สวัสดีครับทุกท่าน สิ่งที่ผมจะพูด ( หรือบ่นเชิงก่นด่า ) คงเป็นเรื่องเดิมๆ ที่ทุกคนระอา สาธุ ไม่อยากพบปะบนท้องถนน ถ้าท่านใดเบื่อผ่านไปก็ได้นะครับ ถือซะว่าผมขอระบายนิดหน่อยแล้วกัน
ทั้งรถหัดใหม่ เก้ๆ กังๆ ซ้ายทีขวาที จะออกรึไม่ออก ให้เราเดาทางกันแทบไม่ถูก อันนี้เราไม่ว่ากัน ต้องยอมรับและให้อภัยกันไป จนกว่าเค้าเหล่านั้นจะเก็บเลเวลกันไป แต่ที่มักจะนำพาความโมโหหงุดหงิดใจมาตลอด มักจะเป็น บรรดาคนมีฝีมือแถมเห็นแก่ตัว ( ก็กูจะไปอ่ะใครจะทำไม ) เท่าที่จำได้ส่วนใหญ่บุคคลประเภทนี้จะขับรถอยู่ 2 แบบ คือ กระบะส่งของ ที่มักมีรอยประสบการณ์รอบคันให้เรารู้ว่า พี่เค้าไม่แคร์ หรือไม่ก็รถหรู ลูกเจ้าขุนรุนนาย ที่ใหญ่คับฟ้า ข้ามาเอ็งต้องหลบ
เรื่องเบื่อเรื่องบ่นต่อมา คงไม่พ้นการจราจรคับคั่งตามจุดต้องตาโดนใจของบรรดารถสาธารณะ ที่จอดรอผู้โดยสารอย่างไม่ยี่ระ ว่าข้างหลังจะเป็นเช่นไร ตรงไหนแจ็คพ็อต ก็มีทั้งรถแท็กซี่ รถตู้ และรถเมล์ จอดกันเป็นระแนงแผงยาว ให้เราๆ ท่านๆ คิดว่ามันติดอะไรว่ะ อันนี้ทุกท่านก็คงพอจะนึกออกว่ามีตรงไหนบ้าง แล้ว...ทางแก้มันคืออะไรล่ะ เราๆท่านๆ ก็คงจะนึกถึงผู้พิทักษ์สันติราษณ์ ที่มักจะเจอแต่ตอนตั้งด่านให้รถติดเพิ่มขึ้น กวดขันการจราจรตอนมึดๆ โอเค หน้าที่นั้นท่านสอบผ่าน ว่าแต่หน้าที่นี้ ท่านไปไหน อาจเป็นเพราะผมไม่รู้วิธีทำงานของท่านกระมั้ง เลยทำให้ทุกครั้งที่ผ่านจุดติดขัด ผมมักจะเอยลอยๆว่า " ตำรวจแ_งไปไหน "
พูดถึงด่านตรวจ ขอวกกลับมาอีกซักนิด บางครั้งบางคราว ผมก็ฉงนสนเท่ห์ ว่า ตั้งทำไม? ถนนยาวๆ เช่น รังสิต-นครนายก วิ่งทำความเร็วกันมา อยู่ๆ ก็เบรคกันตัวโก่ง แทบทะลุไปอัดกับคันหน้า เพียงเพราะ มีกรวยตั้ง ไฟกระพริบว่าด่านตรวจ แต่ก็มิได้ตรวจอะไร รถผ่านไปแบบไม่มีใครยืน ก็เข้าใจอยู่ว่า ถ้าบอกกันแต่เนิ้นๆ คนทำผิดจะหนีหลบหาย แต่บางที มันก็ใกล้ไปป่าวหว้าาา เกือบชนกันหลายคันเลยนะนั่น อันนี้แค่บ่นนะครับ ไม่ได้ว่าอะไรท่าน
ท่านเคยสังเกตมั้ย เดี๋ยวนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะเราเข้าสู่โลกสังคมอาเซียนรึอย่างไรไม่ทราบ ทำไม๊ทำไม รถช้าๆ ต๊องเน๊งๆ มักขับอยู่เลนขวา พาบรรดาขาซิ่งอย่างกระผม ไปไหนไม่ได้ ซ้ายก็สิบล้อ พี่เค้าหนัก จะไปให้เค้าเหยียบเป็นร้อยคงใช่ที แต่พี่ทีอยู่เลนขวา จะช้าไปไหน เร่งอีกนิด ชิดอีกหน่อย เผื่อใจให้คนอื่นบ้าง ข้างหน้าว่างเป็นลาน F1 ข้างหลังเค้าก็รอจะไป เปิดไฟขอทางก็แล้ว เปิดไฟไล่ก็หันมาว่าเค้าอีกแหนะ อันนี้ไม่ได้อยากให้ขับเร็วกันนะครับ แค่ขับให้ถูกเลน รถจะได้ติดกันน้อยลง
