ผมว่าหลาย ๆ คนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ไม่มากก็น้อย ถ้าถามว่า จะไปเที่ยวที่ไหนช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลาย ๆ คนคงจะตอบได้เลยทันทีว่า “พัทยา” เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ตัวเมือง ไปมาก็สะดวกใช้เวลาไ่ม่นาน ผมเองก็คนนึงที่ได้ไปพักผ่อนที่นี่บ่อย ๆ ที่พักพัทยา ก็มีอยู่หลายแห่ง หลายสไตล์ ที่พักที่ผมจะพาไปชมคราวนี้ เป็นที่พักที่ผมชอบมากที่หนึ่ง จากที่ไปพักมา เพราะสไตล์ห้องพักแบบนี้ ผมชอบเป็นพิเศษ อยากมีบ้านอยู่แบบนี้เลยก็ว่าได้ (แต่แฟนผมบอกว่ามันเหมือนบ้านสร้างไม่เสร็จ ก็นะ สไตล์ใคร สไตล์มัน)

The Now Hotel เป็นโรงแรมสไตล์ Modern สไตล์ ปูนเปลือย ตั้งอยู่บนหาดจอมเทียน ตัวโรงแรมมีอยู่ทั้งหมด 4 ชั้น (รวม Lobby) มีห้องขนาดต่าง ๆ กัน อยู่ 5 ขนาด คือ ขนาด XS, S, M, L และ XL ก็เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว ตามไปชมกันเลยดีกว่าครับ

เริ่มจากก้าวแรกที่เราจอดรถ (ถ้าใครไม่ได้นำรถมาไม่มีปัญหานะครับ ตัวโรงแรมอยู่ติดถนนเลียบหาดจอมเทียน) เพื่อจะไปติดต่อห้องพัก ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ เป็นโรงแรมที่ดู Modern Style มาก ชอบตั้งแต่แรกเห็นเลยครับ

Lobby ของโรงแรมจะอยู่ทางด้านขวามือ ส่วนด้านซ้ายจะเป็น Bar เรืยกว่า “ZyBar”  เป็นบาร์ของทางโรงแรม ที่คนนอกสามารถมานั่งกินได้ เหมาะสำหรับที่คนที่ต้องการนั่งดื่มเครื่องดื่มเบา ๆ (รูปที่เห็นเป็นตอนที่ผมไปถึง เดี๋ยวค่อยดูรูปตอนกลางคืนครับ บรรยากาศน่านั่งมาก)

เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งของโรงแรม ส่วนใหญ่จะเป็น เฟอร์นิเจอร์หวาย สำหรับคนที่อยากหามาตกแต่งบ้าน ขอแนะนำนะครับ เพราะน้ำหนักเบาและเหมาะที่จะใช้ได้ทั้งในและนอกบ้าน โทนสีจะออกไปทางโทนสีเนื้อไม้อ่อน ๆ (สีบีช)

ห้องที่ผมพักเป็น Type L อยู่ที่ชั้นสองครับ ดูจากแผนผังของชั้น จะมีห้อง Type ต่าง ๆ กันอยู่ในหนึ่งชั้น เป็นการออกแบบใช้พื้นที่ได้อย่างลงตัว ห้องที่สามารถจะเห็นทะเลได้มีอยู่ Type เดียวคือ XL ครับ

เมื่อเปิดประตูเข้ามา ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นคือ นี่แหละ ห้องนอนแบบที่อยากได้ (ถึงแม้จะไม่มีทางก็เหอะ) คือต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า การที่จะทำบ้านปูนเปลือย นอกจากแบบที่ต้องหาคนออกแบบเฉพาะทางแล้ว การใช้ส่วนผสมที่ทำให้ปูนเป็นแบบปูนเปลือยนี่ก็สำคัญ เพราะถ้าทำไม่ดี แทนที่มันจะเหมือนปูนฉาบเรียบตลอดเวลา จะกลายเป็นนาน ๆ ไป มันจะหลุดร่อนมาเป็นฝุ่นผง ผมมันเป็นพวกประเภทชอบอะไรแบบเรียบ ๆ ง่าย แต่มี Style ซะด้วย

