ดูเหมือนเส้นทางอนาคตลูกหนังของ “เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับความฝันของโอกาสในการได้ไปค้าแข้งในต่างแดนจะถูกนำมาปัดฝุ่นให้กลายเป็นจริงอีกครั้ง ภายหลังอกหักชวดโอกาสเซ็นสัญญาเป็นนักเตะของ แอตฯมาดริด จากการเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมเมื่อช่วงลีกสูงสุดของไทยปิดฤดูกาล...
จับตาบอลไทย
โดยมีกระแสข่าวว่ามีสโมสรระดับกลางๆ จากลีกประเทศยุโรป สนใจจะดึงตัวไปร่วมทัพ แต่จะเป็นทีมไหน อันนี้ผมก็มิอาจทราบได้ แต่ผมขอยืนกรานฟันธงได้ ยังไงก็ไม่ใช่ แอตฯ มาดริด สโมสรที่ไปฝึกซ้อม แน่นอน เพราะดูแล้วการส่งตัวไปฝึกซ้อมครั้งนี้ จะเป็นเพียงแค่การส่งตัวนักเตะไปฝึกซ้อมเพื่อหาประสบการณ์ ในฐานะพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกันมากกว่า
อย่างไรก็ตามในมุมมองผม ทีมที่สนจิต สนใจ ในตัว “เทพมุ้ย” คงหนีไม่พ้น ทีมจากสเปน เพราะอย่าลืมว่าช่วงเก็บตัวที่สเปน ก็มีข่าวว่าสโมสร “เคตาเฟ่” ให้ความสนใจ นี่ยังไม่นับรวมพวกลีกดังๆ จากประเทศอื่นๆ เช่น พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ยักษ์ใหญ่จากดัตช์ลีก หรือ สโมสรจากเจลีก แดนอาทิตย์อุทัย ก็มีข่าวว่ามาเร่ขายขนมจีบหวังคว้าตัวไปร่วมทัพ เช่นกัน
ส่วนเหตุผลที่ๆหลายๆสโมสรให้ความสนใจ ก็คงจะเป็นตัวเลขค่าตัวประมาณไม่ถึงร้อยล้านบาท กับฝีเท้าระดับนี้ และค่าเหนื่อยต่อปีที่ตีเป็นเงินไทย ก็ตกราวๆ 25 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งดูแล้วยังไงก็คุ้มกับการคว้ากองหน้าที่ดีที่สุดของไทย ไปล่าตาข่าย ช่วยทีม และไม่เพียงแต่ซื้อตัวไปร่วมทีมเท่านั้น แถมยังจะได้ในแง่ของมาร์เก็ตติ้ง ที่คาดว่าจะเจาะกลุ่มแฟนบอลไทยได้อีกต่างหาก เพราะชื่อของ “เทพมุ้ย” การันตีแฟนคลับตรึม ผมเองก็ด้วย
และ ที่สำคัญ ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ก็คือจากการไปฝึกซ้อมกับนักเตะระดับโลกหลายๆคน ครานั้น ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "เทพมุ้ย" นั้นได้ประโยชน์จากการฝึกซ้อมมากแค่ไหน เพราะได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของความแข็งแกร่ง และรวมไปถึงจังหวะการเล่นที่ช่วยเกมรุกของทีมได้เยอะ
แม้การยิงประตูจะฝืดไปอย่างมากชนิดต้องเติม(S)เอส หลังจากยิงไม่ค่อยได้เลย อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่า การที่ “เทพมุ้ย” ยิงไม่ค่อยได้อาจจะเป็นเพราะโดนประกบติดจากแนวรับฝั่งตรงข้ามมากเกินไป ชนิด “จับตาย” จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มีโอกาสลุ้นทำประตูไม่มากนัก หากเทียบกับซีซั่นก่อน ที่ยิงยังไงก็เข้า จนเข้าป้ายคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครอง
แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหา เพราะหากมีปัญหาจริง ทีมคงไม่นำเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ นั่นหมายความว่าการมีส่วนร่วมกับทีมและพาทีมชนะน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และจากฟอร์มการเล่นแบบนี้ ที่คำนึงถึงประโยชน์ของความเป็นทีมเวิร์กของทีมเป็นหลัก น่าจะทำให้ “เทพมุ้ย” ปรับตัวไม่ยากกับการย้ายไปเล่นในยุโรป ซึ่งทีมจากยุโรปที่สนใจ ก็คงเข้าใจในจุดเด่นข้อนี้ดี เพราะลำพังการจะลากกระชากผ่านไปยิงคงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
เอาเป็นว่า สุดท้ายจะได้ย้ายไปเล่นจริงหรือไม่ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเป็นแค่กรแสข่าวที่ผมได้ยินมา จึงหยิบมาเล่าสู่กันฟัง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จากผลงานที่ยอดเยี่ยมมากมายตลอดการค้าแข้งทั้งในนามสโมสรและทีมชาติไทย การที่มีกระแสข่าวออกมาว่ามีทีมจากยุโรป สนใจตัว “เทพมุ้ย” ไปเล่น ผมจึงคิดว่าหากกระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง
ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ “เทพมุ้ย” สมควรจะไปจากลีกไทยเสียที เพราะที่นี่น่าจะเล็กเกินไป สำหรับคุณแล้ว อยากให้ลองออกไปหาประสบการณ์เล่นต่างแดน แบบจริงๆ จังๆ เพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าตัวเองนั้นพร้อมแค่ไหน เพราะในลีกไทย คงไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วกับยอดกองหน้าดาวยิงเบอร์ 1 ของไทยแต่ดันใส่หมายเลข 10 รายนี้.