อย่างสุดท้ายที่อยากจะบ่น คงไม่พ้นความเดือดดาดที่ทวีคุณ เมื่อเกิดการไม่ยอมกันของสิงห์สองตัว ปาดกันไป แซงกันมา เอ็งมาข้าเบียด ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเจ้าถนนแห่งนี้ให้ใคร สุดท้าย ไม่ชนก็ฆ่ากัน อย่างที่เห็นในหนังสือพิมพ์หัวสี ผมเป็นคนนึงที่มักจะเอาคืนกับรถที่ปาดออกมาแบบข้าใหญ่ กูจะไป ใครจะสน ทุกครั้งที่เจอก็มักจะกระฟัดกระเฟียด เอาคืนให้ได้ สุดท้ายก็จบที่คำเดิมว่า " ทำไปทำไม " ล่าสุดพบอุปกรณ์ใหม่ในการขับขี่ปัจจุบัน มีด... ใช่ครับ มันคือมีดอีดาบแหลมเฟี้ยว เอามากวัดแกว่ง ให้ผมนั้นหลาบจำ ไม่ใช่จำว่าแพ้เขา แต่จำคำเดิมๆในหัวว่า ทำไปทำไม
สัจธรรมแท้จริงบนถนน คงไม่พ้นกับคำว่า ใจเย็นและมีน้ำใจ ปล่อยให้ผู้ยิ่งใหญ่เค้าเป็นของเค้าต่อไป
ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านเรื่องเดิมๆ ที่โพสกันซ้ำๆ และดำเนินต่อไปทุกวัน
ขอบคุณผู้ร่วมถนนที่ยังมีน้ำใจแบ่งปันเพื่อนผู้เดินทางอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
ขอบคุณคุณตำรวจที่ยังคงเสี่ยงภัย อดทน คอยระบายรถในหลายจุด แม้อากาศจะร้อน แดดจะแรง ชุดชุ่มเหงื่อ แต่ยังทำหน้าที่ต่อไป
หลายคนหลายสังคม แต่อย่างไรก็ยังมีคนดีๆ มีน้ำใจอยู่ สู้ต่อไป ทาเคชิ !!!
หากท่านมีข้อชี้แนะ แก้ไข ส่งเสริม หรือซ้ำเติม ก็เชิญตามอัธยาศัยนะครับ ^^
ความเครียดบนท้องถนน
ทั้งรถหัดใหม่ เก้ๆ กังๆ ซ้ายทีขวาที จะออกรึไม่ออก ให้เราเดาทางกันแทบไม่ถูก อันนี้เราไม่ว่ากัน ต้องยอมรับและให้อภัยกันไป จนกว่าเค้าเหล่านั้นจะเก็บเลเวลกันไป แต่ที่มักจะนำพาความโมโหหงุดหงิดใจมาตลอด มักจะเป็น บรรดาคนมีฝีมือแถมเห็นแก่ตัว ( ก็กูจะไปอ่ะใครจะทำไม ) เท่าที่จำได้ส่วนใหญ่บุคคลประเภทนี้จะขับรถอยู่ 2 แบบ คือ กระบะส่งของ ที่มักมีรอยประสบการณ์รอบคันให้เรารู้ว่า พี่เค้าไม่แคร์ หรือไม่ก็รถหรู ลูกเจ้าขุนรุนนาย ที่ใหญ่คับฟ้า ข้ามาเอ็งต้องหลบ
เรื่องเบื่อเรื่องบ่นต่อมา คงไม่พ้นการจราจรคับคั่งตามจุดต้องตาโดนใจของบรรดารถสาธารณะ ที่จอดรอผู้โดยสารอย่างไม่ยี่ระ ว่าข้างหลังจะเป็นเช่นไร ตรงไหนแจ็คพ็อต ก็มีทั้งรถแท็กซี่ รถตู้ และรถเมล์ จอดกันเป็นระแนงแผงยาว ให้เราๆ ท่านๆ คิดว่ามันติดอะไรว่ะ อันนี้ทุกท่านก็คงพอจะนึกออกว่ามีตรงไหนบ้าง แล้ว...ทางแก้มันคืออะไรล่ะ เราๆท่านๆ ก็คงจะนึกถึงผู้พิทักษ์สันติราษณ์ ที่มักจะเจอแต่ตอนตั้งด่านให้รถติดเพิ่มขึ้น กวดขันการจราจรตอนมึดๆ โอเค หน้าที่นั้นท่านสอบผ่าน ว่าแต่หน้าที่นี้ ท่านไปไหน อาจเป็นเพราะผมไม่รู้วิธีทำงานของท่านกระมั้ง เลยทำให้ทุกครั้งที่ผ่านจุดติดขัด ผมมักจะเอยลอยๆว่า " ตำรวจแ_งไปไหน "
