วันก่อน แอบไปเห็นข้อสอบนึง เกี่ยวกับคนพูดจริงและคนโกหก ฝากมาให้เพื่อนๆช่วยกันคิดและหาคำตอบ (แต่ช่วยสปอยวิธีคิดไว้ด้วยนะ)

กดสปอย เพื่อดูโจทย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีคน 2 คนพูดจริง มีคน 3 คน โกหก
ใครพูดจริง ใครโกหก

ไผ่:        สไปร์ท เป็นคนโกหก
สไปร์ท: เต้ย เป็นคนโกหก
เต้ย :      วิน เป็นคนโกหก
วิน:       ไผ่และต้า เป็นคนพูดจริง
ต้า:        ไผ่และไปร์ท เป็นคนโกหก


ปล แวะตอบคำถามตามโจทย์ก่อน ค่อยอ่านด้านล่างนะคะ
หากใครไม่ทำโจทย์ อ่านต่อที่ สปอยได้เลย

ใจความตามหัวข้อกระทู้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วพาลมาให้คิดว่าทุกวันนี้ ใครพูดจริง และใครโกหกบ้าง

จากตัวอย่าง มีคนพูดจริง เพียงกรณีเดียว คือพูดจริง
คนพูดเท็จกรณีเดียว ก็คือเท็จ
แต่คนพูดจริงครึ่งนึง พร้อมๆกับการพูดเท็จครั้งนึง
ก็จะถือเป็นการโกหกแล้ว
นี่คือตรรกะของสากลโลก ไม่ใช่การพยายามตีความแบบศรีธนญชัย

พรบ ปรองดอง (นิรโทษกรรม) เน้นการนิรโทษประชาชน ที่ต้องถือว่า ถูกยุยงและปลุกปั่นโดยแกนนำ
ถึงแม้จะบอกว่า เสื้อแดงมาด้วยใจ ความคิด และอุดมการณ์ของตัวเอง
แต่ต้องยอมรับว่า มันมีเชื้อไฟอยู่

เพราะคำว่า หากเห็นรถถัง เราเจอกันที่สนามหลวง
จึงเกิดเป็นเสื้อแดงกันทุกวันนี้ ที่ไม่ใช่แค่กลุ่ม นปก เดิม
ก็คงไม่มีม้อบราชประสงค์ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายนานัปการ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พรบนี้ ได้ยกเว้นการนิรโทษ แก่แกนนำทั้งหลาย

----- นี่คือเรื่องจริง


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราทุกคนต่างย่อมยอมรับว่า
แม้ตัวจะมาไม่ได้ แต่คุณทักษิณ ได้เข้ามาเป็น ไฮไลท์ในงานอยู่ตลอดเวลา
ซึ่ง จะใช้หลักการว่า เป็นแกนนำ ต้องปรากฏตัวอยู่ยนเวทีนั้น มันไม่ถูกต้องเท่าไหร่
ความคิดนี้ เห็นมีคุณมาร์ค ที่เป็นเดือดเป็นร้อนในสภาว่า
คุณทักษิณ ไม่ได้อยู่เมืองไทยจะได้นิรโทษไปด้วย
แต่อย่าลืมว่า เขายังคงมีสถานภาพเป็นแกนนำ
ฉนั้น จะไม่เข้าข่ายได้รับผลประโยชน์จากพรบ นี้

นี่คือเรื่องจริงที่สอง



ถ้ามีคนโกหก เรื่องใดเรื่องหนึ่งในสองข้อนี้

เขา คือคนโกหก

จริงไหม?






แก้คำผิดค่ะ