ช่อง3ยันไม่แบนละควร'เจนี่'
ช่อง3ยันไม่แบนละควร'เจนี่' เรื่องใหม่ฉาย 29 ส.ค. หลังควง'ชนม์สวัสดิ์'พบผู้บริหาร แม่เผย 'เอ๋' บุกของลูกสาวถึงบ้าน
              กลายเป็นข่าวที่คนค่อนประเทศให้ความสนใจ หลังจากดาราสาวชื่อดัง น.ส.เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ บุตรชายนายวัฒนา อัศวเหม อดีตนักการเมืองชื่อดังประกาศจดทะเบียนกันสายฟ้าแลบไปเมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่บ้านอัศวเหม จ.สมุทรปราการ ท่ามกลางข้อสงสัยมากมาย แม้ฝ่ายชายจะออกมายืนยันในความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้อยู่กินกับ นางนันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องเสียงคุณภาพ อดีตภรรยามากว่า 10 ปี และยังไม่เคยจดทะเบียนสมรสกัน แต่เรื่องดังกล่าวกลับไม่ง่ายดังที่คิด เพราะกระแสสังคมในทางลบตีกลับไปทางฝั่งนางเอกสาวชนิดตั้งตัวไม่ทัน

              ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม มีรายงานว่า น.ส.เจนี่ และนายชนม์สวัสดิ์ เดินทางเข้าพบ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่อาคารมาลีนนท์ ซึ่งเชื่อว่าการเดินทางมาในครั้งนี้เพราะต้องการชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ประกอบกับตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวออกมาว่า ทางช่อง 3 อาจจะแบนละครที่ น.ส.เจนี่ แสดง

              เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ได้โทรศัพท์สอบถามนายสมรักษ์ถึงการเข้าพบผู้บริหารช่อง 3 ของ น.ส.เจนี่ และนายชนสวัสดิ์ โดนนายสมรักษ์กล่าวว่า น.ส.เจนี่เข้ามาช่อง 3 เพื่อเอาดอกไม้มาสวัสดี และพาสามีมาทำความรู้จักกัน ส่วนเรื่องงานไม่ได้คุยกันสักเท่าใด เพราะตอนนี้ น.ส.เจนี่กำลังถ่ายละครเรื่องดาวเกี้ยวเดือนอยู่ ซึ่งขณะนี้เหลืออีก 4 คิว เรื่องนี้จะออกอากาศวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ทังนี้ยืนยันว่าทางช่องไม่ได้เลื่อนละครตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับทางช่อง 3 เพราะ น.ส.เจนี่ยังทำงานตามปกติเหมือนเดิม

              ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ น.ส.สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือ "เจ๊ฉอด" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย กรณีที่ น.ส.สายทิพย์ โพสต์ภาพคู่กับนางนันทิดา เพื่อนสนิท รวมถึงข้อความให้กำลังใจหลังจาก น.ส.เจนี่ ประกาศจดทะเบียนสมรสกับนายชนม์สวัสดิ์

              น.ส.สายทิพย์กล่าวว่า ส่วนตัวทำงานกับนางนันทิดามานาน และรักผู้หญิงคนนี้มาก ส่วนข้อความที่โพสต์ไป ไม่ได้มีเจตนาอะไรทั้งนั้น เพียงแค่อยากจะบอกให้รู้ว่า รักผู้หญิงคนนี้ แต่ยืนยันว่า ไม่คิดจะไปเชื่อมโยงกับข่าวของใคร ส่วนนางนันทิดาตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะอีกฝ่ายอยู่ต่างประเทศ โดยพูดคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้วในงานคอนเสิร์ต เจนนิเฟอร์ คิ้ม

              เกี่ยวกับการแถลงข่าวการจดทะเบียนสมรสอย่างสายฟ้าแลบของนายชนม์สวัสดิ์ และน.ส.เจนี่ ขณะนี้ยังไม่พบว่า มีปฏิกิริยา หรือความคิดเห็นใดๆ ออกมาจากฝั่งของนางนันทิดา และ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม หรือ "น้องเพลง" บุตรสาวแต่อย่างใด เบื้องต้นทราบว่า นางนันทิดา และ น.ส.ชนม์ทิดา จะเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกาในวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคมนี้  แต่เมื่อผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" สอบถามไปยังคนใกล้ชิดของนางนันทิดากลับปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวโดยอ้างว่า แผนการกลับมาเมืองไทยของนางนันทิดาอาจเปลี่ยนแปลง

              ขณะเดียวกัน เมื่อข้ามมาทางฝั่งครอบครัวของดาราสาวชื่อดังในเรื่องราวความรักของ น.ส.เจนี่ และนายชนม์สวัสดิ์นั้น วันเดียวกัน นางชไมพร เทียนโพธิ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์กรณีลูกสาวประกาศจดทะเบียนสมรสกับนายชนม์สวัสดิ์ว่า ก่อนหน้านี้เคยถามลูกว่า กำลังคบหาดูใจกับใครอยู่หรือเปล่า ลูกสาวยอมรับว่า มีคนดูๆ อยู่ แต่ยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผย กระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมาลูกสาวพานายชนม์สวัสดิ์มาพบ โดยฝ่ายชายรีบปรี่เข้ามากราบที่ตัก และสู่ขอลูกสาวแต่งงาน พร้อมบอกว่าจะดูแลให้ดีที่สุด

