ก่อนอ่านบทร้อยกรองต่อจากนี้ เจ้าของกระทู้ขอบอกเจตนารมย์ในการ แต่ง "ลับแล ล่องฝัน" ให้ท่านผู้อ่านได้ทราบ
ถึง เหตุแห่ง การแต่งบทนี้ ก่อนค่ะ
** บทนี้ เป็นการ เลียน บทพรรณา ในงานร้อยกรอง ของมิตร ท่านหนึ่ง(ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามและที่มา แต่ได้รับอนุญาตแล้ว)
เนื่องจาก ความคิด ต้องการฝึกฝนการใช้ ศิลป พรรณา หนึ่งอารมณ์ในมนุษย์ปุถุชน ออกมาเป็น ภาษาร้อยกรอง เท่านั้น
** หากกระทู้นี้ ขัดจริต ของมิตร ผู้อ่านท่านใด เจ้าของกระทู้ ขอถือโอกาส ขออภัย ไว้ ณ ที่นี้
** กระทู้นี้ ผู้แต่ง จะไม่ขอตอบ ท่านใดท่านหนึ่งเป็นการส่วนตัว ขอตอบโดยภาพรวมค่ะ
** ขอความกรุณา ท่านผู้อ่าน โปรดเข้าใจเจตนาของ เจ้าของกระทู้ ตามที่ได้อธิบายมาข้างต้นด้วย
ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ
...................................................................................................................................................................................
รัญจวนอวลกลิ่นเย้า...............ปรางหอม
จรุงรื่นยากขืนออม.................จิตห้าม
ดื่มด่ำลอบดมดอม.................คราชิด นวลเอย
ยามนิทราคนึงข้าม.................แห่งห้วงตวงฝัน
รัญจวนนวลนุชนาถ...............ระเรื่อฝาดพิลาศปราง
เคียงชิดสนิทนาง...................พร่างระเหยรำเพยพา
ฤทัยไหวสะท้าน....................กรุ่นนงคราญซ่านสเน่หา
ลอบดอมย้อมจินตนา..............สลักทรวงหน่วงอารมณ์
ยวนเย้าเร้าระเริง.....................เตลิดเปิงเหลิงราคห่ม
ละมุนละไมพรม.....................โหมรุกโรมระรานรอน
ตวงออมหอมกลิ่นปรุง..............ลอยรอบคลุ้งเคียงสมร
วอนลมมิขาดตอน...................ซอนกำซาบอาบใจตรึง
เคล้าคลอพะนอชื่น..................หมายรสรื่นฝืนใจจึง
เกรงกรายกล้ำเกินพึง................เพียงผะแผ่วสัมผัสนวล
ประทินรินกำจาย......................พริ้มหลับสายเนตรครางครวญ
สุดห้ามหักใจป่วน......................รวนกระเส่าแทรกกระสัน
ฤดีระอุอุ่น...............................ร้อนรุ่มรุนแรงโรมรัน
สูดอวลยวนย้อมฝัน...................สรรใดเจ้าเร้ารำจวน
พิศผาดพักตร์หยาดหวาน.............รสน้ำตาลฤาคู่ควร
พจมานขานไขถ้วน.....................ล้วนมิเทียบเปรียบเยาวมาลย์
เนตรนางดั่งกวางน้อย..................ปรายชะม้อยชะม้ายผ่าน
พริบปริบวิบสะท้าน......................พาลหวังเจ้าเฝ้ากวักไกว
ขวยเขินสะเทิ้นชาย......................แสร้งเอียงอายฤาหมายใส่
สเน่ห์เล่ห์เติมใน...........................ต้องทุรายรวนทุรน
เด่นโด่งโค้งนาสา..........................ยามทัศนารับหน้ามน
ปีกบางช่างเหมาะดล.......................ค้นยามโบมโลมชมนาง
เชิดพักตร์เผยอหน้า...........................ลมปราณพาสั่นสรรพางค์
คราวคร่ำคำครวญคราง.......................คงปริ่มร่ำบำเรอรมย์
โอฐษ์สรวลช่างยวนเย้า........................อิ่มเสลาชวนเคล้าชม
ถวิลจินต์เพลินสม...............................พรมแนบอุ่นละมุนบน
บดเบียดเลียดชิวหา..............................ลิ้มรสารื่นกมล
ดุจดื่มทิพย์สุคนธ์................................จากกลีบชุ่มนุ่มมาลี
สลวยเรียบลื่นหอม...............................เกศาย้อมขลับสันสี
ไล้ลูบวูบฤดี........................................พี่ลอยล่องต้องมนตรา
