คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
โรงหนัง ไม่ใช่คนซื้อลิขสิทธิ์หนังมาฉายนะครับ คนที่นำหนังเข้ามาฉายคือ บริษัทนำเข้าหนัง แล้ว เอาหนังไปให้โรงหนังฉาย รายได้ก็จะแบ่งกันตามแต่จะตกลง ขึ้นอยู่กับความแรงของหนัง หรืออิทธิพลทางการตลาดของโรงหนัง
บริษัทนำเข้าหนังในเมืองไทย จะมี 2 ประเภท คือ บริษัทตัวแทนของค่ายหนังจากเมืองนอก และ บริษัทนำเข้าอิสระ
บริษัทตัวแทนฯ ไม่ต้องจ่ายค่าลิทสิทธิ์ เพราะค่ายหนัง หรือ บริษัทแม่จากเมืองนอก จะป้อนหนังเข้ามาให้เลยพร้อมทั้งนโยบายการตลาด รายได้จากการฉายในเมืองไทยหลังจากแบ่งกับโรงหนังแล้ว ก็ส่งให้บริษัทแม่ที่เมืองนอก
บริษัทตัวแทนฯพวกนี้ ก็เช่น
UIP จะเป็นตัวแทนของค่ายหนังเช่น universal, Paramount, MGM
fox/warner จะเป็นตัวแทนของค่ายหนังเช่น 20fox, Warner Bros.
columbia/tristar จะเป็นตัวแทนของค่ายหนังเช่น columbia pictures, tristar pictures, disney
บริษัทนำเข้าอิสระ ผู้นำเข้ากลุ่มนี้ จะเป็นบริษัทอิสระ ไม่ได้มีบริษัทแม่คอยป้อนหนังจากเมืองนอกมาให้ ต้องออกไปซื้อหนังมาฉายเอง จ่ายตังค่าหนังเอง รายได้จากการฉายที่แบ่งกับทางโรงแล้ว ก็จะเป็นของผู้ซื้อมาทั้งหมด ไม่ต้องแบ่งใคร หนังที่ซื้อมาส่วนใหญ่จะเป็นหนังจากผู้ผลิตอิสระของเมืองนอก แต่บางทีก็ได้หนังจากค่ายใหย่ๆมาเหมือนกัน อยู่ที่สัญญาของค่ายใหญ่ กับผู้ผลิตหนัง เช่นหนังร่วมทุนต่างๆ อาจมีการตกลงกันว่า รายได้ในอเมริกา จะเป็นของค่ายใหญ่ รายได้นอกอเมริกา จะเป็นของค่ายเล็ก ที่ร่วมทุน ค่ายเล็กพวกนั้นก็จะเอาหนังที่มีโลโก้ค่ายใหญ่ มาขายให้บริษัทนำเข้าอิสระ ตามประเทศต่างๆได้เอง ตัวอย่างบริษัทนำเข้าอิสระ ในประเทศไทยก็เช่น M Picture, mongkol major และพวกค่ายเล็กค่ายน้อยอีกหลายค่าย
กลุ่มบริษัทนำเข้าหนังพวกนี้ จะนำฟิล์มหนังไปให้ค่ายโรงหนังฉายอีก ตามเงื่อนไขการแบ่งรายได้ตามตกลงเป็นเปอร์เซ็น เปอร์เซ็นต์แบ่งกันปกติจะไม่ค่อยตายตัว อยู่ที่อิทธิพลของตัวหนัง และ อิทธิพลของโรงหนัง เช่นในยุคหนึ่งที่ยังมีโรงหนังใหญ่ๆอยู่หลายค่าย ก็มักเกิดปัญหาบ่อยๆ เรื่อง หนังดังๆ แต่ไม่เข้าฉายโรงในเครือนั้น เครือนี้ เพราะตกลงเปอร์เซ็นต์กันไม่ได้ เมื่อเจ้าของหนังเห็นว่าหนังเรื่องนี้ที่กำลังเข้าฉายเป็นหนังกระแสแรง ก็จะโก่งขอเปอร์เซ็นต์เพิ่มจากปกติ ถ้าโรงหนังยอมก็ได้หนังไปฉาย ถ้าไม่ยอมก็อด ไม่ได้หนังไปฉาย เมื่อไม่ได้หนังมาฉาย ก็ไม่มีรายได้ เพราะคนดูก็จะไปดูที่โรงของค่ายอื่น แต่ในปัจจุบัน ค่ายโรงหนังใหญ่ๆ เหลืออยู่แค่ 2 ค่าย ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง อิทธิพลของโรงหนัง มีมากกว่าเจ้าของหนัง ปัญหาหนังใหญ่ๆเข้าเฉพาะโรงในเครือนั้น เครือนี้ เลยไม่ค่อยมีแล้ว
ข้อมูลส่วนไหนไม่ถูกต้อง ไม่อัพเดต ก็ต้องขออภัยครับ
บริษัทนำเข้าหนังในเมืองไทย จะมี 2 ประเภท คือ บริษัทตัวแทนของค่ายหนังจากเมืองนอก และ บริษัทนำเข้าอิสระ
บริษัทตัวแทนฯ ไม่ต้องจ่ายค่าลิทสิทธิ์ เพราะค่ายหนัง หรือ บริษัทแม่จากเมืองนอก จะป้อนหนังเข้ามาให้เลยพร้อมทั้งนโยบายการตลาด รายได้จากการฉายในเมืองไทยหลังจากแบ่งกับโรงหนังแล้ว ก็ส่งให้บริษัทแม่ที่เมืองนอก
บริษัทตัวแทนฯพวกนี้ ก็เช่น
UIP จะเป็นตัวแทนของค่ายหนังเช่น universal, Paramount, MGM
fox/warner จะเป็นตัวแทนของค่ายหนังเช่น 20fox, Warner Bros.
