สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าคิดแบบนี้ หา รร.เอกชน หรือ รร.สังกัด กทม.ที่ไม่ต้องสอบไปเลยดีไหมครับ
ผมเจอกระทู้ดูน่าสนใจ พอเข้ามาอ่านตกใจว่า จขกท.อ่านความเห็นเพียงไม่กี่ความเห็นก็สรุปว่า ถ้าอย่างงั่นมี รร.ไหนดีอีกบ้าง
อ่านแล้วงง ครับ เพราะกระทู้ดูเหมือน จขกท.มีความมุ่งมั่นที่จะส่งลูกเข้ามาแตร์ ที่จัดว่าเป็น รร.เอกชนอันดับต้นๆ ซึ่งก็เป็นที่ทราบดีว่า ระบบการคัดเลือกเขาก็ไม่ได้แตกต่างจาก รร.เอกชนทั่วไป ที่แบ่งโควต้านักเรียนออกเป็นส่วนๆ ทั้ง ศิษย์เก่า ผู้นับถือศาสนาคริสต์ ผู้มีญาติพี่น้องเรียนอยู่ และบุคคลทั่วไป ไม่อย่างงั่นแทบทุก รร.จะมีสมาคมศิษย์เก่าไว้ทำอะไรละครับ
แม้แต่สาธิตจุฬา ก็แบ่งโควต้าเหมือนกัน แต่เป็นของ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ของ รร. และผู้มีอุปการะคุณ
แต่เรื่องนี้ผมไม่อยากให้มองภาพว่า รร.ดัง จ้องเอาแต่เงินนะครับ เพราะถ้าระบบการศึกษาไม่มีเงินพวกนี้ รับรองอุปกรณ์การเรียนการสอน มีไม่พอ หรืออาจตกรุ่นไปหลายสิบปี แถมยังมีปัญหาอีกหลายด้านที่จำเป็นต้องดูแลเด็กให้ดี ทั้งอาหารการกิน ทั้งด้านสถานที่ และอื่นๆ การดำเนินงานของ รร.รัฐและเอกชน มีงบประมาณจำกัดมาก จนเดี๋ยวนี้เห็น รร.ดังหลายแห่ง เลิกกิจการไป เพราะไปทำอย่างอื่นรวยกว่า
เมื่อมันเป็นแบบนี้ ถ้า จขกท.ต้องการให้ลูกเข้า รร.ดังๆ รร.ที่มีมาตรฐานสักหน่อย ที่พอส่งลูกแล้ว สบายใจไปทำงานอย่างอื่นได้ ไม่ต้องมานั่งกังวลให้มาก ก็มีสองทางละครับ ทางแรกเตรียมลูกให้พร้อม เพราะไม่ว่าเข้ารร.ไหน เขาก็ต้องสอบกันทั้งนั้น ถ้าสอบคะแนนถึง เข้าได้โดยไม่ต้องเสียเงิน เขาไม่ได้ปิดโอกาสเด็กนิครับ เพียงแต่การเตรียมลูกให้พร้อมควรเตรียมสัก 2 ปีขึ้นไป คือ จขกท.ต้องมีความมุ่งมั่น ไม่ใช่แค่เดือนหน้าจะสอบแล้วไปหาข้อสอบเก่ามาทำ อย่างงี้เขาไม่ได้ว่าเตรียม เขาเรียกว่าให้ลูกไปเสี่ยงดวง ส่วนที่ว่า ต้องเตรียมอย่างไร ก็ไม่ยาก จขกท. ไม่ต้องส่งไปเรียนที่ไหน มีเวลาก็นั่งเรียนๆ เล่นๆ กับเขาไปก็ได้ ถ้าไม่รู้แนวทางการสอน ก็ลองหาใน google ดูมีให้เลือกเยอะ แต่ถ้าบอกว่า ไม่เอาขี้เกียจสอน แล้วเห็นว่าการช่วย รร.เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ก็มี รร.รัฐและเอกชนที่พร้อมจะรับแบบไม่ต้องสอบให้เลือกอีก มันจึงขึ้นอยู่กับ จขกท. เท่านั้นแหละครับว่ามุ่งมั่นที่จะสอบเข้า รร.ที่ตั้งใจไว้มากน้องเพียงใด ไม่ใช่อยู่ที่ว่า รร.นั้นเขามีการจัดแบบโควต้ารับเด็กอย่างไร หวังว่าพอเข้าใจนะครับ
