เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นของหนึ่งในนิสิตทุนโครงการจุฬาฯ-ชนบท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เผยแพร่โดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชมรมจุฬาฯ-ชนบท
ที่มา :
http://on.fb.me/132bmZ3
ถาม : แนะนำตัวหน่อย
ตอบ : ชื่อ จงกลณี ดีไร่ ชื่อเล่น จุ๋ม พื้นเพเป็นคนอุดรธานี พ่อเป็น ตชด. แม่ทำร้านอาหาร อยู่กับปู่ย่าและป้ามาตั้งแต่เด็ก จบ ม.ต้น ที่โรงเรียนกุมภวาปี ไปต่อ ม.ปลาย ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) สายศิลป์คำนวณ (อังกฤษ-คณิตศาสตร์) จบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์พัฒนาการ ได้รับทุนจุฬาฯ-ชนบท รุ่นที่ 19 จบปริญญาโทคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประสบการณ์ทำงาน มี.ค.- พ.ค.2547 ช่วยงานอาจารย์ทำวิจัย ตอนเย็นไปรับจ้างเสิร์ฟอาหารที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มิ.ย.2547-มิ.ย.2554 เป็นเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ที่ธนาคารกรุงเทพ จากนั้น ก.ค.2554-เม.ย.2556 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ธนาคารเดียวกัน
ถาม : ทราบว่าเคยออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างประเทศมาแล้ว ไปที่ไหน
ตอบ : มี.ค.-มิ.ย.2552 ไปทำงานโครงการ Work&Travel ที่ KFC เมือง Easton รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ถาม : จุดเริ่มต้นที่คิดว่าต้องออกเดินทางหาประสบการณ์คืออะไร
ตอบ : ต้องการเอาชนะความกลัวของตัวเอง เพราะเป็นคนขี้กลัวมาก กลัวคนแปลกหน้า กลัวอยู่คนเดียว กลัวความเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญกลัวภาษาอังกฤษ
สมัยเรียนจุฬาฯ เพื่อนเล่าประสบการณ์ที่ไป Work&Travel ให้ฟัง มันส์มาก อินมาก อยากไปบ้าง แต่ไม่มีตังค์ จนลืมไปแล้วนะ จนกระทั่งตอนเรียน ป.โท ที่ธรรมศาสตร์ อายุ 28 ปี แล้ว ตอนนั้นเหลือทำ Thesis อย่างเดียว เห็นประกาศรับสมัครไป Work&Travel ก็อยากไป เป็นปีสุดท้ายที่ไปได้ ไม่งั้นอายุเกิน อยากรู้ว่าถ้าเราสื่อสารไม่ได้เลยจะเอาตัวรอดไหม แม่ก็อยากให้ไป ตังค์ไม่มีก็ต้องหา เอาวะลองดูสักตั้ง จำได้ว่าวันแรกที่ไปถึง สั่งอาหารไม่เป็น พูดได้แต่ Hungry แล้วก็ยิ้ม เขาไม่รู้จะทำไงเลยให้กินฟรี
ถาม : ผ่านพ้นวันนั้นไป ภาษาอังกฤษคงดีขึ้น ?
