คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ขายบ้าน ยากกว่าขายรถ อาจจะใช่เวลาเป็นปีๆ
ระหว่างนี้เกิดเขาช๊อต อีกทำไง
ตัวผมเองก็เคียดอยู่เหมือนกัน เพื่อนติดเงินอยู่อีกเกือบ 2 แสน เซ็ง ตอนเดือดร้อนละ ดร่าม่า มาเลย
................
นอกประเด็น เอาเรื่องคุณดีกว่า
ขอถามนะครับ ว่า
1. ที่ว่าไปประกันน้องนะ จริงหรือเปล่า คุณได้สืบดูหรือยัง ??
*** ตอนจะเอาเงินอะ สารพัดจะมีเรื่อง มา ตอ .... เพื่อจะเอาเงินเรา แต่พอถึงกำหนด จะคืน ก็มีเรื่อง มา ตอ .... อีกรอบ
(ลักษณะนี้ผมโดนมาแล้ว และมักจะตามมาด้วย ตอนนี้ก็กำลังจะเดือดร้อน ขอยืมเพิ่มอีกได้หรือเปล่า .... อย่าให้เด็จขาดนะครับ !!! ผมโดนมาแล้ว แนวนี้เลย จากตอนแรกไม่เท่าไร มันจะทบไปเรื่อยๆ จะมันเป็นหนี้ ก้อนใหญ่) ถ้าจะให้ ขอให้เขามีของมาค้ำประกัน อาจจะเป็น ที่ดิน บ้าน หรือ รถ เอามาจำนำไว้ (แต่ควรต้องผ่อนหมดแล้วนะ)
สัญญาเงินกู้ ไม่มีความหมาย ฟ้องไปก็เท่านั้น ถ้าลูกหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายซะอย่างจะทำอะไรได้
............................
2. ประเด็นถัดมา ที่บอกว่าจะขายบ้าน ขายรถ
เทียบกับที่ผมเจอมา คือการซื้อเวลา อย่างกรณีเพื่อนผมก็เหมือนกันเลย เดียวขายที จะเอามาใช้ ซื้อเวลาไปเรื่อย มิหนำซ้ำจะมาขอยืมเพิ่มอีก
ข้อนี้ต้องเช็คให้ดี ถ้าจะให้ดี บอกเขา ขายรถ หรือจำนำ รถจะดีกว่า
อย่าใจอ่อน บอกเราก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน ให้เขาเอามาใช้เราก่อน ส่วนที่เหลือ เป็นภาระของเขาไป
..............................
อาจจะดูใจร้าย และเห็นแก่ตัว แต่มันคือชีวิตจริง เพื่อนสนิทกันนี้แหละ ทำแสบนัก
คุณอาจจะขอให้เขาชำระ ซักครึ่งหนึ่งก่อน ก็ได้ แล้วที่เหลือก็บอกเขาว่า มีเมือไรคอยมาคืน หรืออาจจะ ให้เขาผ่อนก็ได้เลือกเอา
ช่วยที่เราช่วยได้ครับ
แต่อย่าให้เพื่อนเอาปัญหาของเพื่อน มาโยนให้เรา เพราะไม่งัน ปัญหาของเพื่อนมันจะเป็นของเราทันที
ระหว่างนี้เกิดเขาช๊อต อีกทำไง
ตัวผมเองก็เคียดอยู่เหมือนกัน เพื่อนติดเงินอยู่อีกเกือบ 2 แสน เซ็ง ตอนเดือดร้อนละ ดร่าม่า มาเลย
................
นอกประเด็น เอาเรื่องคุณดีกว่า
ขอถามนะครับ ว่า
1. ที่ว่าไปประกันน้องนะ จริงหรือเปล่า คุณได้สืบดูหรือยัง ??
