สำหรับคริสเตียนที่เพิ่งรับเชื่อเราคิดว่า มีความรู้สึกแบบนี้เยอะ แต่อาจจะไม่ทุกคนมั่งค่ะ
ครั้งแรกที่ไปโบสถ์ มีคำถามมากมาย ทำไมต้องทำแบบนั้น ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องกอดกันเวลาเจอกัน ทำต้องป่าวประกาศให้คนอื่นมาเชื่อเหมือนเรา หนีงในนั้น ทำไมต้องป่าวประกาศในเมื่อต่างก็มีที่ยีดเหนี่ยสจิตใจ 1 เดือนสำหรับการได้รับเชื่อพระองค์ แทบจะไม่คำถามอะไรเลย
เราเป็นคนหนี่งที่กลัวมากกับการที่บอก ญาติ เพื่อน คนข้างๆว่า ฉันเป็นคิดเตียนแล้ว ถามว่ากลัวอะไร กลัวโดนต่อต้าน กลัวหัวใจของเราไม่เข็มแข็ง กลัวคำต่อต้านจะทำให้ใจเราหวั่นไหว
ผ่านไป สองอาทิตย์เริ่มอีดอัดกับความกลัว อธิฐานบอกพระองค์ว่า พระบิตาเจ้าข้า เวลาลูกกลัวเหลือเกิน กลัวคำต่อต้านของคนรอบข้าง พ่อแม่พี่น้อง หรือผ่านรวมงาน ขอพระองค์เข้ามาเสริมกำลัง ขอพลังกาย พลังใจให้กับลูก ให้ลูกกล้าที่จะป่าวประกาศออกไปว่า ลูกเป็นขอพระองค์แล้ว ขออย่าได้มีใครมาต่อต้านลูกต้านลูกเลย ขอให้ทุกคนเข้าใจลูก
และให้คืนนั้นฝันว่า เราถือพระคัมภีร์ไปบอกแม่ว่า แม่ๆ ตอนนี้หนูเป็นคริสเตียนแล้วนะ เนี่ยะๆ อ่านพระคัมภีร์ทุกวันเลย
เอาว่ะตัดสินใจจะโทรหาแม่คนแรก แต่โทรหาแม่ไม่ติด โทรไม่หาน้องสาว และบอกน้องสาวเป็นคนแรก
น้องสาวบอกว่า : ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้าพี่แนนมีความสุข ก็ทำไปเหอะ (เขาก็เล่าปัญหาต่างๆที่เขาเจอเรื่องหนี่สินเงินทอง เรื่องพ่อของเรา ที่ชอบดื่มเหล้า อันนี้เป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขสำหรับเราแหละน้องจริงๆ ด้วยสังคมของคนที่ทำงานเป็นช่างกี่ง เลิกงาน กินเหล้า เล่นการพนัน โน้นนี่นั้น ทั้งลูกพี่ ลูกน้อง พอกัน คิดเเล้วมันหน้าทุกข์ใจจริงๆ ) ก็บอกกับน้องว่า แอนลองอธิฐานกันพระเจ้าดูไหม ได้แค่บอกอ่ะค่ะ ทำหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่เราก็ได้แต่อฐิธานเผื่อค่ะ
บอกพ่อ : พ่อก็เอออ ๆๆๆๆ จ๋าๆๆๆๆๆ เออออตามไปด้วย ในขณะที่เราก็ บลาๆ เรื่องพระเจ้า แต่มีคำตามจากปลายเสียงมาว่า พระเจ้าหน้าตาเป็นไงว่ะ เรื่องพ่อตอนนี้ก็อธิฐานอยู่ค่ะ เป็นห่วงสุขภาพ ผอมลงๆ TT โทรถามน้องบอก ตอนนี้พ่อไม่กินแล้ว แกงดเหล้าเข้าพรรษา เอ่ออออ.......... เฉพาะเข้าพรรษาใช่ไหม @#$%#%#%#%@#%^^&%^&$%&^%&$&