โชคดีมีตังค์ใช้แฟนๆ “จับตาบอลไทย” ทุกคน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
"ยอดี้"
โกอินเตอร์!! บทพิสูจน์ “มุ้ย” ของจริงแค่ไหน ?(จับตาบอลไทย)
จับตาบอลไทย
โดยมีกระแสข่าวว่ามีสโมสรระดับกลางๆ จากลีกประเทศยุโรป สนใจจะดึงตัวไปร่วมทัพ แต่จะเป็นทีมไหน อันนี้ผมก็มิอาจทราบได้ แต่ผมขอยืนกรานฟันธงได้ ยังไงก็ไม่ใช่ แอตฯ มาดริด สโมสรที่ไปฝึกซ้อม แน่นอน เพราะดูแล้วการส่งตัวไปฝึกซ้อมครั้งนี้ จะเป็นเพียงแค่การส่งตัวนักเตะไปฝึกซ้อมเพื่อหาประสบการณ์ ในฐานะพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกันมากกว่า
อย่างไรก็ตามในมุมมองผม ทีมที่สนจิต สนใจ ในตัว “เทพมุ้ย” คงหนีไม่พ้น ทีมจากสเปน เพราะอย่าลืมว่าช่วงเก็บตัวที่สเปน ก็มีข่าวว่าสโมสร “เคตาเฟ่” ให้ความสนใจ นี่ยังไม่นับรวมพวกลีกดังๆ จากประเทศอื่นๆ เช่น พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ยักษ์ใหญ่จากดัตช์ลีก หรือ สโมสรจากเจลีก แดนอาทิตย์อุทัย ก็มีข่าวว่ามาเร่ขายขนมจีบหวังคว้าตัวไปร่วมทัพ เช่นกัน
ส่วนเหตุผลที่ๆหลายๆสโมสรให้ความสนใจ ก็คงจะเป็นตัวเลขค่าตัวประมาณไม่ถึงร้อยล้านบาท กับฝีเท้าระดับนี้ และค่าเหนื่อยต่อปีที่ตีเป็นเงินไทย ก็ตกราวๆ 25 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งดูแล้วยังไงก็คุ้มกับการคว้ากองหน้าที่ดีที่สุดของไทย ไปล่าตาข่าย ช่วยทีม และไม่เพียงแต่ซื้อตัวไปร่วมทีมเท่านั้น แถมยังจะได้ในแง่ของมาร์เก็ตติ้ง ที่คาดว่าจะเจาะกลุ่มแฟนบอลไทยได้อีกต่างหาก เพราะชื่อของ “เทพมุ้ย” การันตีแฟนคลับตรึม ผมเองก็ด้วย
และ ที่สำคัญ ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ก็คือจากการไปฝึกซ้อมกับนักเตะระดับโลกหลายๆคน ครานั้น ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "เทพมุ้ย" นั้นได้ประโยชน์จากการฝึกซ้อมมากแค่ไหน เพราะได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของความแข็งแกร่ง และรวมไปถึงจังหวะการเล่นที่ช่วยเกมรุกของทีมได้เยอะ
แม้การยิงประตูจะฝืดไปอย่างมากชนิดต้องเติม(S)เอส หลังจากยิงไม่ค่อยได้เลย อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่า การที่ “เทพมุ้ย” ยิงไม่ค่อยได้อาจจะเป็นเพราะโดนประกบติดจากแนวรับฝั่งตรงข้ามมากเกินไป ชนิด “จับตาย” จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มีโอกาสลุ้นทำประตูไม่มากนัก หากเทียบกับซีซั่นก่อน ที่ยิงยังไงก็เข้า จนเข้าป้ายคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครอง
แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหา เพราะหากมีปัญหาจริง ทีมคงไม่นำเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ นั่นหมายความว่าการมีส่วนร่วมกับทีมและพาทีมชนะน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และจากฟอร์มการเล่นแบบนี้ ที่คำนึงถึงประโยชน์ของความเป็นทีมเวิร์กของทีมเป็นหลัก น่าจะทำให้ “เทพมุ้ย” ปรับตัวไม่ยากกับการย้ายไปเล่นในยุโรป ซึ่งทีมจากยุโรปที่สนใจ ก็คงเข้าใจในจุดเด่นข้อนี้ดี เพราะลำพังการจะลากกระชากผ่านไปยิงคงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
เอาเป็นว่า สุดท้ายจะได้ย้ายไปเล่นจริงหรือไม่ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเป็นแค่กรแสข่าวที่ผมได้ยินมา จึงหยิบมาเล่าสู่กันฟัง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จากผลงานที่ยอดเยี่ยมมากมายตลอดการค้าแข้งทั้งในนามสโมสรและทีมชาติไทย การที่มีกระแสข่าวออกมาว่ามีทีมจากยุโรป สนใจตัว “เทพมุ้ย” ไปเล่น ผมจึงคิดว่าหากกระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง
ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ “เทพมุ้ย” สมควรจะไปจากลีกไทยเสียที เพราะที่นี่น่าจะเล็กเกินไป สำหรับคุณแล้ว อยากให้ลองออกไปหาประสบการณ์เล่นต่างแดน แบบจริงๆ จังๆ เพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าตัวเองนั้นพร้อมแค่ไหน เพราะในลีกไทย คงไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วกับยอดกองหน้าดาวยิงเบอร์ 1 ของไทยแต่ดันใส่หมายเลข 10 รายนี้.
โชคดีมีตังค์ใช้แฟนๆ “จับตาบอลไทย” ทุกคน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
"ยอดี้"