ผมสงสัยว่า (ปลายปี พ.ศ.2556) สิ่งที่ผมสงสัยก็คือ เซี่ยงไฮ้ มันเป็นเมือง ศูนย์กลางของ จีน แทนฮ่องกงไปแล้ว แต่ฮ่องกงก็ไม่ได้แปลว่าหมดความหมาย
แต่ยังไงซะการลงทุนที่ ฮ่องกงตอนนี้ก็ ยัง เริ่ดกว่า เหนือชั้นกว่า และ มีฝรั่ง สร้างความเจริญหนุนหลังมาตลอดก่อน20ปีจนถคง 2556ปัจจุบัน
ทีนี้ ฝรั่งมันลงทุน ไว้ทั่วเกาะ สิ่งปลูกสร้าง อาคาร สำนักงาน คอนโด และ ตึกสูง ทั่วเกาะและ และทางด้านการเงินในประเทศหรือการลงทุน นับว่า เป็น ที่ 1 ในจีน และ เกือบ ที่ 1 ในเอเชีย เป็น รอง มหานครโตเกียว ซึ่งไม่ใช่ จีน และ ไม่ใช่ ประเด็นของเจ้า่ของกระทู้
ไม่ใช่ ประเด็นในที่นี้คือ โตเกียว มันไม่เกี่ยวกับจีน และเซี่ยงไฮ้ แต่ของเกริ่นไว้นิดนึงว่า โตเกียวรวมชานเมือง คนมัน 30กว่าล้านคน
แต่ฮ่องกง ฝรั่งเองก็ยากในการมาลงทุน ในเอเชียเนื่องจากอยู่ ยุโรป แต่นักลงทุนหลายคนก็ลงทุนเอาไว้ ยังไงคนก็น้อยกว่าโตเกียว
การลงทุนในนั้นย่อมน้อยกว้า แต่ถ้าจะเถียงผมว่าไม่เกี่ยว ก็มีส่วน ถ้าคนมันรวย แล้ว มีหัวธุรกิจ แค่นี้น้อยก็ลงทุนชนะเยอะ แต่เผอิญคนจีนสมัยนั้นยัง ไม้เปิดประเทศ เลยกๅก คนน้อย(ฮ่องกง+ฝรั่งนักลงทุนนิดๆ) ไม่กี่ล้านย้อม แพ้ 30 ล้าน แต่30ล้านไม่ใช่เขตตัวเมืองโตเกียว แต่รวมชานเมืองและปริมณฑลเขตปกครองพิเศษบริเวณโดยรอบทั้งหมด นักลงทุนในโตเกียวเยอะกว่า การลงทุน ฮ่องกงจึงไม่เทียบชั้นกับโตเกียว
*********รอหน่อยนะครับ ที่ผมตั้งกระทู้มาเพื่อจะให้คนตอบอะไรบางอย่าง หรือเสนอแนวคิดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนจะให้ทุกคนตอบ ผมขอพูด(พิมพ์) อะไรซักนิด ก่อน
สิ่งที่ผมอยากจะบอกไม่เกี่ยวกับ โตเกียวนะครับ นี่เกริ่นไว้คร่าวๆ แต่จะบอกว่า เซี่ยงไฮ้ เนี่ย ตอนนี้การลงทุน(หลังจากเปิดประเทศมาหลายปี)
เซี่ยงไฮ้ถือว่า กำลังจะเทียบชั้นกับ ฮ่องกง เพราะเศรษฐกิจ รุจหน้า นำ กรุง โซล ซึ่งผมเอง ว่า กรุงโซล นี่ 4-5ปี ที่แล้วไม่อาจเทียบ กทม
ซึ่ง กทม นี่ไม่ใช่ การ ลงทุนกๅกๆ นะครับ การลงทุนกทม ถือว่า เยอะ แล้วล้ำหน้า มากกว่า เศรษฐกิจ อีก
สมุติว่า เศรษฐกิจ การหาเงินเข้าประเทศไทยเป็น อันดับ 30 ของโลก แต่การลงทุนในไทย นั้น จะว่า top 1-10 ของโลกเลยก็ว่า ได้
แต่การลงทุนเยอะ ก็ พัฒนาประเทศได้แค่บางส่วน เป็นส่วนน้อย ยังมีเหตุปัจจัย อื่นๆอีก ที่ช่วยพัฒนา 9ล9
เอาล่ะ รู้แล้วใช่หรือไม่ว่า กทม ไม่ใช่ เล่นๆ ผมบอก เลย ว่า กรุงโซล 4-5 ปีที่แล้ว การลงทุน ไม่ อยู่ใน 1-10 ของโลก แต่พอปัจจุปัน
