สักวา ประสบการณ์ ผ่านมานั้น แต่ละวัน บันทึกไว้ ในสมอง
บวกอารมณ์ ความรู้สึก นึกตรึกตรอง เป็นแบบแผน ความคิดของ สมองคุณ
คนส่วนใหญ่ หารวยไม่ เพราะไปติด ที่ความคิด ผิดแบบไป ไม่เกื้อหนุน
ถ้าไม่เกิด เป็นเศรษฐี มีสกุล ความคิดอ่าน การเงินคุณ คงไม่ดี
พ่อแม่เลี้ยง คุณโตมา สามัญชน จบปริญญา ปัญญาล้น ปนศักดิ์ศรี
ความรู้แน่น แต่แก่นคิด ติดทุกที เพราะทุกที่ แค่สอนดี มีงานทำ
ไม่ได้สอน ให้คุณเห็น เช่นคนรวย ไม่ได้สอน ใช้เงินด้วย ช่างน่าขำ
จนหรือรวย ด้วยว่าเป็น เรื่องเวรกรรม ยิ่งตอกย้ำ ทำแก่นคิด คุณผิดไป
แต่คนรวย ปลูกความคิด แบบคนรวย ฝังในหัว ลูกหลานด้วย จึงรวยไหว
แก่นความคิด ของลูกหลาน เมื่อนานไป พอเติบใหญ่ ได้คิดเป็น เห็นทางรวย
คนเป็นจ้าว คิดแบบจ้าว ไม่เหมือนเม่า ความคิดเรา เอาท่าไหน ก็ไม่สวย
คิดเล่นหุ้น คุณไม่เห็น เช่นคนรวย ไงก็ซวย รวยไม่ได้ ท้ายขาดทุน
แบบนี้ต้อง ลองแก้ลำ ทำสวนคิด ให้ทำผิด สวนสมอง ต้องลองหมุน
ถ้าคิดว่า หุ้นดีมาก จากงบดุล แปลว่าพลาด อาจขาดทุน คุณห้าม buy
ถ้าคิดว่า หุ้นในพอร์ต ยอดเยี่ยมจัง แปลว่าพัง อย่านั่งจ้อง ต้องรีบขาย
ถ้าคิดว่า หุ้นตัวนี้ ถึงที่ตาย แปลว่าได้ หมายความว่า น่าซื้อเอย
เขาว่า คนส่วนใหญ่ (เม่าอย่างเรา) ถูกเลี้ยงดูมาจากครอบครัวฐานะปานกลางหรือยากจน
ดังนั้น แบบแผนของความคิดที่อยู่ในสมองเรา ถูกโปรแกรมมาให้คิดแบบคนธรรมดา คิดแบบคนรวยไม่เป็น
บางคนเรียก พิมพ์เขียว, Blueprint, Mindset, Format, Pattern, ... ของความคิดทางการเงิน
ซึ่งแตกต่างจากแบบแผนความคิดของคนรวยเป็นอย่างมาก
เช่น เมื่อเราจะทำงาน เรามักจะหาบริษัทที่ดี แล้วพยายามไปทำงานที่นั่น
ถึงจะได้งานกับบริษัทที่ดีที่สุดในโลก ก็เป็นแค่ลูกจ้าง เงินเดือนมากหน่อย แต่ไม่รวยเป็นเศรษฐี
แต่เด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวเศรษฐี กลับพยายามหาทางทำธุกิจของตัวเอง เปิดบริษัท หรือ ลงทุน
ที่คนรวยกับคนจนนั้นคิดต่างกัน เพราะสมองถูกโปรแกรมมาแตกต่างกัน
บางคนกล้า และสามารถที่จะเปลี่ยนแบบแผนความคิดของตัวเองได้ ก็ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยกันไป
แต่จริงๆแล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลงหรือ re-program ใหม่ เพราะมันฝังมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ในเมื่อคิดแบบคนรวยไม่ได้ ลองเล่นหุ้นแบบสวนความรู้สึก สวนความคิดตัวเองดูสิครับ คุณอาจสำเร็จก็ได้
วันนี้ยาวเกินไปแล้ว แค่นี้ล่ะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ
สักวา ประสบการณ์ ผ่านมานั้น.....แต่ละวัน บันทึกไว้ ในสมอง
บวกอารมณ์ ความรู้สึก นึกตรึกตรอง เป็นแบบแผน ความคิดของ สมองคุณ
คนส่วนใหญ่ หารวยไม่ เพราะไปติด ที่ความคิด ผิดแบบไป ไม่เกื้อหนุน
ถ้าไม่เกิด เป็นเศรษฐี มีสกุล ความคิดอ่าน การเงินคุณ คงไม่ดี
พ่อแม่เลี้ยง คุณโตมา สามัญชน จบปริญญา ปัญญาล้น ปนศักดิ์ศรี
ความรู้แน่น แต่แก่นคิด ติดทุกที เพราะทุกที่ แค่สอนดี มีงานทำ
ไม่ได้สอน ให้คุณเห็น เช่นคนรวย ไม่ได้สอน ใช้เงินด้วย ช่างน่าขำ
จนหรือรวย ด้วยว่าเป็น เรื่องเวรกรรม ยิ่งตอกย้ำ ทำแก่นคิด คุณผิดไป
แต่คนรวย ปลูกความคิด แบบคนรวย ฝังในหัว ลูกหลานด้วย จึงรวยไหว
แก่นความคิด ของลูกหลาน เมื่อนานไป พอเติบใหญ่ ได้คิดเป็น เห็นทางรวย
คนเป็นจ้าว คิดแบบจ้าว ไม่เหมือนเม่า ความคิดเรา เอาท่าไหน ก็ไม่สวย
คิดเล่นหุ้น คุณไม่เห็น เช่นคนรวย ไงก็ซวย รวยไม่ได้ ท้ายขาดทุน
แบบนี้ต้อง ลองแก้ลำ ทำสวนคิด ให้ทำผิด สวนสมอง ต้องลองหมุน
ถ้าคิดว่า หุ้นดีมาก จากงบดุล แปลว่าพลาด อาจขาดทุน คุณห้าม buy
ถ้าคิดว่า หุ้นในพอร์ต ยอดเยี่ยมจัง แปลว่าพัง อย่านั่งจ้อง ต้องรีบขาย
ถ้าคิดว่า หุ้นตัวนี้ ถึงที่ตาย แปลว่าได้ หมายความว่า น่าซื้อเอย
เขาว่า คนส่วนใหญ่ (เม่าอย่างเรา) ถูกเลี้ยงดูมาจากครอบครัวฐานะปานกลางหรือยากจน
ดังนั้น แบบแผนของความคิดที่อยู่ในสมองเรา ถูกโปรแกรมมาให้คิดแบบคนธรรมดา คิดแบบคนรวยไม่เป็น
บางคนเรียก พิมพ์เขียว, Blueprint, Mindset, Format, Pattern, ... ของความคิดทางการเงิน
ซึ่งแตกต่างจากแบบแผนความคิดของคนรวยเป็นอย่างมาก
เช่น เมื่อเราจะทำงาน เรามักจะหาบริษัทที่ดี แล้วพยายามไปทำงานที่นั่น
ถึงจะได้งานกับบริษัทที่ดีที่สุดในโลก ก็เป็นแค่ลูกจ้าง เงินเดือนมากหน่อย แต่ไม่รวยเป็นเศรษฐี
แต่เด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวเศรษฐี กลับพยายามหาทางทำธุกิจของตัวเอง เปิดบริษัท หรือ ลงทุน
ที่คนรวยกับคนจนนั้นคิดต่างกัน เพราะสมองถูกโปรแกรมมาแตกต่างกัน
บางคนกล้า และสามารถที่จะเปลี่ยนแบบแผนความคิดของตัวเองได้ ก็ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยกันไป
แต่จริงๆแล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลงหรือ re-program ใหม่ เพราะมันฝังมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ในเมื่อคิดแบบคนรวยไม่ได้ ลองเล่นหุ้นแบบสวนความรู้สึก สวนความคิดตัวเองดูสิครับ คุณอาจสำเร็จก็ได้
วันนี้ยาวเกินไปแล้ว แค่นี้ล่ะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