาชนนิยมทานอาหารแค่สองมื้อคือมื้อเช้า และมื้อค่ำในเวลาประมาณสองทุ่ม ทำให้ในช่วงบ่ายมักจะหิว พระนางจึงให้สนม จัดน้ำชาและของว่างเข้าไปทานในห้องส่วนตัว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Afternnon Tea จนถึงปัจจุบัน
Afternoon Tea กับ High Tea ต่างกันอย่างไร?
Afternoon Tea ในยุคหลังๆเป็นวัฒนธรรมทางสังคมของคนชั้นสุงในอังกฤษ มากกว่าที่ต้องการทานให้อิ่ม นิยมจัดในช่วงบ่ายเพื่อพบปะพูดคุย ในห้องนั่งเล่น บนโซฟา หรือเก้าอี้เตี้ยๆ จึงเรียกอีกอย่างว่า Low Tea ประกอบด้วยแซนด์วิชหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หรือเรียกว่า Fingers sandwiches ขนมหวานและเค้ก ต่อมาภายหลังได้เพิ่มสโคนและคล็อตครีม (Scone and Clotted cream) เพิ่มเข้ามาในเมนู
ส่วน High Tea เป็นการดื่มชาของคนชั้นแรงงาน ซึ่งในสมัยโบราณ การดื่มชาเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยอย่างหนึ่ง และการพักทานชาในช่วงบ่ายเช่นเดียวกับชนชั้นสูงนั้นไม่สามารถกระทำได้ และกว่าจะเลิกงานกลับบ้านก็เป็นช่วงค่ำๆ การดื่มชาจึงเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร ประกอบด้วยชา ขนมปังและชีส บางครั้งจะมีอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้ามาประกอบ จึงเรียกอีกอย่างว่า Meat Tea และด้วยความสูงของโต๊ะอาหาร จึงเป็นที่มาของคำว่า High Tea นั่นเอง ภายหลังความนิยมการดื่มชาในช่วงค่ำก็กลับได้รับความนิยมในหมู่คนชั้งกลางและสูง
[CR] Afternoon Tea ในลอนดอน
ต่อมาจากกระทู้ Fat Duck, Burger & Lobster http://ppantip.com/topic/30833656
ภาคสอง http://ppantip.com/topic/30837452
(ภาพจากเวป)
ชา มีจุดเริ่มต้นในประเทศจีนและถูกนำเข้ามาในประเทศแถบตะวันตกผ่านทางโปรตุเกสในศตวรรษที่ 16 และเป็นที่แพร่หลายในเวลาต่อมา
ในประเทศอังกฤษความนิยมดื่มชาได้เพิ่มขึ้นมากในศตวรรษที่ 19 และหลังจากนั้นไม่นาน ดัชเชสแอนนาแห่งเบดฟอร์ด ได้คิดการทานชาและของว่างในยามบ่าย
ขึ้น เนื่องจากในสมัยนั้นประชาชนนิยมทานอาหารแค่สองมื้อคือมื้อเช้า และมื้อค่ำในเวลาประมาณสองทุ่ม ทำให้ในช่วงบ่ายมักจะหิว พระนางจึงให้สนม จัดน้ำชาและของว่างเข้าไปทานในห้องส่วนตัว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Afternnon Tea จนถึงปัจจุบัน
Afternoon Tea กับ High Tea ต่างกันอย่างไร?
Afternoon Tea ในยุคหลังๆเป็นวัฒนธรรมทางสังคมของคนชั้นสุงในอังกฤษ มากกว่าที่ต้องการทานให้อิ่ม นิยมจัดในช่วงบ่ายเพื่อพบปะพูดคุย ในห้องนั่งเล่น บนโซฟา หรือเก้าอี้เตี้ยๆ จึงเรียกอีกอย่างว่า Low Tea ประกอบด้วยแซนด์วิชหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หรือเรียกว่า Fingers sandwiches ขนมหวานและเค้ก ต่อมาภายหลังได้เพิ่มสโคนและคล็อตครีม (Scone and Clotted cream) เพิ่มเข้ามาในเมนู
ส่วน High Tea เป็นการดื่มชาของคนชั้นแรงงาน ซึ่งในสมัยโบราณ การดื่มชาเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยอย่างหนึ่ง และการพักทานชาในช่วงบ่ายเช่นเดียวกับชนชั้นสูงนั้นไม่สามารถกระทำได้ และกว่าจะเลิกงานกลับบ้านก็เป็นช่วงค่ำๆ การดื่มชาจึงเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร ประกอบด้วยชา ขนมปังและชีส บางครั้งจะมีอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้ามาประกอบ จึงเรียกอีกอย่างว่า Meat Tea และด้วยความสูงของโต๊ะอาหาร จึงเป็นที่มาของคำว่า High Tea นั่นเอง ภายหลังความนิยมการดื่มชาในช่วงค่ำก็กลับได้รับความนิยมในหมู่คนชั้งกลางและสูง