              "ตอนนั้นได้สอบถามลูกสาวถึงความไปมาเป็นไป เมื่อเห็นว่า ทั้งคู่รักกันจริง จึงอนุญาต เพราะเห็นแก่ความสุขของลูก รวมถึงเคารพการตัดสินใจของลูก เชื่อใจว่า คิดและตัดสินใจดีแล้ว ส่วนตัวรู้สึกตื้นตันใจที่เห็นลูกสาวมีความสุข และขออวยพรให้ทั้งสองมีชีวิตคู่ที่ราบรื่นและมีความสุข" นางชไมพร กล่าว

              ด้านความคิดเห็นในโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความรักของดาราสาว และบุตรชายอดีตนักการเมืองคนดังพบว่า ขณะนี้กระแสในโซเชียลมีเดียยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้มาแสดงความคิดเห็น ทั้งให้กำลังใจนางเอกสาว ควบคู่กับกระแสในด้านลบอย่างหนักหน่วง โดยมีบุคคลทั้งในและนอกวงการ เช่น พจน์ อานนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังโพสต์ภาพด้วยการทำท่าไอเลิฟยู (ท่าเดียวกับที่เจนี่เคยทำในสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นคอนโดหรูใจกลางเมืองของนายชนม์สวัสดิ์) พร้อมกับข้อความว่า "ทำท่านี้ก่อนนอนเผื่อตื่นขึ้นมาจะได้มีเงิน 150 ล้านกับเขาบ้าง สาธุ"

              ส่วนเว็บไซต์ชื่อดังอย่างพันทิป ในห้องเฉลิมไทย ต่างมีกระทู้เกี่ยวข้องกับนางเอกสาวมากมาย เช่น กระทู้ที่ตั้งชื่อว่า "ผิด หรือ ถูก เรื่องเจนี่ อยู่ที่ปากคำจากคุณนันทิดาเท่านั้น" นอกจากนี้ยังมีกระทู้ที่ทำขึ้นเป็นการรวบรวมคลิปรวมคำสัมภาษณ์เจนี่ก่อนวันแถลงข่าวมาให้เหล่าสมาชิกเฉลิมไทยได้ชมกัน เพื่อเป็นการทบทวนความทรงจำอีกด้วย ต่อด้วยกระทู้ที่ใช้ชื่อว่า ทำไมต้องด่าภรรยาอย่างเจนี่ ที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยคะ หรือแม้แต่กระทู้ที่ขึ้นว่า จับผิดเจนี่

              ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก มีการแสดงความคิดเห็นมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการทำภาพล้อเลียน รวมถึงคำพูดต่างๆ และบางคำพูดในละครเรื่อง "แรงเงา" ที่นางเอกสาวเคยแสดง และยังมีการนำเพลง "เต็มใจจะสูญเสีย" ของนันทิดาขึ้นมาโพสต์ พร้อมนำภาพของนางนันทิดาด้วยการโค้ดข้อความจากบทสัมภาษณ์ของนางนันทิดาว่า "มันเป็นความเข้าใจที่ต้องทำความเข้าใจ ซึ่งความรู้สึกที่มีอยู่ตลอดเวลา นี่คือคนที่เรารัก ถ้าพี่เลือกที่จะเลิก ไม่ต้องมีข่าวหรือมีอะไรหรอก แค่เรื่องนิดเดียวมันก็แตกแล้ว พี่รักสามีพี่ทุกอย่าง แค่นี้ก็พอแล้ว" ซึ่งมีคนเข้ามากดไลค์มากมาย

              จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย นางเอกสาวถึงขั้นลบรูปในอินสตาแกรมของตนเองทั้งหมดออก และปิดอินสตาแกรมไปเลย เพราะมีคนเข้ามาโพสต์ข้อความด้วยถ้อยคำที่รุนแรง แต่ล่าสุดก็มีคนตั้งอินสตาแกรมขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า janiethien และเขียนบรรยายข้อมูลประวัติเอาไว้ว่า JANIE THIENEPOSUWAN “I’m Janie Thieneposuwan Asavahem my Instagram of private sorry fanclub and my friend” อินสตาแกรมนี้ถูกโพสต์ไม่นานก็ถูกลบออกไป โดยชาวโซเชียลมีเดียเชื่อว่าอินสตาแกรมถูกทำขึ้นมา ไม่ได้เป็นของนางเอกสาวจริงๆ แต่หลังจากอินสตาแกรมนี้ถูกลบไม่นานก็มีคนสร้างอินสตาแกรมขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่ออินสตาแกรมว่า JANIEASAVAHAME โดยโพสต์รูปคู่แรก คือรูปคู่กับเพื่อนสนิท นานา ไรบีนา พร้อมข้อความว่า Thx Ja โดยอินสตาแกรมดังกล่าวยังไม่ถูกยืนยันว่าเป็นของนางเอกสาวจริง

http://www.komchadluek.net/detail/20130810/165510/%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%873%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3'%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88'.html#.UgWYBtLwlT8

ปล.  ม่ายนะ  อยากดูทองเนื้อเก้า  จะสิบเดือนแล้วนะ