ก้าวกระโดด จน ตึกสูงใน เมืองกรุงโซล มากเป็น อันดับ 6ของโลกและ เป็นศูนย์ เศรษฐกิจ การคมนาคม ที่สำคัญ แบบก้าวกระโดด อย่างว่า
แต่ ก็ ไม่ เทียบ ชั้น กับ เซี่ยงไฮ้ ใน ทุกๆ ด้าน เลย (ทุกๆด้านในเรื่องการเงิน การลงทุน หรือ อะไรก็ได้ที่เป็นรายใหญ่ของโลก ตอนนี้เซี่ยงไฮ้ใกล้ฮ่องกงเข้าไปทุกวัน เนื่องจากการลงทุนฮ่องกงเริ่มอยู่ตัวและชะลอตัว โดยย้ายศูนย์การเงินที่สำคัญมาไว้ืที่เซี่ยงไฮ้ อีกแรงในการ พัฒนาประเทศให้ เป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจให้ล้ำนำ สหรัฐ อเมริเกรียน เอ๊ย อเมริกา แต่ฮ่องกงก็ยังเป็นเมืองศูนย์กลางการเงิน เหมือนเดิมนะ แต่ เซี่ยงไฮ้ก็เป็น สาขาใหญ่ของโลกเหมือนกัน ผมขอขยายความคำว่า ศูนย์กลางการเงิน ศูนย์กลางการเงินนี่ไม่ใช่ แค่
จีน นะ แต่มันคือ ของโลก ศูนย์กลางการเงินโลก ซึ่งศูนย์กลางการเงินของโลกซึ่งตอนแรก อยู่ที่ฮ่องกง ที่เดียว(ในจีนนะ)
กระทั่งวันหนึ่ง ถ้า เซี่ยงไฮ้นำฮ่องกงไปแล้ว ในทุกๆด้าน นำ สหรัฐ ไปแล้วทุกๆด้าน(ยกเว้นความสูง)
นำญี่ปุ่นไปแล้วทุกด้าน (ยกเว้นสาวๆญี่ปุ่น อันนี้อยู่ในใจผมเสมอ ไม่มีทางนำ)
แล้ว มหานครของโลก แห่งใหม้ อยู่จะ อยู่ที่เมือง บรรพบุรุษผมใช่ มั้ยครับ (เมืองจีน)เซี่ยงไฮ้
เพราะ ท่า เรือที่ใหญ่ที่สุด ถิ่นฐานการผลิตที่ถูก กว่าโตเกียว แต่ ตอนนี้ ค่า ครอง ชีพ เริ่มแพงแล้ว(shanghai)
ผมคิดว่า ถ้า สหรัฐยัง ตกอยู่ในภาวะ เศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ แล้ว ไม่ฟื้น แถมยังไปติดหนี้ เค้าไปทั่วเนี่ย เมืองบรรพบุรุษผมจะเป็นที่1 ของโลก ใช่มั้ยครับ ต่ิอให้บรรพบุรุษผม อยู่ กวางตุ้ง ซึ่งอยู่จีนตอนใต้และอยู่ห่าง จากว่าที่ มหานครเอก 800-1000 กม ก็ตามแต่
แต่ยังไง จิ๋นC ก็ รวมเป็น แผ่นดินจีนเดียวกัน ยังไงก็เป็นบรรพบุรุษต่างวัฒนธรรม
สุดท้ายอยากได้ยิน คำว่าใช่ จากคนที่ใช้ ปัญญาในการ วิเคราะห์ประเมินสถานกรณ์เก่ง
ว่า เมืองกระทู้ที่ตั้งขึ้นมาจะเป็น เมือง มหาอำนาจแห่งใหม่ หรือ เปล่า ผมว่าจะไปเรียนต่อที่นั้น และใช้ ชีวิต หลังจากเรียนจบที่นั้น
ปล. ต่ิอ ป.ตรี จะทำงาน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองหนาว มีเมียเมืองหนาว ขี้ในเมืองหนาว กินข้าวในเมืองหนาว
ทำงานเป็น นักธุรกิจในเมืองหนาว(ถ้าไม่เกินความสามารถ) มีความสุขบ้างในเมืองหนา่ว มีความทุกข์บ้างในเมืองหนาว
เจ็บป่วยบ้างในเมืองหนาว .... X บ้างในเมืองหนาว
และ สุดท้าย ขอ จบชีวิตที่เมืองหนาว .............. (หนาวแบบ เอเชีย ไม่หนาวลงล่างแบบออสเตรเลีย ไม่หนาวแคนดาอเมริกา ไม่หนาวแบบรัสเซีย ยุโรป หรือ ขั่ว โลก2ขั่ว แต่ขอ หนาว แบบ เซี่ยงไฮ้)