ตอบ : อยู่ที่ USA หวังว่าจะได้ใช้ภาษาแต่ก็ไม่ได้อย่างใจหวังด้วยความที่ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูเลย งานที่ทำก็อยู่แต่หลังร้านล้วน ๆ ทั้งล้างจาน ถูพื้น ล้างห้องน้ำ เก็บขยะ เตรียมของให้กุ๊ก เล็กๆ น้อยๆ เขาจะให้รับ Order ก็ฟังไม่ออก แรก ๆ เขาก็อธิบายนะ หลัง ๆ ทำให้ดูเลย ดังนั้น ภาษาอังกฤษที่ได้จาก KFC จึงมีแต่ Hot Tray ๆๆ กับ I will show you ยังสับสนระหว่าง Tomato กับ Potato แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ได้เพื่อนทั้งคนไทยทั้งฝรั่ง คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ได้เห็นการทำงานของคนที่นี่ที่เน้นเรื่องเวลาและมีวินัยมาก ๆ แต่เขาก็ขาดน้ำใจ พอเรามาเติมเต็ม ทำงานเต็มที่ มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน เขาก็รักเรา วันที่จะเดินทางกลับไทย ผู้จัดการจัดงานเลี้ยงให้แล้วมาส่งถึง New York ซึ้งมาก เขาคาดไม่ถึงว่าเห็นเราตัวเล็กๆ จะทำงานได้ถึกขนาดนี้ (สมัยนั้นมีฝรั่งมาชอบด้วยนะ แต่คุยไม่รู้เรื่องเลยต้องเลิกไป) ทำงานอยู่ 3 เดือน กำลังปรับตัวได้ เริ่มจะคุยรู้เรื่อง ก็ต้องกลับเมืองไทยแล้ว พอกลับมาไม่ได้ใช้ก็ลืมหมด
ถาม : ประสบการณ์เยอะจัง มีอีกมั้ย ?
ตอบ : มี อยากจะเล่าตอนไปเที่ยววอชิงตันคนเดียว กะจะไปทำวีซ่าเพื่อไปหาเพื่อนที่อังกฤษ เพราะขากลับต้องไปต่อเครื่องที่ลอนดอนอยู่แล้ว กะแวะเที่ยวอาทิตย์นึง ก็ออกเดินทางจากเมือง Easton ไปจนถึงสถานทูตที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่ถามว่ามาทำไม ทำวีซ่าออนไลน์ที่บ้านก็ได้ อ้าว! ก็ไม่รู้ พอลองทำรายการต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ตายล่ะ! อ่านไม่ออก เขาให้เลือก Tourist กับ Visitor Student เราคิดว่าเราไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียว เราไปเยี่ยมเพื่อนเราที่เป็นนักเรียน เลยเลือก Visitor Student พอกรอกไปเรื่อยๆ เอ้า! ระบบดันขอหลักฐานการเรียน ซึ่งเราไม่มี จะย้อนไปทำใหม่ก็ไม่ได้ สรุปคือ อดไปลอนดอน
พอทำวีซ่าไม่ได้ จะไปขึ้นรถบัสกลับ ปรากฎว่ารถออกตรงเวลามาก ช้าไป 5 นาที รถไม่รอเลย วิ่งตามก็ไม่ทัน ไม่ได้เตรียมตัวจะค้างคืนด้วยสิ รถก็หมด เคว้งมาก จะหาโรงแรมที่ไหนเนี่ย จะถามใคร ถามยังไง เดินวนจนเริ่มมืด โชคดีที่เพื่อนที่อังกฤษโทรหา เลยได้เบอร์โทรของวัดไทยในวอชิงตัน โชคดีที่ติดต่อวัดไทยได้ แต่โชคร้ายที่วัดมีงานประชุมสงฆ์ ไม่สะดวกรับแขกผู้หญิง แต่พอได้คุยกับหลวงพี่แล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ก็เลยลองถามว่าจะพักที่ไหนได้บ้าง แล้วสำเนียงหลวงพี่คุ้นหูมาก คนอีสานแน่นอน เลย “เว้าลาว” ทันที ได้ผลแฮะ ท่านเลยวานอุบาสิกาที่วัดให้ค้างเป็นเพื่อน โชคดีจริง ๆ ที่ได้ภาษาอีสานช่วยชีวิต (เห็นไหมว่าบางครั้งภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป) จากนั้นท่านก็บอกทางไปที่วัด โดยให้นั่งรถไฟฟ้าแล้วต่อรถเมล์ แต่พอขึ้นรถเมล์ จะลงที่ไหน ยังไง เพราะมองไปสองข้างทางมีแต่ความมืด และแล้วโชคดีสุดท้ายของวันก็มาถึง เจอพระบนรถเมล์ซึ่งท่านกำลังจะไปวัดนี้พอดี รอดมาได้อย่างหวุดหวิดจริง ๆ