ขออธิบายแปลนของห้องคร่าว ๆ นะครับ ส่วนของที่นอนจะอยู่ตรงกลางห้อง ปลายเตียงจะเป็นเหมือนคล้าย ๆ Sofa Bed เหมาะจะนอน ๆ นั่ง ๆ ดู TV (มีเคลื่อนเล่น DVD ให้นะครับ แต่รู้สึกว่าไม่มีแผ่นให้ยืม ไม่รู้ตอนนี้มีหรือยัง) ส่วนด้านหัวเตียงจะเป็น อ่างล้างหน้า ชักโครกจะอยู่คนละด้านของห้องอาบน้ำนะครับ ห้องนี้พิเศษตรงที่จะมีอ่างอาบน้ำให้ แต่…จะอยู่ด้านนอกห้องน้ำ เหมาะกับคนที่มากับคู่รัก เพราะมันจะออก Open นิด ๆ เพราะไม่มีประตูจะมีแค่ม่านกั้น สามารถแช่น้ำไปดูวิวไปได้ครับ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ค่อนข้างครบถ้วน ถ้าจะขาดก็รู้สึกจะมีแค่ตู้เย็นหล่ะมั้งครับ (หรือผมหาไม่เจอหว่า)

คราวนี้เรามาดู ส่วนอื่น ๆ ของโรงแรมบ้างนะครับ ที่ผมจะขอแนะนำต่อไป คือ Bar ของโรงแรมนะครับ ที่ชื่อ ZyBar อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกแล้วว่า เป็น Bar ที่เหมาะที่จะนั่งดื่ม Cocktails ไป นั่งคุยไป เป็นมุมเล็ก ๆ ที่น่ารักของโรงแรม จะอยู่ด้านหน้าของโรงแรม ส่วนใครที่คิดว่าจะลำบากเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกิน หรือเครื่องดื่มอื่น ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เพราะมี 7-11 อยู่ติดกับโรงแรมเลย จะเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งเลยก็ได้ เพราะอยู่ติดกับ ZyBar เลยครับ

ตัวโรงแรมเมื่อมองออกมาจากด้านนอกครับ

ผมชอบการออกแบบของโรงแรมนี้เป็นการส่วนตัวนะครับ เพราะไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ก็ดูเค้าค่อนข้างใส่ใจรายละเอียด ทำให้โรงแรมที่ขนาดไม่ใหญ่โตอะไร ดูไม่อึดอัด

ตรงนี้จะเป็น Lobby ของโรงแรม ที่ไม่ได้ถ่ายตอนที่เข้ามาตอนแรกเพราะวันนั้นแขกเข้าพักค่อนข้างเยอะ เห็นวุ่น ๆ กันอยู่ เลยไม่อยากรบกวนแขกคนอื่นครับ เลยขอมาถ่ายอีกทีตอนไม่มีคนดีกว่า

ตอนกำลังถ่ายรูป เหลือบไปเห็นห้องอาหารที่เราจะต้องมากินตอนเช้า แสงสวยดีเลยขอเข้ามาถ่ายหน่อยนะครับ ตอนผมไปพัก ไม่ได้อยู่ช่วงบ่าย ๆ ไม่ได้สั่งอาหารของทางโรงแรม เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง

หลังจากผมเก็บภาพเสร็จ ก็กลับห้อง นอนแช่น้ำที่อ่างอาบน้ำ สบายตัวสุด ๆ ไปเลย แล้วอยากจะบอกไว้อย่างนะครับว่า ที่นอนที่นี่ นอนสบายสุด ๆ หมอนก็นุ่มมาก ผมไปพักมาก็หลายที่ แต่ที่นี่นอนสบายที่สุด ยังรื้อปลอกหมอนดูเลยครับว่าใช้ยี่ห้ออะไร แล้วก็ไปลองค้นดูว่าราคาเท่าไหร่ (พอเจอก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะราคาแพงกว่าที่นอนที่บ้านผมซะอีก เอาไว้รวยแล้วจะซื้อมาใช้ครับ)

