กระแสแอพพลิเคชั่นสำหรับการส่งข้อความบนมือถือในไทยขณะนี้ต้องยอมรับว่า แอพพลิเคชั่น LINE ดูเข้าตาวัยรุ่น วัยอินเทรนด์ในไทยมากที่สุดวัดจากกระแสการส่งสติ้กเกอร์ และความเคลื่อนไหวทางการตลาดของ LINE ในไทยที่คึกคักอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆในกลุ่มเดียวกันอย่างเช่น WeChat และ BlackBerry ในเมืองไทย
แต่ก็อย่าเพิ่งลืมชื่อของแอพฯ หน้าเก่าอย่าง WhatsApp ที่ดูเหมือนกระแสจะแผ่วลงไปหลังมีข่าวว่าจะใช้โมเดลเก็บค่าใช้บริการรายปีกับทุกแพลตฟอร์มที่ทำเอาขาแชทหลายรายชิง Uninstall กันไปล่วงหน้าแบบไม่ง้อ แม้จะค่าบริการเพียง 1 ดอลลาร์ก็ตาม แต่ก็คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ยินดีจะจ่าย เพราะของฟรีมีให้เล่นอีกเยอะ ทำให้จนถึงตอนนี้ WhatsApp ก็ยังเลื่อนการเก็บค่าบริการสำหรับบางแพลตฟอร์ม เช่น Andriod ออกไปจนถึงปี 2014
และก็ดูเหมือนว่า WhatsApp กำลังพยายามจะเรียกกระแสคืนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถส่งข้อความเสียงผ่านแอพได้ฟรี ซึ่งถามว่ามันต่างอย่างไรกับแอพพลิเคชั่นตัวอื่นๆที่ก็ส่งเสียงได้เหมือนๆกัน ซึ่ง WhatsApp เลือกที่จะใช้จุดเด่นของ walkie-talkie เข้ามาประยุกต์ ให้กดเพียงครั้งเดียวเพื่อบันทึกและส่งไฟล์เสียงได้ง่ายขึ้นเหมือนใช้ walkie-talkie ซึ่งมันจะดีแค่ไหนก็คงต้องรออัพเดทแล้วลองใช้กัน
แต่ความน่าสนใจของ WhatsApp ขณะนี้คือ การออกมาเปิดเผยยอดผู้ใช้งานที่ต้องแอบประหลาดใจว่ายังมียอดผู้ใช้แบบแอคทีฟต่อเดือนถึง 300 ล้านราย พอๆกับยอดของแอพฯ สัญชาติจีนอย่าง WeChat หรือ Weixin ที่ยึดฐานตลาดในจีนเป็นหลัก ส่วน LINE ณ ญี่ปุ่น เพิ่งฉลองยอดผู้ใช้งาน 200 ล้านรายเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ Viber มีผู้ใช้ราว 175 ล้านราย
นั่นแปลว่าด้วยฐานผู้ใช้ที่ยังยึดครองอันดับท้อปของกลุ่มแอพพลิเคชั่นสำหรับการสนทนาท่ามกลางตัวเลือกมากมายของ WhatsApp หากยังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆออกมาจับตลาดได้ก็มีโอกาสที่จะเกาะเก้าอี้เบอร์หนึ่งไว้ได้อีกพักใหญ่
ทั้งนี้เพราะจุดเด่นของ WhatsApp ที่ยังเป็นแอพที่ค่อนข้างเสถียรในการใช้งาน ไม่มีสติ้กเกอร์ให้น่ารำคาญซึ่งถือเป็นอีกจุดขายทางเลือกของคนที่ไม่ชอบการส่งสติ้กเกอร์ให้รุงรัง และยังเป็นที่นิยมใช้ในการสื่อสารเพื่อการทำงานที่ดูเป็นทางการมากกว่า LINE นิดหน่อย และเชคสถานะของผู้ที่ต้องการติดต่อได้ และสามารถส่งไฟล์ภาพได้โดยไม่ต้องกดดาวน์โหลด เพราะภาพจะถูกซิงค์ไปอยู่ในโฟลเดอร์บนเครื่องให้ โดยอัตโนมัติ
แถมผู้บริหารยังแอบแย่บออกมาว่า WhatsApp กำลังซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อทำให้การสื่อสารด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือมีลีลาที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกับการแชร์ไฟล์ภาพที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่น ซึ่งจะทำได้จริงอย่างที่ฝันไว้หรือไม่ อย่างไรนั้น วัยรุ่นอย่างเราๆท่านๆ โปรดติดตาม
+ + + + +
ที่มา
http://www.itspacebar.com/2013/08/whatsapp/
ถ้าสนใจ ลองคลิกไปอ่านเรื่องๆ ดูครับ
WhatsApp กำลังจะกลับมา?