ถาม : พื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษสมัยเรียนเป็นอย่างไร
ตอบ : เจอมาขนาดนี้ยังจะถามอีกหรอ...แต่บอกได้เลยว่า "ห่วยมาก" แต่อาศัยว่าเราเก่งเลขไง ตอนสอบนะ เคยตกลงกับเพื่อนที่เก่งอังกฤษว่าเราจะแบ่งงานกันทำตามความถนัด เราเก่งเลขก็ทำเลข เสร็จแล้วก็ให้เพื่อนลอก พอมาถึงวิชาภาษาอังกฤษเราก็ลอกเพื่อน แต่ครูดันมาจับได้ จับติด i ทั้งคู่ แล้วให้สอบใหม่ ปรากฏว่าเพื่อนได้ 4 เราได้ 1 ช้ำมาก หลังจากนั้นก็เลิกทุจริตในการสอบทุกชนิด
พอเข้ามาเรียนจุฬาฯ วิชาภาษาอังกฤษ หมา (D) กับแมว (C) มากันเต็มเลย จำได้ว่าวิชา Tech Eng สอบเกี่ยวกับเศรษฐกิจอเมริกาในช่วง Black Monday อาจารย์ให้ดู VDO แล้วจับใจความ แต่เราฟังไม่รู้เรื่องเลย จับไม่ได้สักคำ ผลคือต้องส่งกระดาษเปล่า คือมันต้องฟังแล้วตอบเป็นภาษาอังกฤษ แค่ภาษาไทยก็จะตายอยู่แล้ว วิชานั้นก็ต้องทำงานซ่อมเยอะมากกว่าจะได้เกรด สยองจนถึงทุกวันนี้
จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษอีกครั้งตอนกลับบ้านไปเจอหลานอายุขวบกว่า กำลังหัดพูด สังเกตว่าเวลาเราถามเขา เขาจำประโยคคำถาม แล้วถามเรา พอเราตอบ เขาจะจับเอาคำสุดท้ายประโยค แล้วพูดซ้ำๆ ย้ำๆ คำเดิม ทุกวัน จากคำเป็นประโยค ตอนนั้นคิดว่า ถ้าเราพูดภาษาไทยได้ เราก็น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ ด้วยวิธีการเดียวกัน
ถาม : ตอนนี้ทำอะไร อยู่ที่ไหน
ตอบ : เรียนภาษาอยู่ที่ CCEL อยู่ใน University of Canterbury เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ กำหนดเรียน 6 เดือนค่ะ เป็นอีกหนึ่งความกลัวที่ต้องเดินทางมาตัวคนเดียวที่ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้ แต่ก็เกือบมาไม่ถึงนิวซีแลนด์ค่ะ ไปเคว้งอยู่ที่ออสเตรเลียเพราะระบบออกตั๋วของสายการบินผิดพลาด ต้องแก้ปัญหาอยู่นาน ดีหน่อยที่ครั้งนี้พอจะสื่อสารกับเจ้าหน้าที่รู้เรื่อง
ถาม : เรียนภาษาจบ ยังไงต่อ
ตอบ : คิดว่าจะขอทุนเรียนต่อปริญญาเอกเพราะอยากทำงานวิจัยกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UN หรือ WTO หรือไม่ก็เป็นงานที่ได้ติดต่อกับต่างชาติ แต่ภาษาอังกฤษยังต้องพัฒนาอีกมาก เลยตัดสินใจมาเรียนที่นี่นิวซีแลนด์เพื่อเตรียมความพร้อม
ถาม : ฝากอะไรถึงน้อง ๆ
ตอบ : สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากพัฒนาภาษาอังกฤษ หรือหาประสบการณ์ในต่างประเทศ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ โอกาสมีอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมที่จะคว้ามันหรือไม่ ขอให้โชคดีค่ะ
เผยแพร่โดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชมรมจุฬาฯ-ชนบท
ที่มา :
http://on.fb.me/132bmZ3
*** ยินดีเผยแพร่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น แต่โปรดอ้างอิงแหล่งที่มา
จากที่เคยกลัวภาษาอังกฤษ ...