บอกแม่ : แม่ก็ถามว่าหนูเป็นไง รู้สึกดีไหม ถ้าหนูโอเค แม่ก็โอเค เราก็เลยบอกแม่ต่อว่า จำได้ไหมวันที่หนูบอกแม่ว่าหนูเริ่มเดินเองได้โดยไม่ใช่ไม้ หนูอยากหาย หนูอธิฐานกับพระเจ้าทุกวันเลย แม่ก็บอกว่า เชื่อได้แต่อย่า งมงาย คือแม่ออกแนวไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ขัด
บอกไปถังเพื่อนที่เคยร่วมงาน เขาบอกเป็นข่าวที่เขาเซอร์ไพสมาก ดีใจมากที่เราเริ่มเดินเองได้ จากที่ลองเดินดูแล้วหลายครั้ง มันก็ไม่เคยได้สักที
เพื่อนร่วมงานหลายคนรู้ว่าเราเป็น คริสเตียน เขาเห้นเราพอเดินได้ ไกลมากขี้น เราก็บอกเราเชื่อพระเจ้า แต่ก้ไม่ได้ตื่นเต้นว่าพระเจ้ามีจริงๆหรือเปล่า แค่เห็นเราเดิน เขาก็ยิ้ม หัวเราะที่เราเดิน คือมันเหมือนนกแพนกวินไง ฮาๆๆๆ
หลังเดินบอ่ยขี้น โดนแซวว่า ซ่าส์แล้วนะ เดี่ยวถ้าล้มจะกระทืบซ้ำ ฮาๆๆ แล้วก็บอกเราไม่ล้มหรอก
วันก่อนนีกถึงเพื่อนคนหนี่ง พิการเหมอืนกัน แต่เขาเดินเก่งกว่าเรานะ จะโทรหา โทรไม่ติด ว่าจะบอกข่าวสักหน่ยอ ฉันเป้นคริสเดียนแล้วเพื่อน เนี่ยะสดๆร้อน เจอเขาที่ตีกคอม ขอบคุณพระเจ้า ก็พาเข้าไปเลี้ยงข้าว เอาโบว์บัวร์ใบหนี่ง เฮ้ยยอยากให้อ่าน ต้องอ่านนะ เพื่อนบอก "มรี่งจะพากูเปลี่ยนศาสนาหรอ" ฮาๆๆๆๆ ไม่บังคับ แต่อยากให้อ่าน และคริสเตียนก็ไม่ใช่ศาสนา
แล้วเมื่อคื่นเรานำโบว์ชัวให้กับน้องที่ตีกคนหนี่ง เราบอกราอยากให้ อยากให้เขาอ่านจริงๆ "ตัวพี่เองไม่ได้อะไรหรอก แค่อยากให้อ่าน มันดีมากจริงๆ ให้อ่านอย่างน้อยก็ได้รู้จัก คุณค่าของตัวเองมากขี้น จะได้รุ้ว่าพระเจ้าให้มนุษย์ ให้มนุษย์ทุกคนมีคนค่า แต่มนุษย์บางคนกลับมองไม่เห็น ค่า ของตัวเอง เลยใช้ชีวิตในทางที่ผิด
ถึงต้อนนี้ไม่กลัวแล้ว ต่อให้ใครพูดอะไรก็ไม่หวั่นไว เพราะเราคิดเสมอว่า เขายังไม่รู้จักพระเจ้า ก็ไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น เราก็ยิ้มทำตัวน่ารักๆๆๆ ไม่ซีเรียส
หนูรักพระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์อยุ่กับหนูตลอด ขอบคุณที่มอบความแข่งแกร่งให้กับหนูไม่เสียใจเลยที่เกิดมาเป็นคนพิการ เพราะความพิการของหนูทำให้หนูได้รู้จักพระองค์ เพราะหนูเชื่อเสมอว่าหนูจะหายและเดินได้เหมือนคนปกติ