*** ตอนจะเอาเงินอะ สารพัดจะมีเรื่อง มา ตอ .... เพื่อจะเอาเงินเรา แต่พอถึงกำหนด จะคืน ก็มีเรื่อง มา ตอ .... อีกรอบ
(ลักษณะนี้ผมโดนมาแล้ว และมักจะตามมาด้วย ตอนนี้ก็กำลังจะเดือดร้อน ขอยืมเพิ่มอีกได้หรือเปล่า .... อย่าให้เด็จขาดนะครับ !!! ผมโดนมาแล้ว แนวนี้เลย จากตอนแรกไม่เท่าไร มันจะทบไปเรื่อยๆ จะมันเป็นหนี้ ก้อนใหญ่) ถ้าจะให้ ขอให้เขามีของมาค้ำประกัน อาจจะเป็น ที่ดิน บ้าน หรือ รถ เอามาจำนำไว้ (แต่ควรต้องผ่อนหมดแล้วนะ)
สัญญาเงินกู้ ไม่มีความหมาย ฟ้องไปก็เท่านั้น ถ้าลูกหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายซะอย่างจะทำอะไรได้
............................
2. ประเด็นถัดมา ที่บอกว่าจะขายบ้าน ขายรถ
เทียบกับที่ผมเจอมา คือการซื้อเวลา อย่างกรณีเพื่อนผมก็เหมือนกันเลย เดียวขายที จะเอามาใช้ ซื้อเวลาไปเรื่อย มิหนำซ้ำจะมาขอยืมเพิ่มอีก
ข้อนี้ต้องเช็คให้ดี ถ้าจะให้ดี บอกเขา ขายรถ หรือจำนำ รถจะดีกว่า
อย่าใจอ่อน บอกเราก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน ให้เขาเอามาใช้เราก่อน ส่วนที่เหลือ เป็นภาระของเขาไป
..............................
อาจจะดูใจร้าย และเห็นแก่ตัว แต่มันคือชีวิตจริง เพื่อนสนิทกันนี้แหละ ทำแสบนัก
คุณอาจจะขอให้เขาชำระ ซักครึ่งหนึ่งก่อน ก็ได้ แล้วที่เหลือก็บอกเขาว่า มีเมือไรคอยมาคืน หรืออาจจะ ให้เขาผ่อนก็ได้เลือกเอา
ช่วยที่เราช่วยได้ครับ
แต่อย่าให้เพื่อนเอาปัญหาของเพื่อน มาโยนให้เรา เพราะไม่งัน ปัญหาของเพื่อนมันจะเป็นของเราทันที
น่ารักแล้วรักมั๊ย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 957615 ถูกใจ, +High Heel Newbie+ ถูกใจ, nutpram ถูกใจ, ชินเอมอนซัง ถูกใจ, Nefrg ทึ่ง, naytiri ถูกใจ, Robbie Striker ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
เพื่อนมาปรึกษาเรื่องการเงินครับ
เพื่อนผมเงินเดือน 4 หมื่นครับ แฟนเขา อีก 10,000 แต่มีรายจ่ายที่เยอะ
- ผ่อนบ้าน 12,000
- ผ่อนรถตัวเอง 6,500 อีก 1 ปีจะหมด
- ผ่อนรถให้พ่อ 6,000 อีก 2 ปีครึงจะหมด
- พ่อแม่ทั้ง 2 ฝาย เดือนละ10,000
- บัตรกดเงินสด เดือนละ 5,000 วงเงิน 80,000 เงินนี้เอาไปประกันน้องเขยครับ
- บัตรเครดิต เดือนละ 5,000 หนี้ทั้งหมด 5 หมืน
นี่คือรายจ่ายครับ รวมๆ 44,500 ครับ ตอนนี้เริ่มไม่ไหวครับ
ผมก็อยากได้เงินคืนครับ แต่ก็เห็นใจเพื่อนจึงได้แต่บอกว่าเอาไว้ก่อนก็ได้
เขาคงอยากจะเคลียร์หนี้ครับ จึงปรึกษาผมว่า เขาควรขายบ้าน หรือขายรถตัวเองดี (แต่เขาไม่ขายรถที่ชื้อให้พ่อนะครับ) ผมแนะนำให้ขายบ้านเพื่อเครียร์หนี้ทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่ (ถ้าขายบ้านได้ใช้หนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ จะหมดและมีเหลือด้วย หนี้ทั้งหมดรวมๆเกือบ 6 แสน ขายบ้านได้กำไรน่าจะ 8 แสน) เพราะถ้าขายรถคงใช้หนี้ไม่หมด ผมแนะนำถูกป่าวครับ หรือใครมีคำแนะนำดีๆบ้างครับ