columbia/tristar จะเป็นตัวแทนของค่ายหนังเช่น columbia pictures, tristar pictures, disney
บริษัทนำเข้าอิสระ ผู้นำเข้ากลุ่มนี้ จะเป็นบริษัทอิสระ ไม่ได้มีบริษัทแม่คอยป้อนหนังจากเมืองนอกมาให้ ต้องออกไปซื้อหนังมาฉายเอง จ่ายตังค่าหนังเอง รายได้จากการฉายที่แบ่งกับทางโรงแล้ว ก็จะเป็นของผู้ซื้อมาทั้งหมด ไม่ต้องแบ่งใคร หนังที่ซื้อมาส่วนใหญ่จะเป็นหนังจากผู้ผลิตอิสระของเมืองนอก แต่บางทีก็ได้หนังจากค่ายใหย่ๆมาเหมือนกัน อยู่ที่สัญญาของค่ายใหญ่ กับผู้ผลิตหนัง เช่นหนังร่วมทุนต่างๆ อาจมีการตกลงกันว่า รายได้ในอเมริกา จะเป็นของค่ายใหญ่ รายได้นอกอเมริกา จะเป็นของค่ายเล็ก ที่ร่วมทุน ค่ายเล็กพวกนั้นก็จะเอาหนังที่มีโลโก้ค่ายใหญ่ มาขายให้บริษัทนำเข้าอิสระ ตามประเทศต่างๆได้เอง ตัวอย่างบริษัทนำเข้าอิสระ ในประเทศไทยก็เช่น M Picture, mongkol major และพวกค่ายเล็กค่ายน้อยอีกหลายค่าย
กลุ่มบริษัทนำเข้าหนังพวกนี้ จะนำฟิล์มหนังไปให้ค่ายโรงหนังฉายอีก ตามเงื่อนไขการแบ่งรายได้ตามตกลงเป็นเปอร์เซ็น เปอร์เซ็นต์แบ่งกันปกติจะไม่ค่อยตายตัว อยู่ที่อิทธิพลของตัวหนัง และ อิทธิพลของโรงหนัง เช่นในยุคหนึ่งที่ยังมีโรงหนังใหญ่ๆอยู่หลายค่าย ก็มักเกิดปัญหาบ่อยๆ เรื่อง หนังดังๆ แต่ไม่เข้าฉายโรงในเครือนั้น เครือนี้ เพราะตกลงเปอร์เซ็นต์กันไม่ได้ เมื่อเจ้าของหนังเห็นว่าหนังเรื่องนี้ที่กำลังเข้าฉายเป็นหนังกระแสแรง ก็จะโก่งขอเปอร์เซ็นต์เพิ่มจากปกติ ถ้าโรงหนังยอมก็ได้หนังไปฉาย ถ้าไม่ยอมก็อด ไม่ได้หนังไปฉาย เมื่อไม่ได้หนังมาฉาย ก็ไม่มีรายได้ เพราะคนดูก็จะไปดูที่โรงของค่ายอื่น แต่ในปัจจุบัน ค่ายโรงหนังใหญ่ๆ เหลืออยู่แค่ 2 ค่าย ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง อิทธิพลของโรงหนัง มีมากกว่าเจ้าของหนัง ปัญหาหนังใหญ่ๆเข้าเฉพาะโรงในเครือนั้น เครือนี้ เลยไม่ค่อยมีแล้ว
ข้อมูลส่วนไหนไม่ถูกต้อง ไม่อัพเดต ก็ต้องขออภัยครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบว่าโรงหนังแต่ล่ะแห่งซื้อลิขสิทธิ์หนังแต่ละเรื่อง ราคาประมาณกี่บาทเท่ากันมั้ย แล้วทำไมหนังทุกเรื่องถึงราคาเท่ากัน
เพราะผมคิดว่า ค่าลิขสิทธิ์หนังแต่ละเรื่อง ไม่น่าจะเท่ากัน อย่างหนังฟอร์มยักษ์ แอคชั่นเทคนิคเยอะๆ ลงทุนสูงๆ อย่าง แปซิฟิค ริม, วูล์ฟเวอร์รีน ฯลฯ ค่าลิขสิทธิ์น่าจะแพงกว่าหนังโรแมนติค คอมมิดี้ อย่าง บริดเจส โจนส์ ไดอารีย์ , There's something about Mary ฯลฯ หรืออย่างหนังไทยค่าลิขสิทธิ์ย่อมถูกกว่าหนังฝรั่ง แต่พอหนังเข้าโรงแล้ว ราคาไม่ว่าจะหนังเรื่องไหน ก็ราคาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับ Class ที่นั่ง หรือ มิติที่ดูมากกว่า แล้วอย่างนี้ ทางโรงหนังจะคุ้มมั้ยครับ อย่างหนังฟอร์มยักษ์ ลงทุนเยอะ ถ้าซื้อลิขสิทธิ์มาแพง แต่คนดูน้อย คงขาดทุนแย่ อยากทราบราคาค่าลิขสิทธิ์หนังแต่ละประเภทโดยประมาณครับ และหนังไทยกับหนังเทศค่าลิขสิทธิ์ต่างกันมากมั้ย
และอยากทราบว่าเค้านับจำนวนรายได้ของหนังจากอะไรบ้างครับ แล้วเอามารวมกันจากทุกโรง ทุกรอบยังไง ถีงทราบว่าหนังเรื่องนี้ทำเงินไปเท่าไหร่แล้ว