เผยแพร่โดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชมรมจุฬาฯ-ชนบท
ที่มา : http://on.fb.me/132bmZ3
ถาม : แนะนำตัวหน่อย
ตอบ : ชื่อ จงกลณี ดีไร่ ชื่อเล่น จุ๋ม พื้นเพเป็นคนอุดรธานี พ่อเป็น ตชด. แม่ทำร้านอาหาร อยู่กับปู่ย่าและป้ามาตั้งแต่เด็ก จบ ม.ต้น ที่โรงเรียนกุมภวาปี ไปต่อ ม.ปลาย ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) สายศิลป์คำนวณ (อังกฤษ-คณิตศาสตร์) จบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์พัฒนาการ ได้รับทุนจุฬาฯ-ชนบท รุ่นที่ 19 จบปริญญาโทคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประสบการณ์ทำงาน มี.ค.- พ.ค.2547 ช่วยงานอาจารย์ทำวิจัย ตอนเย็นไปรับจ้างเสิร์ฟอาหารที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มิ.ย.2547-มิ.ย.2554 เป็นเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ที่ธนาคารกรุงเทพ จากนั้น ก.ค.2554-เม.ย.2556 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ธนาคารเดียวกัน
ถาม : ทราบว่าเคยออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างประเทศมาแล้ว ไปที่ไหน
ตอบ : มี.ค.-มิ.ย.2552 ไปทำงานโครงการ Work&Travel ที่ KFC เมือง Easton รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ถาม : จุดเริ่มต้นที่คิดว่าต้องออกเดินทางหาประสบการณ์คืออะไร
ตอบ : ต้องการเอาชนะความกลัวของตัวเอง เพราะเป็นคนขี้กลัวมาก กลัวคนแปลกหน้า กลัวอยู่คนเดียว กลัวความเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญกลัวภาษาอังกฤษ
สมัยเรียนจุฬาฯ เพื่อนเล่าประสบการณ์ที่ไป Work&Travel ให้ฟัง มันส์มาก อินมาก อยากไปบ้าง แต่ไม่มีตังค์ จนลืมไปแล้วนะ จนกระทั่งตอนเรียน ป.โท ที่ธรรมศาสตร์ อายุ 28 ปี แล้ว ตอนนั้นเหลือทำ Thesis อย่างเดียว เห็นประกาศรับสมัครไป Work&Travel ก็อยากไป เป็นปีสุดท้ายที่ไปได้ ไม่งั้นอายุเกิน อยากรู้ว่าถ้าเราสื่อสารไม่ได้เลยจะเอาตัวรอดไหม แม่ก็อยากให้ไป ตังค์ไม่มีก็ต้องหา เอาวะลองดูสักตั้ง จำได้ว่าวันแรกที่ไปถึง สั่งอาหารไม่เป็น พูดได้แต่ Hungry แล้วก็ยิ้ม เขาไม่รู้จะทำไงเลยให้กินฟรี
ถาม : ผ่านพ้นวันนั้นไป ภาษาอังกฤษคงดีขึ้น ?