กลัวไหมที่จะบอกใครว่า เราเป็นคริสเตียนแล้วนะ
ครั้งแรกที่ไปโบสถ์ มีคำถามมากมาย ทำไมต้องทำแบบนั้น ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องกอดกันเวลาเจอกัน ทำต้องป่าวประกาศให้คนอื่นมาเชื่อเหมือนเรา หนีงในนั้น ทำไมต้องป่าวประกาศในเมื่อต่างก็มีที่ยีดเหนี่ยสจิตใจ 1 เดือนสำหรับการได้รับเชื่อพระองค์ แทบจะไม่คำถามอะไรเลย
เราเป็นคนหนี่งที่กลัวมากกับการที่บอก ญาติ เพื่อน คนข้างๆว่า ฉันเป็นคิดเตียนแล้ว ถามว่ากลัวอะไร กลัวโดนต่อต้าน กลัวหัวใจของเราไม่เข็มแข็ง กลัวคำต่อต้านจะทำให้ใจเราหวั่นไหว
ผ่านไป สองอาทิตย์เริ่มอีดอัดกับความกลัว อธิฐานบอกพระองค์ว่า พระบิตาเจ้าข้า เวลาลูกกลัวเหลือเกิน กลัวคำต่อต้านของคนรอบข้าง พ่อแม่พี่น้อง หรือผ่านรวมงาน ขอพระองค์เข้ามาเสริมกำลัง ขอพลังกาย พลังใจให้กับลูก ให้ลูกกล้าที่จะป่าวประกาศออกไปว่า ลูกเป็นขอพระองค์แล้ว ขออย่าได้มีใครมาต่อต้านลูกต้านลูกเลย ขอให้ทุกคนเข้าใจลูก
และให้คืนนั้นฝันว่า เราถือพระคัมภีร์ไปบอกแม่ว่า แม่ๆ ตอนนี้หนูเป็นคริสเตียนแล้วนะ เนี่ยะๆ อ่านพระคัมภีร์ทุกวันเลย
เอาว่ะตัดสินใจจะโทรหาแม่คนแรก แต่โทรหาแม่ไม่ติด โทรไม่หาน้องสาว และบอกน้องสาวเป็นคนแรก
น้องสาวบอกว่า : ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้าพี่แนนมีความสุข ก็ทำไปเหอะ (เขาก็เล่าปัญหาต่างๆที่เขาเจอเรื่องหนี่สินเงินทอง เรื่องพ่อของเรา ที่ชอบดื่มเหล้า อันนี้เป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขสำหรับเราแหละน้องจริงๆ ด้วยสังคมของคนที่ทำงานเป็นช่างกี่ง เลิกงาน กินเหล้า เล่นการพนัน โน้นนี่นั้น ทั้งลูกพี่ ลูกน้อง พอกัน คิดเเล้วมันหน้าทุกข์ใจจริงๆ ) ก็บอกกับน้องว่า แอนลองอธิฐานกันพระเจ้าดูไหม ได้แค่บอกอ่ะค่ะ ทำหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่เราก็ได้แต่อฐิธานเผื่อค่ะ
บอกพ่อ : พ่อก็เอออ ๆๆๆๆ จ๋าๆๆๆๆๆ เออออตามไปด้วย ในขณะที่เราก็ บลาๆ เรื่องพระเจ้า แต่มีคำตามจากปลายเสียงมาว่า พระเจ้าหน้าตาเป็นไงว่ะ เรื่องพ่อตอนนี้ก็อธิฐานอยู่ค่ะ เป็นห่วงสุขภาพ ผอมลงๆ TT โทรถามน้องบอก ตอนนี้พ่อไม่กินแล้ว แกงดเหล้าเข้าพรรษา เอ่ออออ.......... เฉพาะเข้าพรรษาใช่ไหม @#$%#%#%#%@#%^^&%^&$%&^%&$&