เลื่อนล่วงเกินหน่วงยั้ง...........................กระซิบสั่งข้างกรรณา
โหยแผ่วเพียงแว่วหา.............................สำเนียงลอดพรอดรำพัน
ลักลอบมอบจุมพิต...............................ผากประชิดละเลยผัน
ผ่านอ้อมล้อมคางครัน...........................ฝันศอไซร้ไหลภิรมย์
เรือนร่างบางระหง.................................บุญอนงค์ส่งงามสม
อรชรโค้งงอนกลม................................ซมซ่านซาบอาบจินตนา
วงกรแม้นช้อนกอด...............................สนิทสอดลอดกายา
เร้าแรงปรารถนา..................................คงจิกย้ำซ้าหลังรอย
ละออละเอียดอ่อน...............................นวลเนียนซ่อนซอนน่องน้อย
ลูบไล้จำใจถอย...................................เกรงคล้อยเพลินล่วงเนินเผลอ
สองเท้าขาวบอบบาง............................นวดเฟ้นอย่างถนอมเธอ
คืนคอยชะรอยเพ้อ..............................ขอเปรอปรนจนคล้อยจันทร์
ทอดกายนัยน์ปรือพริ้ม..........................นุ่มนอนนิ่มพิมพ์ภาพฝัน
สัมผัสรัดรึงรัน.....................................โลมเล้าร่างสอางค์องค์
เลื่อนริ้วชิวหาล่อง................................เสนอสนองปองประสงค์
พรมไล้ละเลียดลง................................ทุกตารางร่างนวลใย
ลิ้มจรดรสกามา...................................ขุมโลมาวาบโชนไหว
สั่นหวิวสยิวใจ.....................................เร่งระรัวเริงละเลง
ยอดชูคู่ปทุม.......................................ยวบหยุ่นพุ่มเพลินบรรเลง
ละลานผลิบานเบ่ง................................ระริกล่อล้อเล่นลม
เรื่อยลิ่วพริ้วระริก..................................สลับพลิกผสานผสม
ดูดดื่มดำดิ่งจม....................................ห้วงสุขสันต์สวรรค์รอ
ล้นหลั่งพิรุณปราย................................ยะเยือกกายเกินกลั้นพอ
ครางครวญรัญจวนคลอ.........................กระเส่าคำซ้ำซ้ำเครือ
ราตรีคลี่สิตางศุ์...................................เยือนนภางค์ยังพร่างเผื่อ
ก่อนรุ่งอรุณเรื่อ...................................ขอร่ายรำรตีทวน
นิทราพาล่องแคว้น.....................ฉิมพลี
สมสุขเปรมฤดี...........................นิมิตรสร้าง
เตลิดเพลิดกายี..........................รุกเร่ง องค์เอย
ล่วงสู่วิมานสล้าง........................จวบเช้าเฝ้าทวน
..... ลับแล ล่องฝัน...( 18+)
ถึง เหตุแห่ง การแต่งบทนี้ ก่อนค่ะ
** บทนี้ เป็นการ เลียน บทพรรณา ในงานร้อยกรอง ของมิตร ท่านหนึ่ง(ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามและที่มา แต่ได้รับอนุญาตแล้ว)
เนื่องจาก ความคิด ต้องการฝึกฝนการใช้ ศิลป พรรณา หนึ่งอารมณ์ในมนุษย์ปุถุชน ออกมาเป็น ภาษาร้อยกรอง เท่านั้น
** หากกระทู้นี้ ขัดจริต ของมิตร ผู้อ่านท่านใด เจ้าของกระทู้ ขอถือโอกาส ขออภัย ไว้ ณ ที่นี้
** กระทู้นี้ ผู้แต่ง จะไม่ขอตอบ ท่านใดท่านหนึ่งเป็นการส่วนตัว ขอตอบโดยภาพรวมค่ะ
** ขอความกรุณา ท่านผู้อ่าน โปรดเข้าใจเจตนาของ เจ้าของกระทู้ ตามที่ได้อธิบายมาข้างต้นด้วย
ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ
...................................................................................................................................................................................