พูดถึงด่านตรวจ ขอวกกลับมาอีกซักนิด บางครั้งบางคราว ผมก็ฉงนสนเท่ห์ ว่า ตั้งทำไม? ถนนยาวๆ เช่น รังสิต-นครนายก วิ่งทำความเร็วกันมา อยู่ๆ ก็เบรคกันตัวโก่ง แทบทะลุไปอัดกับคันหน้า เพียงเพราะ มีกรวยตั้ง ไฟกระพริบว่าด่านตรวจ แต่ก็มิได้ตรวจอะไร รถผ่านไปแบบไม่มีใครยืน ก็เข้าใจอยู่ว่า ถ้าบอกกันแต่เนิ้นๆ คนทำผิดจะหนีหลบหาย แต่บางที มันก็ใกล้ไปป่าวหว้าาา เกือบชนกันหลายคันเลยนะนั่น อันนี้แค่บ่นนะครับ ไม่ได้ว่าอะไรท่าน
ท่านเคยสังเกตมั้ย เดี๋ยวนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะเราเข้าสู่โลกสังคมอาเซียนรึอย่างไรไม่ทราบ ทำไม๊ทำไม รถช้าๆ ต๊องเน๊งๆ มักขับอยู่เลนขวา พาบรรดาขาซิ่งอย่างกระผม ไปไหนไม่ได้ ซ้ายก็สิบล้อ พี่เค้าหนัก จะไปให้เค้าเหยียบเป็นร้อยคงใช่ที แต่พี่ทีอยู่เลนขวา จะช้าไปไหน เร่งอีกนิด ชิดอีกหน่อย เผื่อใจให้คนอื่นบ้าง ข้างหน้าว่างเป็นลาน F1 ข้างหลังเค้าก็รอจะไป เปิดไฟขอทางก็แล้ว เปิดไฟไล่ก็หันมาว่าเค้าอีกแหนะ อันนี้ไม่ได้อยากให้ขับเร็วกันนะครับ แค่ขับให้ถูกเลน รถจะได้ติดกันน้อยลง
อย่างสุดท้ายที่อยากจะบ่น คงไม่พ้นความเดือดดาดที่ทวีคุณ เมื่อเกิดการไม่ยอมกันของสิงห์สองตัว ปาดกันไป แซงกันมา เอ็งมาข้าเบียด ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเจ้าถนนแห่งนี้ให้ใคร สุดท้าย ไม่ชนก็ฆ่ากัน อย่างที่เห็นในหนังสือพิมพ์หัวสี ผมเป็นคนนึงที่มักจะเอาคืนกับรถที่ปาดออกมาแบบข้าใหญ่ กูจะไป ใครจะสน ทุกครั้งที่เจอก็มักจะกระฟัดกระเฟียด เอาคืนให้ได้ สุดท้ายก็จบที่คำเดิมว่า " ทำไปทำไม " ล่าสุดพบอุปกรณ์ใหม่ในการขับขี่ปัจจุบัน มีด... ใช่ครับ มันคือมีดอีดาบแหลมเฟี้ยว เอามากวัดแกว่ง ให้ผมนั้นหลาบจำ ไม่ใช่จำว่าแพ้เขา แต่จำคำเดิมๆในหัวว่า ทำไปทำไม
สัจธรรมแท้จริงบนถนน คงไม่พ้นกับคำว่า ใจเย็นและมีน้ำใจ ปล่อยให้ผู้ยิ่งใหญ่เค้าเป็นของเค้าต่อไป
ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านเรื่องเดิมๆ ที่โพสกันซ้ำๆ และดำเนินต่อไปทุกวัน
ขอบคุณผู้ร่วมถนนที่ยังมีน้ำใจแบ่งปันเพื่อนผู้เดินทางอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
ขอบคุณคุณตำรวจที่ยังคงเสี่ยงภัย อดทน คอยระบายรถในหลายจุด แม้อากาศจะร้อน แดดจะแรง ชุดชุ่มเหงื่อ แต่ยังทำหน้าที่ต่อไป
หลายคนหลายสังคม แต่อย่างไรก็ยังมีคนดีๆ มีน้ำใจอยู่ สู้ต่อไป ทาเคชิ !!!
หากท่านมีข้อชี้แนะ แก้ไข ส่งเสริม หรือซ้ำเติม ก็เชิญตามอัธยาศัยนะครับ ^^