ผมเจอกระทู้ดูน่าสนใจ พอเข้ามาอ่านตกใจว่า จขกท.อ่านความเห็นเพียงไม่กี่ความเห็นก็สรุปว่า ถ้าอย่างงั่นมี รร.ไหนดีอีกบ้าง
อ่านแล้วงง ครับ เพราะกระทู้ดูเหมือน จขกท.มีความมุ่งมั่นที่จะส่งลูกเข้ามาแตร์ ที่จัดว่าเป็น รร.เอกชนอันดับต้นๆ ซึ่งก็เป็นที่ทราบดีว่า ระบบการคัดเลือกเขาก็ไม่ได้แตกต่างจาก รร.เอกชนทั่วไป ที่แบ่งโควต้านักเรียนออกเป็นส่วนๆ ทั้ง ศิษย์เก่า ผู้นับถือศาสนาคริสต์ ผู้มีญาติพี่น้องเรียนอยู่ และบุคคลทั่วไป ไม่อย่างงั่นแทบทุก รร.จะมีสมาคมศิษย์เก่าไว้ทำอะไรละครับ
แม้แต่สาธิตจุฬา ก็แบ่งโควต้าเหมือนกัน แต่เป็นของ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ของ รร. และผู้มีอุปการะคุณ
แต่เรื่องนี้ผมไม่อยากให้มองภาพว่า รร.ดัง จ้องเอาแต่เงินนะครับ เพราะถ้าระบบการศึกษาไม่มีเงินพวกนี้ รับรองอุปกรณ์การเรียนการสอน มีไม่พอ หรืออาจตกรุ่นไปหลายสิบปี แถมยังมีปัญหาอีกหลายด้านที่จำเป็นต้องดูแลเด็กให้ดี ทั้งอาหารการกิน ทั้งด้านสถานที่ และอื่นๆ การดำเนินงานของ รร.รัฐและเอกชน มีงบประมาณจำกัดมาก จนเดี๋ยวนี้เห็น รร.ดังหลายแห่ง เลิกกิจการไป เพราะไปทำอย่างอื่นรวยกว่า
เมื่อมันเป็นแบบนี้ ถ้า จขกท.ต้องการให้ลูกเข้า รร.ดังๆ รร.ที่มีมาตรฐานสักหน่อย ที่พอส่งลูกแล้ว สบายใจไปทำงานอย่างอื่นได้ ไม่ต้องมานั่งกังวลให้มาก ก็มีสองทางละครับ ทางแรกเตรียมลูกให้พร้อม เพราะไม่ว่าเข้ารร.ไหน เขาก็ต้องสอบกันทั้งนั้น ถ้าสอบคะแนนถึง เข้าได้โดยไม่ต้องเสียเงิน เขาไม่ได้ปิดโอกาสเด็กนิครับ เพียงแต่การเตรียมลูกให้พร้อมควรเตรียมสัก 2 ปีขึ้นไป คือ จขกท.ต้องมีความมุ่งมั่น ไม่ใช่แค่เดือนหน้าจะสอบแล้วไปหาข้อสอบเก่ามาทำ อย่างงี้เขาไม่ได้ว่าเตรียม เขาเรียกว่าให้ลูกไปเสี่ยงดวง ส่วนที่ว่า ต้องเตรียมอย่างไร ก็ไม่ยาก จขกท. ไม่ต้องส่งไปเรียนที่ไหน มีเวลาก็นั่งเรียนๆ เล่นๆ กับเขาไปก็ได้ ถ้าไม่รู้แนวทางการสอน ก็ลองหาใน google ดูมีให้เลือกเยอะ แต่ถ้าบอกว่า ไม่เอาขี้เกียจสอน แล้วเห็นว่าการช่วย รร.เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ก็มี รร.รัฐและเอกชนที่พร้อมจะรับแบบไม่ต้องสอบให้เลือกอีก มันจึงขึ้นอยู่กับ จขกท. เท่านั้นแหละครับว่ามุ่งมั่นที่จะสอบเข้า รร.ที่ตั้งใจไว้มากน้องเพียงใด ไม่ใช่อยู่ที่ว่า รร.นั้นเขามีการจัดแบบโควต้ารับเด็กอย่างไร หวังว่าพอเข้าใจนะครับ
แสดงความคิดเห็น
ถามเรื่องการเข้าเรียนที่ ร.ร.มาแตร์เดอีวิทยาลัย
ปล. พ่อแม่พื้นฐานภาษาอังกฤษอ่อนมากค่ะ แต่ก็พอจะส่งลูกเรียนไหวคะ