ผมไม่รู้ว่า ติดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติมีเพศสัมพันธ์ จะใส่ถุงยาง ตลอด อาจจะเป็นตอนที่เป็นออรัลฯ ก็ได้ครับ จากนั้น เริ่มมีอาการ คันบริเวณ ปลายองคชาติ เมื่อประมาณ เดือน เมษายน 2556 ครับ เป็นจุดแดงๆ คันรอบๆ ตรงรอยหยักก็ไม่เว้น ก่อนนอนคืนที่จะเริ่มอาการ ผมช่วยตัวเอง แล้วผมก็ไม่ได้ล้างครับ ทิชชู่เช็ดแล้วก็นอนเลย ตื่นเช้ามา มันเป็นมากเลยครับ แบบตกใจ
1.ผมซื้อ ยาฆ่าเชื้อรามาทา แต่มันไม่หาย รู้สึกระคายเคืองและแดงมากกว่าเดิม จึงเลิกทา แล้วบอกเภสัชว่า เอาครีมรักษาผื่นคันที่ไม่ใช่ยาเชื้อรา
พอทายาตัวนี้ มันก็ ยุบลง แต่พอเลิกทามันก็กลับมาใหม่ ผมก็ คิดว่า รักษาไม่ถูกทางแน่เลย
2.ก็เลยไปหา คลินิคนิรนาม เขาก็ขอดูว่า มันเป็นยังไง ก็เลยให้ดู เขาก็บอกว่า น่าจะเป็นเชื้อรานะ ตรวจ HIV ซิฟิลิส ดูแล้ว ก็ไม่มีเชื้อ ผมก็ถามว่า จะเป็นหนองในได้ไหมครับหมอ เขาก็บอกคงไม่ใช่ อาการมันไม่ใช่ พร้อมกันกับ ให้ยาเชื้อรามาทา พอทาแล้ว ก็รู้สึกระคายเคืองแล้วก็แดง เหมือนเดิม
3. ผมไปหาหมอผิวหนัง อีกที เล่าอาการที่เป็นมาตั้งแต่แรกเลย แต่หมอก็ไม่ได้สนใจฟังที่ผมเล่าเลย รีบๆตัดบทว่าผมเป็น เชื้อรา ให้ยากินและก็ยาทามา เป็นครีม ในตลับเล็กๆ ทาแล้วไม่แสบ มันก็ยุบลง
4. พ.ค. ผมมีธุระต้องไปต่างจังหวัด ลืมเอายาทาไป แต่ก็กินยาตลอด มันก็ขึ้นมาอีก เลยกลับมาหาหมออีกครั้ง หมอก็ บอกว่างั้นไม่ต้องกินยา ทายาอย่างเดียว แล้วให้ยาตัวเดิมมาอีกชุดนึง
5. คือระหว่างนี้ วันไหนที่ผม ช่วยตัวเองแล้วไม่ได้ล้าง พอตอนเช้ามันจะเป็นผื่นแดงๆ ขึ้น แบบที่เคยเป็น แล้วผมก็จะทายา มันก็ยุบหายไปครับ และเมื่อวาน ผมเลยมาสังเกตว่า มันมี ติ่งเล็กๆ เหมือนตุ่ม บริเวณ เส้นสองสลึงอะครับ ก็ตกใจ มันเป็นอะไรเนี่ย เลยไปหาหมอ อีกคนนึง ก็ ต้องให้เขาดู และก็เล่าเรื่องเดิมซ้ำอีกรอบ หมอก็บอกว่า หมอไม่เห็นผื่น หมอให้ยาไม่ได้ หมอให้แต่ยา รักษาหูด ไปนะ แล้วก็ให้ Aldara มาให้แต้มครับ
อยากจะถามเพื่อนๆว่า
1. หูดเขารักษากันยังไง คือที่ผมเป็นเนี่ยมันไม่มาก ( ถ้าไม่สังเกตุ ไม่เอามือสัมผัส ก็ไม่รู้ว่าเป็นตุ่ม แล้วถ้าหมอไม่บอกว่าคือหูดผมก็ไม่รู้)