ตอบ : อยู่ที่ USA หวังว่าจะได้ใช้ภาษาแต่ก็ไม่ได้อย่างใจหวังด้วยความที่ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูเลย งานที่ทำก็อยู่แต่หลังร้านล้วน ๆ ทั้งล้างจาน ถูพื้น ล้างห้องน้ำ เก็บขยะ เตรียมของให้กุ๊ก เล็กๆ น้อยๆ เขาจะให้รับ Order ก็ฟังไม่ออก แรก ๆ เขาก็อธิบายนะ หลัง ๆ ทำให้ดูเลย ดังนั้น ภาษาอังกฤษที่ได้จาก KFC จึงมีแต่ Hot Tray ๆๆ กับ I will show you ยังสับสนระหว่าง Tomato กับ Potato แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ได้เพื่อนทั้งคนไทยทั้งฝรั่ง คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ได้เห็นการทำงานของคนที่นี่ที่เน้นเรื่องเวลาและมีวินัยมาก ๆ แต่เขาก็ขาดน้ำใจ พอเรามาเติมเต็ม ทำงานเต็มที่ มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน เขาก็รักเรา วันที่จะเดินทางกลับไทย ผู้จัดการจัดงานเลี้ยงให้แล้วมาส่งถึง New York ซึ้งมาก เขาคาดไม่ถึงว่าเห็นเราตัวเล็กๆ จะทำงานได้ถึกขนาดนี้ (สมัยนั้นมีฝรั่งมาชอบด้วยนะ แต่คุยไม่รู้เรื่องเลยต้องเลิกไป) ทำงานอยู่ 3 เดือน กำลังปรับตัวได้ เริ่มจะคุยรู้เรื่อง ก็ต้องกลับเมืองไทยแล้ว พอกลับมาไม่ได้ใช้ก็ลืมหมด
ถาม : ประสบการณ์เยอะจัง มีอีกมั้ย ?
ตอบ : มี อยากจะเล่าตอนไปเที่ยววอชิงตันคนเดียว กะจะไปทำวีซ่าเพื่อไปหาเพื่อนที่อังกฤษ เพราะขากลับต้องไปต่อเครื่องที่ลอนดอนอยู่แล้ว กะแวะเที่ยวอาทิตย์นึง ก็ออกเดินทางจากเมือง Easton ไปจนถึงสถานทูตที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่ถามว่ามาทำไม ทำวีซ่าออนไลน์ที่บ้านก็ได้ อ้าว! ก็ไม่รู้ พอลองทำรายการต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ตายล่ะ! อ่านไม่ออก เขาให้เลือก Tourist กับ Visitor Student เราคิดว่าเราไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียว เราไปเยี่ยมเพื่อนเราที่เป็นนักเรียน เลยเลือก Visitor Student พอกรอกไปเรื่อยๆ เอ้า! ระบบดันขอหลักฐานการเรียน ซึ่งเราไม่มี จะย้อนไปทำใหม่ก็ไม่ได้ สรุปคือ อดไปลอนดอน
พอทำวีซ่าไม่ได้ จะไปขึ้นรถบัสกลับ ปรากฎว่ารถออกตรงเวลามาก ช้าไป 5 นาที รถไม่รอเลย วิ่งตามก็ไม่ทัน ไม่ได้เตรียมตัวจะค้างคืนด้วยสิ รถก็หมด เคว้งมาก จะหาโรงแรมที่ไหนเนี่ย จะถามใคร ถามยังไง เดินวนจนเริ่มมืด โชคดีที่เพื่อนที่อังกฤษโทรหา เลยได้เบอร์โทรของวัดไทยในวอชิงตัน โชคดีที่ติดต่อวัดไทยได้ แต่โชคร้ายที่วัดมีงานประชุมสงฆ์ ไม่สะดวกรับแขกผู้หญิง แต่พอได้คุยกับหลวงพี่แล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ก็เลยลองถามว่าจะพักที่ไหนได้บ้าง แล้วสำเนียงหลวงพี่คุ้นหูมาก คนอีสานแน่นอน เลย “เว้าลาว” ทันที ได้ผลแฮะ ท่านเลยวานอุบาสิกาที่วัดให้ค้างเป็นเพื่อน โชคดีจริง ๆ ที่ได้ภาษาอีสานช่วยชีวิต (เห็นไหมว่าบางครั้งภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป) จากนั้นท่านก็บอกทางไปที่วัด โดยให้นั่งรถไฟฟ้าแล้วต่อรถเมล์ แต่พอขึ้นรถเมล์ จะลงที่ไหน ยังไง เพราะมองไปสองข้างทางมีแต่ความมืด และแล้วโชคดีสุดท้ายของวันก็มาถึง เจอพระบนรถเมล์ซึ่งท่านกำลังจะไปวัดนี้พอดี รอดมาได้อย่างหวุดหวิดจริง ๆ
