คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมตอบให้ตามลำดับคำถามเลยครับ
1. ถ้าจะจด ให้จดบริษัทจำกัด ยิ่งบอกไม่เข้าใจและไม่รูเรื่องบริหาร ภาษี ด้วยแล้วคุณจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
2. ถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้จ่ายเงินให้คุณเขาก็จะจ่ายในนามนิติบุคคลตามชื่อที่ปรากฎในสัญญาจ้างหรือบริการ ครับ แตกต่างกันไม๋ ตอบว่าไม่ เพราะสัญญาจ้างมูลค่าเท่าไหร่ ก็จ่ายให้ตามมูลค่าในสัญญา เพียงแต่ว่าถ้าจ่ายให้คนอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับจ้างซึ่งเป็นคู่สัญญา อาจมีปัญหาได้
3. จำเป็นเพราะกฎหมายกำหนดบังคับไว้ว่าต้องทำ และผู้ทำต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ใครก็ทำได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้ทำต้องจบปริญญาตรีทางบัญชีและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจ งบดุลเมื่อทำเสร็จแล้วต้องให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเซ็นรับรองก่อน ซึ่งทั้งหมดล้วนต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำไม่น้อยเหมือนกัน ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพ ของดีราคาถูกไม่ค่อยมี
4. ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนในบัญชีจริงๆ เมื่อจดทะเบียนเสร็จก็ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทกู้ไปทำธุรกิจของบริษัทนั่นแหละ สิ้นปีก็จ่ายดอกเบี้ยให้บริษัทตามอัตราที่กำหนด จบครับ
กรณีรุ่นพี่หรือรุ่นคุณก็แล้วแต่ ถ้ามีเงินเดือนประจำอยู่แล้ว การตั้งบริษัท ก็เป็นการแยกบคคลกับนิติบุคคลอยู่แล้วไม่เกี่ยวข้องกัน การจะให้บุคคลมารับเงินซึ่งเป็นรายได้ของบริษัท ไม่ควรทำ แต่รับในนามบริษัทแล้วโอนเข้าบัญชีบุคคลก็เป็นอีกเรื่องครับ
มีอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ สำหรับเพื่อนสมาชิก ผมบริการฟรีไม่มีปัญหา ยินดีครับ
1. ถ้าจะจด ให้จดบริษัทจำกัด ยิ่งบอกไม่เข้าใจและไม่รูเรื่องบริหาร ภาษี ด้วยแล้วคุณจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
2. ถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้จ่ายเงินให้คุณเขาก็จะจ่ายในนามนิติบุคคลตามชื่อที่ปรากฎในสัญญาจ้างหรือบริการ ครับ แตกต่างกันไม๋ ตอบว่าไม่ เพราะสัญญาจ้างมูลค่าเท่าไหร่ ก็จ่ายให้ตามมูลค่าในสัญญา เพียงแต่ว่าถ้าจ่ายให้คนอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับจ้างซึ่งเป็นคู่สัญญา อาจมีปัญหาได้
3. จำเป็นเพราะกฎหมายกำหนดบังคับไว้ว่าต้องทำ และผู้ทำต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ใครก็ทำได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้ทำต้องจบปริญญาตรีทางบัญชีและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจ งบดุลเมื่อทำเสร็จแล้วต้องให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเซ็นรับรองก่อน ซึ่งทั้งหมดล้วนต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำไม่น้อยเหมือนกัน ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพ ของดีราคาถูกไม่ค่อยมี
4. ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนในบัญชีจริงๆ เมื่อจดทะเบียนเสร็จก็ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทกู้ไปทำธุรกิจของบริษัทนั่นแหละ สิ้นปีก็จ่ายดอกเบี้ยให้บริษัทตามอัตราที่กำหนด จบครับ
กรณีรุ่นพี่หรือรุ่นคุณก็แล้วแต่ ถ้ามีเงินเดือนประจำอยู่แล้ว การตั้งบริษัท ก็เป็นการแยกบคคลกับนิติบุคคลอยู่แล้วไม่เกี่ยวข้องกัน การจะให้บุคคลมารับเงินซึ่งเป็นรายได้ของบริษัท ไม่ควรทำ แต่รับในนามบริษัทแล้วโอนเข้าบัญชีบุคคลก็เป็นอีกเรื่องครับ
มีอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ สำหรับเพื่อนสมาชิก ผมบริการฟรีไม่มีปัญหา ยินดีครับ
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งเริ่มทำ Production House ขอคำแนะนำเรื่องรับเงินในนามบุคคลกับนิติบุคคล และเรื่องภาษีครับ
ตอนนี้อยู่ในระหว่างพูดคุยดำเนินงาน มีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่ๆ เกี่ยวกับเรื่องการเปิดบริษัท
รวมถึงการรับเงินในนามบุคคลและนิติบุคคลครับ
ผมหาข้อมูลเรื่องการเปิดบริษัท, หจก. รวมถึงการจ้างทำบัญชีคร่าวๆ แต่ก็เท่านั้นครับ
เนื่องจากว่าทุกๆ อยู่ในภาคไอเดีย ครีเอทีฟ เป็นพนักงานบริษัท ไม่มีความรู้เรื่องบริหารเลยครับ
ตั้งใจว่ารวมตัวกันเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ ที่มีหุ้นส่วนแค่ 3 คน รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ทำรายการทีวี 2 รายการ รายรับเดือนละประมาณ 500000 บาท
หักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือกำไรประมาณครึ่งหนึ่ง
หุ้นส่วนทุกคนยังรับเงินเดือนประจำจากบริษัท
มีคำถามจะปรึกษาดังนี้ครับ
1. ผมควรจะจดทะเบียนนิติบุคคลเป็น บริษัท หรือ หจก. ดีมั้ยครับ
2. การแตกต่างระหว่างการรับเงิน (จากบริษัทเคเบิ้ลทีวีผู้จ้าง) ในนามบุคคลกับนิติบุคคล
จะแตกต่างกันยังไงบ้างครับ ในเรื่องของภาษี
3. ถ้าจดทะเบียนนิติบุคคล จำเป็นต้องจ้างทำบัญชีมั้ยครับ
4. ไม่เข้าใจเรื่องทุนจดทะเบียนบริษัทเลยครับ เราต้องมีเงินในบัญชีจริงๆ รึป่าว
ผมเคยปรึกษารุ่นพี่ที่รับทำ TV Production เค้ามีบริษัทเป็นของตัวเอง
แต่ว่ารับเงินในนามบุคคลตลอด (ไม่รับเงินเข้าบริษัท) เค้าบอกสะดวกดี
ซึ่งผมอยากรู้เรื่องภาษีมากๆ เลยครับ ว่าถ้าในกรณีแบบนี้
การทำบริษัทกับการรับเงินในนามบุคคล อันไหนจะดีกว่า
เพราะรายรับประมาณ 5 แสน ถ้าเทียบกับบริษัท Production House อื่นๆ ถือว่าน้อยมาก
เพราะทุกคนยังทำงานประจำไปด้วยครับ เลยรับแค่ 2 รายการ
รบกวนขอคำแนะนำจากพี่ๆ ในเรื่องนี้ รวมถึงด้านอื่นๆ
ในการที่จะเริ่มต้นธุรกิจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