แต่ก็อย่าเพิ่งลืมชื่อของแอพฯ หน้าเก่าอย่าง WhatsApp ที่ดูเหมือนกระแสจะแผ่วลงไปหลังมีข่าวว่าจะใช้โมเดลเก็บค่าใช้บริการรายปีกับทุกแพลตฟอร์มที่ทำเอาขาแชทหลายรายชิง Uninstall กันไปล่วงหน้าแบบไม่ง้อ แม้จะค่าบริการเพียง 1 ดอลลาร์ก็ตาม แต่ก็คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ยินดีจะจ่าย เพราะของฟรีมีให้เล่นอีกเยอะ ทำให้จนถึงตอนนี้ WhatsApp ก็ยังเลื่อนการเก็บค่าบริการสำหรับบางแพลตฟอร์ม เช่น Andriod ออกไปจนถึงปี 2014
และก็ดูเหมือนว่า WhatsApp กำลังพยายามจะเรียกกระแสคืนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถส่งข้อความเสียงผ่านแอพได้ฟรี ซึ่งถามว่ามันต่างอย่างไรกับแอพพลิเคชั่นตัวอื่นๆที่ก็ส่งเสียงได้เหมือนๆกัน ซึ่ง WhatsApp เลือกที่จะใช้จุดเด่นของ walkie-talkie เข้ามาประยุกต์ ให้กดเพียงครั้งเดียวเพื่อบันทึกและส่งไฟล์เสียงได้ง่ายขึ้นเหมือนใช้ walkie-talkie ซึ่งมันจะดีแค่ไหนก็คงต้องรออัพเดทแล้วลองใช้กัน
แต่ความน่าสนใจของ WhatsApp ขณะนี้คือ การออกมาเปิดเผยยอดผู้ใช้งานที่ต้องแอบประหลาดใจว่ายังมียอดผู้ใช้แบบแอคทีฟต่อเดือนถึง 300 ล้านราย พอๆกับยอดของแอพฯ สัญชาติจีนอย่าง WeChat หรือ Weixin ที่ยึดฐานตลาดในจีนเป็นหลัก ส่วน LINE ณ ญี่ปุ่น เพิ่งฉลองยอดผู้ใช้งาน 200 ล้านรายเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ Viber มีผู้ใช้ราว 175 ล้านราย
นั่นแปลว่าด้วยฐานผู้ใช้ที่ยังยึดครองอันดับท้อปของกลุ่มแอพพลิเคชั่นสำหรับการสนทนาท่ามกลางตัวเลือกมากมายของ WhatsApp หากยังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆออกมาจับตลาดได้ก็มีโอกาสที่จะเกาะเก้าอี้เบอร์หนึ่งไว้ได้อีกพักใหญ่
ทั้งนี้เพราะจุดเด่นของ WhatsApp ที่ยังเป็นแอพที่ค่อนข้างเสถียรในการใช้งาน ไม่มีสติ้กเกอร์ให้น่ารำคาญซึ่งถือเป็นอีกจุดขายทางเลือกของคนที่ไม่ชอบการส่งสติ้กเกอร์ให้รุงรัง และยังเป็นที่นิยมใช้ในการสื่อสารเพื่อการทำงานที่ดูเป็นทางการมากกว่า LINE นิดหน่อย และเชคสถานะของผู้ที่ต้องการติดต่อได้ และสามารถส่งไฟล์ภาพได้โดยไม่ต้องกดดาวน์โหลด เพราะภาพจะถูกซิงค์ไปอยู่ในโฟลเดอร์บนเครื่องให้ โดยอัตโนมัติ
แถมผู้บริหารยังแอบแย่บออกมาว่า WhatsApp กำลังซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อทำให้การสื่อสารด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือมีลีลาที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกับการแชร์ไฟล์ภาพที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่น ซึ่งจะทำได้จริงอย่างที่ฝันไว้หรือไม่ อย่างไรนั้น วัยรุ่นอย่างเราๆท่านๆ โปรดติดตาม
+ + + + +
ที่มา http://www.itspacebar.com/2013/08/whatsapp/
ถ้าสนใจ ลองคลิกไปอ่านเรื่องๆ ดูครับ