รัญจวนอวลกลิ่นเย้า...............ปรางหอม
จรุงรื่นยากขืนออม.................จิตห้าม
ดื่มด่ำลอบดมดอม.................คราชิด นวลเอย
ยามนิทราคนึงข้าม.................แห่งห้วงตวงฝัน
รัญจวนนวลนุชนาถ...............ระเรื่อฝาดพิลาศปราง
เคียงชิดสนิทนาง...................พร่างระเหยรำเพยพา
ฤทัยไหวสะท้าน....................กรุ่นนงคราญซ่านสเน่หา
ลอบดอมย้อมจินตนา..............สลักทรวงหน่วงอารมณ์
ยวนเย้าเร้าระเริง.....................เตลิดเปิงเหลิงราคห่ม
ละมุนละไมพรม.....................โหมรุกโรมระรานรอน
ตวงออมหอมกลิ่นปรุง..............ลอยรอบคลุ้งเคียงสมร
วอนลมมิขาดตอน...................ซอนกำซาบอาบใจตรึง
เคล้าคลอพะนอชื่น..................หมายรสรื่นฝืนใจจึง
เกรงกรายกล้ำเกินพึง................เพียงผะแผ่วสัมผัสนวล
ประทินรินกำจาย......................พริ้มหลับสายเนตรครางครวญ
สุดห้ามหักใจป่วน......................รวนกระเส่าแทรกกระสัน
ฤดีระอุอุ่น...............................ร้อนรุ่มรุนแรงโรมรัน
สูดอวลยวนย้อมฝัน...................สรรใดเจ้าเร้ารำจวน
พิศผาดพักตร์หยาดหวาน.............รสน้ำตาลฤาคู่ควร
พจมานขานไขถ้วน.....................ล้วนมิเทียบเปรียบเยาวมาลย์
เนตรนางดั่งกวางน้อย..................ปรายชะม้อยชะม้ายผ่าน
พริบปริบวิบสะท้าน......................พาลหวังเจ้าเฝ้ากวักไกว
ขวยเขินสะเทิ้นชาย......................แสร้งเอียงอายฤาหมายใส่
สเน่ห์เล่ห์เติมใน...........................ต้องทุรายรวนทุรน
เด่นโด่งโค้งนาสา..........................ยามทัศนารับหน้ามน
ปีกบางช่างเหมาะดล.......................ค้นยามโบมโลมชมนาง
เชิดพักตร์เผยอหน้า...........................ลมปราณพาสั่นสรรพางค์
คราวคร่ำคำครวญคราง.......................คงปริ่มร่ำบำเรอรมย์
โอฐษ์สรวลช่างยวนเย้า........................อิ่มเสลาชวนเคล้าชม
ถวิลจินต์เพลินสม...............................พรมแนบอุ่นละมุนบน
บดเบียดเลียดชิวหา..............................ลิ้มรสารื่นกมล
ดุจดื่มทิพย์สุคนธ์................................จากกลีบชุ่มนุ่มมาลี
สลวยเรียบลื่นหอม...............................เกศาย้อมขลับสันสี
ไล้ลูบวูบฤดี........................................พี่ลอยล่องต้องมนตรา
เลื่อนล่วงเกินหน่วงยั้ง...........................กระซิบสั่งข้างกรรณา
โหยแผ่วเพียงแว่วหา.............................สำเนียงลอดพรอดรำพัน
ลักลอบมอบจุมพิต...............................ผากประชิดละเลยผัน
ผ่านอ้อมล้อมคางครัน...........................ฝันศอไซร้ไหลภิรมย์
เรือนร่างบางระหง.................................บุญอนงค์ส่งงามสม
อรชรโค้งงอนกลม................................ซมซ่านซาบอาบจินตนา
วงกรแม้นช้อนกอด...............................สนิทสอดลอดกายา
เร้าแรงปรารถนา..................................คงจิกย้ำซ้าหลังรอย
ละออละเอียดอ่อน...............................นวลเนียนซ่อนซอนน่องน้อย
ลูบไล้จำใจถอย...................................เกรงคล้อยเพลินล่วงเนินเผลอ
สองเท้าขาวบอบบาง............................นวดเฟ้นอย่างถนอมเธอ
คืนคอยชะรอยเพ้อ..............................ขอเปรอปรนจนคล้อยจันทร์
ทอดกายนัยน์ปรือพริ้ม..........................นุ่มนอนนิ่มพิมพ์ภาพฝัน
สัมผัสรัดรึงรัน.....................................โลมเล้าร่างสอางค์องค์
เลื่อนริ้วชิวหาล่อง................................เสนอสนองปองประสงค์
พรมไล้ละเลียดลง................................ทุกตารางร่างนวลใย
ลิ้มจรดรสกามา...................................ขุมโลมาวาบโชนไหว
สั่นหวิวสยิวใจ.....................................เร่งระรัวเริงละเลง
ยอดชูคู่ปทุม.......................................ยวบหยุ่นพุ่มเพลินบรรเลง
ละลานผลิบานเบ่ง................................ระริกล่อล้อเล่นลม
เรื่อยลิ่วพริ้วระริก..................................สลับพลิกผสานผสม
ดูดดื่มดำดิ่งจม....................................ห้วงสุขสันต์สวรรค์รอ
ล้นหลั่งพิรุณปราย................................ยะเยือกกายเกินกลั้นพอ
ครางครวญรัญจวนคลอ.........................กระเส่าคำซ้ำซ้ำเครือ
ราตรีคลี่สิตางศุ์...................................เยือนนภางค์ยังพร่างเผื่อ
ก่อนรุ่งอรุณเรื่อ...................................ขอร่ายรำรตีทวน
นิทราพาล่องแคว้น.....................ฉิมพลี
สมสุขเปรมฤดี...........................นิมิตรสร้าง
เตลิดเพลิดกายี..........................รุกเร่ง องค์เอย
ล่วงสู่วิมานสล้าง........................จวบเช้าเฝ้าทวน