แล้วงานก็มาเข้าตอนเช้า เมื่อผมมานั่งเตรียมตัวจะลงไปถ่ายห้องอาหารตอนเช้า ผมหาสายคล้องกล้องของผมไม่เจอ (ของผมเป็นแบบถอดแต่สายออกได้ครับ) ผมเลยตาลีตาเหลือกลงมาถามที่ Lobby ปรากฎว่า น้อง ๆ พนักงานเป็นคนเก็บไว้ให้ครับ อันนี้ต้องขอขอบคุณจริง ๆ

พอผมจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ผมก็ลงมาเก็บภาพห้องอาหารก่อน วิธีการของผมคือ จะลงมาก่อนห้องอาหารเปิดสัก 10 – 20 นาที เลือกหามุม แล้วก็เก็บภาพตอนที่คนยังไม่ลงมา ไลน์อาหารก็ยังสวยอยู่ แต่ได้เฉพาะที่นะครับ ถ้าโรงแรมที่มีแขกต่างชาติเยอะ อาจจะต้องลงมาล่วงหน้าเยอะหน่อย แต่อาจจะไปกดดันพี่ ๆ พนักงานเค้านิดหน่อย ก็บอกกับพวกพี่ ๆ เค้าว่า “ขออนุญาตเก็บภาพนะครับ” ก็ไม่ค่อยจะมีใครมาห้ามอะไรนะครับ เผลอ ๆ เค้าจะจัดให้เราถ่ายด้วย แต่ก็ต้องไม่ไปเกะกะเค้าเวลาถ่ายนะครับ (ในภาพ ที่เห็นว่าส้อมเบี้ยว อันนั้นผมผิดเองนะครับ ตอนแรกจะนั่งตรงนี้ แต่ผมเปลี่ยนที่ เลยเผลอไปโดน แล้วลืมจัดกลับให้)

ไลน์อาหารที่นี่ไม่ได้มีเยอะครับ แต่ก็กำลังดี รสชาติค่อนข้างดีครับ คะแนน 5 ให้ 4 (อันนี้แล้วแต่ว่าจะถูกปากใครขนาดไหนนะครับ สำหรับผมไม่ได้มี Class เยอะ) เป็น Buffet ไทยผสมตะวันตก

ขอปิดด้วยภาพสุดท้ายก่อนที่ผมจะไปจัดการกับกระเพาะตัวเองนะครับ โดยมาตรฐานแล้วโรงแรมนี้ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ดี ถึง ดีมาก ผมโชคดีที่ได้ไปตอนที่เค้ายังมีส่วนลดโปรโมชั่น งานไทยเที่ยวไทย ได้ Upgrade ห้องในราคาพิเศษ ต้องขอสารภาพนิดนึงว่า ภาพที่ทุกคนเห็นใน รีวิวนี้ ผมได้ไปพักมาซักพักใหญ่ ๆ แล้ว ตอนนี้อาจะเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย ถือว่าดูเป็นบรรทัดฐานไว้ก่อนนะครับ อาจจะต้องดูจาก Review ของคนอื่นประกอบด้วย เพราะจากที่ผมเข้าไปเช็คราคาตอนนี้ สูงกว่าที่ตอนผมเข้าพักพอสมควรเลย

แต่ยังไงที่นี่ก็มีข้อแนะนำอยู่หน่อยนะครับ เพราะทางโรงแรม ไม่มีสระว่ายน้ำครับ แต่เหมาะสำหรับคนที่อยากหาที่พักสไตล์นี้ ไม่ไกลจากที่เที่ยว ร้านอาหารเส้นเลียบชายหาดจอมเทียน และต้องการหลีกหนีความวุ่นวายย่านพัทยากลาง หวังว่า Review นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังตัดสินใจหาที่พักช่วงวันหยุด และสำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลของโรงแรมนี้นะครับ ขอบคุณที่เข้ามาชมครับ