2.ตามลักษณะอาการ ผมน่าจะเป็นอะไรกันแน่ คือ ผมไปหาหมอมาแล้วหลายครั้งมาก หมอก็ไม่สนใจคุยกับผมเลย คือจริงๆ แล้วผมอายมากที่จะต้องเล่าเรื่องราว และต้องให้หมอดูตั้งหลายคน แต่ก็ไม่เป็นผล นี่ก็ไม่มีที่พึ่ง เลยอยากฟังความเห็นจากเพื่อนๆ ครับ
รบกวนด้วยนะครับ
ผมเป็นหูดที่อวัยวะเพศครับ เครียดมาก 18+
1.ผมซื้อ ยาฆ่าเชื้อรามาทา แต่มันไม่หาย รู้สึกระคายเคืองและแดงมากกว่าเดิม จึงเลิกทา แล้วบอกเภสัชว่า เอาครีมรักษาผื่นคันที่ไม่ใช่ยาเชื้อรา
พอทายาตัวนี้ มันก็ ยุบลง แต่พอเลิกทามันก็กลับมาใหม่ ผมก็ คิดว่า รักษาไม่ถูกทางแน่เลย
2.ก็เลยไปหา คลินิคนิรนาม เขาก็ขอดูว่า มันเป็นยังไง ก็เลยให้ดู เขาก็บอกว่า น่าจะเป็นเชื้อรานะ ตรวจ HIV ซิฟิลิส ดูแล้ว ก็ไม่มีเชื้อ ผมก็ถามว่า จะเป็นหนองในได้ไหมครับหมอ เขาก็บอกคงไม่ใช่ อาการมันไม่ใช่ พร้อมกันกับ ให้ยาเชื้อรามาทา พอทาแล้ว ก็รู้สึกระคายเคืองแล้วก็แดง เหมือนเดิม
3. ผมไปหาหมอผิวหนัง อีกที เล่าอาการที่เป็นมาตั้งแต่แรกเลย แต่หมอก็ไม่ได้สนใจฟังที่ผมเล่าเลย รีบๆตัดบทว่าผมเป็น เชื้อรา ให้ยากินและก็ยาทามา เป็นครีม ในตลับเล็กๆ ทาแล้วไม่แสบ มันก็ยุบลง
4. พ.ค. ผมมีธุระต้องไปต่างจังหวัด ลืมเอายาทาไป แต่ก็กินยาตลอด มันก็ขึ้นมาอีก เลยกลับมาหาหมออีกครั้ง หมอก็ บอกว่างั้นไม่ต้องกินยา ทายาอย่างเดียว แล้วให้ยาตัวเดิมมาอีกชุดนึง
5. คือระหว่างนี้ วันไหนที่ผม ช่วยตัวเองแล้วไม่ได้ล้าง พอตอนเช้ามันจะเป็นผื่นแดงๆ ขึ้น แบบที่เคยเป็น แล้วผมก็จะทายา มันก็ยุบหายไปครับ และเมื่อวาน ผมเลยมาสังเกตว่า มันมี ติ่งเล็กๆ เหมือนตุ่ม บริเวณ เส้นสองสลึงอะครับ ก็ตกใจ มันเป็นอะไรเนี่ย เลยไปหาหมอ อีกคนนึง ก็ ต้องให้เขาดู และก็เล่าเรื่องเดิมซ้ำอีกรอบ หมอก็บอกว่า หมอไม่เห็นผื่น หมอให้ยาไม่ได้ หมอให้แต่ยา รักษาหูด ไปนะ แล้วก็ให้ Aldara มาให้แต้มครับ
อยากจะถามเพื่อนๆว่า
1. หูดเขารักษากันยังไง คือที่ผมเป็นเนี่ยมันไม่มาก ( ถ้าไม่สังเกตุ ไม่เอามือสัมผัส ก็ไม่รู้ว่าเป็นตุ่ม แล้วถ้าหมอไม่บอกว่าคือหูดผมก็ไม่รู้)
2.ตามลักษณะอาการ ผมน่าจะเป็นอะไรกันแน่ คือ ผมไปหาหมอมาแล้วหลายครั้งมาก หมอก็ไม่สนใจคุยกับผมเลย คือจริงๆ แล้วผมอายมากที่จะต้องเล่าเรื่องราว และต้องให้หมอดูตั้งหลายคน แต่ก็ไม่เป็นผล นี่ก็ไม่มีที่พึ่ง เลยอยากฟังความเห็นจากเพื่อนๆ ครับ
รบกวนด้วยนะครับ