ถาม : พื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษสมัยเรียนเป็นอย่างไร
ตอบ : เจอมาขนาดนี้ยังจะถามอีกหรอ...แต่บอกได้เลยว่า "ห่วยมาก" แต่อาศัยว่าเราเก่งเลขไง ตอนสอบนะ เคยตกลงกับเพื่อนที่เก่งอังกฤษว่าเราจะแบ่งงานกันทำตามความถนัด เราเก่งเลขก็ทำเลข เสร็จแล้วก็ให้เพื่อนลอก พอมาถึงวิชาภาษาอังกฤษเราก็ลอกเพื่อน แต่ครูดันมาจับได้ จับติด i ทั้งคู่ แล้วให้สอบใหม่ ปรากฏว่าเพื่อนได้ 4 เราได้ 1 ช้ำมาก หลังจากนั้นก็เลิกทุจริตในการสอบทุกชนิด
พอเข้ามาเรียนจุฬาฯ วิชาภาษาอังกฤษ หมา (D) กับแมว (C) มากันเต็มเลย จำได้ว่าวิชา Tech Eng สอบเกี่ยวกับเศรษฐกิจอเมริกาในช่วง Black Monday อาจารย์ให้ดู VDO แล้วจับใจความ แต่เราฟังไม่รู้เรื่องเลย จับไม่ได้สักคำ ผลคือต้องส่งกระดาษเปล่า คือมันต้องฟังแล้วตอบเป็นภาษาอังกฤษ แค่ภาษาไทยก็จะตายอยู่แล้ว วิชานั้นก็ต้องทำงานซ่อมเยอะมากกว่าจะได้เกรด สยองจนถึงทุกวันนี้
จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษอีกครั้งตอนกลับบ้านไปเจอหลานอายุขวบกว่า กำลังหัดพูด สังเกตว่าเวลาเราถามเขา เขาจำประโยคคำถาม แล้วถามเรา พอเราตอบ เขาจะจับเอาคำสุดท้ายประโยค แล้วพูดซ้ำๆ ย้ำๆ คำเดิม ทุกวัน จากคำเป็นประโยค ตอนนั้นคิดว่า ถ้าเราพูดภาษาไทยได้ เราก็น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ ด้วยวิธีการเดียวกัน
ถาม : ตอนนี้ทำอะไร อยู่ที่ไหน
ตอบ : เรียนภาษาอยู่ที่ CCEL อยู่ใน University of Canterbury เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ กำหนดเรียน 6 เดือนค่ะ เป็นอีกหนึ่งความกลัวที่ต้องเดินทางมาตัวคนเดียวที่ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้ แต่ก็เกือบมาไม่ถึงนิวซีแลนด์ค่ะ ไปเคว้งอยู่ที่ออสเตรเลียเพราะระบบออกตั๋วของสายการบินผิดพลาด ต้องแก้ปัญหาอยู่นาน ดีหน่อยที่ครั้งนี้พอจะสื่อสารกับเจ้าหน้าที่รู้เรื่อง
ถาม : เรียนภาษาจบ ยังไงต่อ
ตอบ : คิดว่าจะขอทุนเรียนต่อปริญญาเอกเพราะอยากทำงานวิจัยกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UN หรือ WTO หรือไม่ก็เป็นงานที่ได้ติดต่อกับต่างชาติ แต่ภาษาอังกฤษยังต้องพัฒนาอีกมาก เลยตัดสินใจมาเรียนที่นี่นิวซีแลนด์เพื่อเตรียมความพร้อม
ถาม : ฝากอะไรถึงน้อง ๆ
ตอบ : สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากพัฒนาภาษาอังกฤษ หรือหาประสบการณ์ในต่างประเทศ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ โอกาสมีอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราพร้อมที่จะคว้ามันหรือไม่ ขอให้โชคดีค่ะ
เผยแพร่โดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชมรมจุฬาฯ-ชนบท
ที่มา : http://on.fb.me/132bmZ3
*** ยินดีเผยแพร่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น แต่โปรดอ้างอิงแหล่งที่มา