เซี่ยงไฮ้เมืองเอกของโลก
แต่ยังไงซะการลงทุนที่ ฮ่องกงตอนนี้ก็ ยัง เริ่ดกว่า เหนือชั้นกว่า และ มีฝรั่ง สร้างความเจริญหนุนหลังมาตลอดก่อน20ปีจนถคง 2556ปัจจุบัน
ทีนี้ ฝรั่งมันลงทุน ไว้ทั่วเกาะ สิ่งปลูกสร้าง อาคาร สำนักงาน คอนโด และ ตึกสูง ทั่วเกาะและ และทางด้านการเงินในประเทศหรือการลงทุน นับว่า เป็น ที่ 1 ในจีน และ เกือบ ที่ 1 ในเอเชีย เป็น รอง มหานครโตเกียว ซึ่งไม่ใช่ จีน และ ไม่ใช่ ประเด็นของเจ้า่ของกระทู้
ไม่ใช่ ประเด็นในที่นี้คือ โตเกียว มันไม่เกี่ยวกับจีน และเซี่ยงไฮ้ แต่ของเกริ่นไว้นิดนึงว่า โตเกียวรวมชานเมือง คนมัน 30กว่าล้านคน
แต่ฮ่องกง ฝรั่งเองก็ยากในการมาลงทุน ในเอเชียเนื่องจากอยู่ ยุโรป แต่นักลงทุนหลายคนก็ลงทุนเอาไว้ ยังไงคนก็น้อยกว่าโตเกียว
การลงทุนในนั้นย่อมน้อยกว้า แต่ถ้าจะเถียงผมว่าไม่เกี่ยว ก็มีส่วน ถ้าคนมันรวย แล้ว มีหัวธุรกิจ แค่นี้น้อยก็ลงทุนชนะเยอะ แต่เผอิญคนจีนสมัยนั้นยัง ไม้เปิดประเทศ เลยกๅก คนน้อย(ฮ่องกง+ฝรั่งนักลงทุนนิดๆ) ไม่กี่ล้านย้อม แพ้ 30 ล้าน แต่30ล้านไม่ใช่เขตตัวเมืองโตเกียว แต่รวมชานเมืองและปริมณฑลเขตปกครองพิเศษบริเวณโดยรอบทั้งหมด นักลงทุนในโตเกียวเยอะกว่า การลงทุน ฮ่องกงจึงไม่เทียบชั้นกับโตเกียว
*********รอหน่อยนะครับ ที่ผมตั้งกระทู้มาเพื่อจะให้คนตอบอะไรบางอย่าง หรือเสนอแนวคิดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนจะให้ทุกคนตอบ ผมขอพูด(พิมพ์) อะไรซักนิด ก่อน
สิ่งที่ผมอยากจะบอกไม่เกี่ยวกับ โตเกียวนะครับ นี่เกริ่นไว้คร่าวๆ แต่จะบอกว่า เซี่ยงไฮ้ เนี่ย ตอนนี้การลงทุน(หลังจากเปิดประเทศมาหลายปี)
เซี่ยงไฮ้ถือว่า กำลังจะเทียบชั้นกับ ฮ่องกง เพราะเศรษฐกิจ รุจหน้า นำ กรุง โซล ซึ่งผมเอง ว่า กรุงโซล นี่ 4-5ปี ที่แล้วไม่อาจเทียบ กทม
ซึ่ง กทม นี่ไม่ใช่ การ ลงทุนกๅกๆ นะครับ การลงทุนกทม ถือว่า เยอะ แล้วล้ำหน้า มากกว่า เศรษฐกิจ อีก
สมุติว่า เศรษฐกิจ การหาเงินเข้าประเทศไทยเป็น อันดับ 30 ของโลก แต่การลงทุนในไทย นั้น จะว่า top 1-10 ของโลกเลยก็ว่า ได้
แต่การลงทุนเยอะ ก็ พัฒนาประเทศได้แค่บางส่วน เป็นส่วนน้อย ยังมีเหตุปัจจัย อื่นๆอีก ที่ช่วยพัฒนา 9ล9
เอาล่ะ รู้แล้วใช่หรือไม่ว่า กทม ไม่ใช่ เล่นๆ ผมบอก เลย ว่า กรุงโซล 4-5 ปีที่แล้ว การลงทุน ไม่ อยู่ใน 1-10 ของโลก แต่พอปัจจุปัน
ก้าวกระโดด จน ตึกสูงใน เมืองกรุงโซล มากเป็น อันดับ 6ของโลกและ เป็นศูนย์ เศรษฐกิจ การคมนาคม ที่สำคัญ แบบก้าวกระโดด อย่างว่า