บอกแม่ : แม่ก็ถามว่าหนูเป็นไง รู้สึกดีไหม ถ้าหนูโอเค แม่ก็โอเค เราก็เลยบอกแม่ต่อว่า จำได้ไหมวันที่หนูบอกแม่ว่าหนูเริ่มเดินเองได้โดยไม่ใช่ไม้ หนูอยากหาย หนูอธิฐานกับพระเจ้าทุกวันเลย แม่ก็บอกว่า เชื่อได้แต่อย่า งมงาย คือแม่ออกแนวไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ขัด
บอกไปถังเพื่อนที่เคยร่วมงาน เขาบอกเป็นข่าวที่เขาเซอร์ไพสมาก ดีใจมากที่เราเริ่มเดินเองได้ จากที่ลองเดินดูแล้วหลายครั้ง มันก็ไม่เคยได้สักที
เพื่อนร่วมงานหลายคนรู้ว่าเราเป็น คริสเตียน เขาเห้นเราพอเดินได้ ไกลมากขี้น เราก็บอกเราเชื่อพระเจ้า แต่ก้ไม่ได้ตื่นเต้นว่าพระเจ้ามีจริงๆหรือเปล่า แค่เห็นเราเดิน เขาก็ยิ้ม หัวเราะที่เราเดิน คือมันเหมือนนกแพนกวินไง ฮาๆๆๆ
หลังเดินบอ่ยขี้น โดนแซวว่า ซ่าส์แล้วนะ เดี่ยวถ้าล้มจะกระทืบซ้ำ ฮาๆๆ แล้วก็บอกเราไม่ล้มหรอก
วันก่อนนีกถึงเพื่อนคนหนี่ง พิการเหมอืนกัน แต่เขาเดินเก่งกว่าเรานะ จะโทรหา โทรไม่ติด ว่าจะบอกข่าวสักหน่ยอ ฉันเป้นคริสเดียนแล้วเพื่อน เนี่ยะสดๆร้อน เจอเขาที่ตีกคอม ขอบคุณพระเจ้า ก็พาเข้าไปเลี้ยงข้าว เอาโบว์บัวร์ใบหนี่ง เฮ้ยยอยากให้อ่าน ต้องอ่านนะ เพื่อนบอก "มรี่งจะพากูเปลี่ยนศาสนาหรอ" ฮาๆๆๆๆ ไม่บังคับ แต่อยากให้อ่าน และคริสเตียนก็ไม่ใช่ศาสนา
แล้วเมื่อคื่นเรานำโบว์ชัวให้กับน้องที่ตีกคนหนี่ง เราบอกราอยากให้ อยากให้เขาอ่านจริงๆ "ตัวพี่เองไม่ได้อะไรหรอก แค่อยากให้อ่าน มันดีมากจริงๆ ให้อ่านอย่างน้อยก็ได้รู้จัก คุณค่าของตัวเองมากขี้น จะได้รุ้ว่าพระเจ้าให้มนุษย์ ให้มนุษย์ทุกคนมีคนค่า แต่มนุษย์บางคนกลับมองไม่เห็น ค่า ของตัวเอง เลยใช้ชีวิตในทางที่ผิด
ถึงต้อนนี้ไม่กลัวแล้ว ต่อให้ใครพูดอะไรก็ไม่หวั่นไว เพราะเราคิดเสมอว่า เขายังไม่รู้จักพระเจ้า ก็ไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น เราก็ยิ้มทำตัวน่ารักๆๆๆ ไม่ซีเรียส
หนูรักพระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์อยุ่กับหนูตลอด ขอบคุณที่มอบความแข่งแกร่งให้กับหนูไม่เสียใจเลยที่เกิดมาเป็นคนพิการ เพราะความพิการของหนูทำให้หนูได้รู้จักพระองค์ เพราะหนูเชื่อเสมอว่าหนูจะหายและเดินได้เหมือนคนปกติ