แต่ ก็ ไม่ เทียบ ชั้น กับ เซี่ยงไฮ้ ใน ทุกๆ ด้าน เลย (ทุกๆด้านในเรื่องการเงิน การลงทุน หรือ อะไรก็ได้ที่เป็นรายใหญ่ของโลก ตอนนี้เซี่ยงไฮ้ใกล้ฮ่องกงเข้าไปทุกวัน เนื่องจากการลงทุนฮ่องกงเริ่มอยู่ตัวและชะลอตัว โดยย้ายศูนย์การเงินที่สำคัญมาไว้ืที่เซี่ยงไฮ้ อีกแรงในการ พัฒนาประเทศให้ เป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจให้ล้ำนำ สหรัฐ อเมริเกรียน เอ๊ย อเมริกา แต่ฮ่องกงก็ยังเป็นเมืองศูนย์กลางการเงิน เหมือนเดิมนะ แต่ เซี่ยงไฮ้ก็เป็น สาขาใหญ่ของโลกเหมือนกัน ผมขอขยายความคำว่า ศูนย์กลางการเงิน ศูนย์กลางการเงินนี่ไม่ใช่ แค่
จีน นะ แต่มันคือ ของโลก ศูนย์กลางการเงินโลก ซึ่งศูนย์กลางการเงินของโลกซึ่งตอนแรก อยู่ที่ฮ่องกง ที่เดียว(ในจีนนะ)
กระทั่งวันหนึ่ง ถ้า เซี่ยงไฮ้นำฮ่องกงไปแล้ว ในทุกๆด้าน นำ สหรัฐ ไปแล้วทุกๆด้าน(ยกเว้นความสูง)
นำญี่ปุ่นไปแล้วทุกด้าน (ยกเว้นสาวๆญี่ปุ่น อันนี้อยู่ในใจผมเสมอ ไม่มีทางนำ)
แล้ว มหานครของโลก แห่งใหม้ อยู่จะ อยู่ที่เมือง บรรพบุรุษผมใช่ มั้ยครับ (เมืองจีน)เซี่ยงไฮ้
เพราะ ท่า เรือที่ใหญ่ที่สุด ถิ่นฐานการผลิตที่ถูก กว่าโตเกียว แต่ ตอนนี้ ค่า ครอง ชีพ เริ่มแพงแล้ว(shanghai)
ผมคิดว่า ถ้า สหรัฐยัง ตกอยู่ในภาวะ เศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ แล้ว ไม่ฟื้น แถมยังไปติดหนี้ เค้าไปทั่วเนี่ย เมืองบรรพบุรุษผมจะเป็นที่1 ของโลก ใช่มั้ยครับ ต่ิอให้บรรพบุรุษผม อยู่ กวางตุ้ง ซึ่งอยู่จีนตอนใต้และอยู่ห่าง จากว่าที่ มหานครเอก 800-1000 กม ก็ตามแต่
แต่ยังไง จิ๋นC ก็ รวมเป็น แผ่นดินจีนเดียวกัน ยังไงก็เป็นบรรพบุรุษต่างวัฒนธรรม
สุดท้ายอยากได้ยิน คำว่าใช่ จากคนที่ใช้ ปัญญาในการ วิเคราะห์ประเมินสถานกรณ์เก่ง
ว่า เมืองกระทู้ที่ตั้งขึ้นมาจะเป็น เมือง มหาอำนาจแห่งใหม่ หรือ เปล่า ผมว่าจะไปเรียนต่อที่นั้น และใช้ ชีวิต หลังจากเรียนจบที่นั้น
ปล. ต่ิอ ป.ตรี จะทำงาน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมืองหนาว มีเมียเมืองหนาว ขี้ในเมืองหนาว กินข้าวในเมืองหนาว
ทำงานเป็น นักธุรกิจในเมืองหนาว(ถ้าไม่เกินความสามารถ) มีความสุขบ้างในเมืองหนา่ว มีความทุกข์บ้างในเมืองหนาว
เจ็บป่วยบ้างในเมืองหนาว .... X บ้างในเมืองหนาว
และ สุดท้าย ขอ จบชีวิตที่เมืองหนาว .............. (หนาวแบบ เอเชีย ไม่หนาวลงล่างแบบออสเตรเลีย ไม่หนาวแคนดาอเมริกา ไม่หนาวแบบรัสเซีย ยุโรป หรือ ขั่ว โลก2ขั่ว แต่ขอ หนาว แบบ เซี่ยงไฮ้)