ที่จริงมันเกิดมาหลายปีแล้วค่ะ เกิดกับเพื่อนผู้ชายในชั้นเรียนของเราเอง (เราเป็นผู้หญิงห้าว ส่วนใหญ่จะเฮฮากับเพื่อนชายมากกว่าเพื่อนหญิง)
เพื่อนชายของเราคนนี้มีแฟนที่คบหากันตั้งม.ปลาย พอเรียนจบระดับอุดมศึกษา ก็แต่งงานก่อนใครในรุ่นเลย เพื่อนๆต่างชมเจ้าสาวที่ได้สามีดี เพราะเพื่อนเราคนนี้ตอนเรียน ไม่เคยวอกแวกมีเรื่องเจ้าชู้อะไรเลย (แต่พ่อแม่เค้าหย่ากัน เพราะพ่อเค้าเจ้าชู้) ก็คิดว่าชีวิตคู่คงครองรักกันไปตลอดรอดฝั่ง แม้จะแต่งงานกันแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ทำงานของใครของมันไป ภรรยาไม่ได้มาเป็นแม่บ้านตามค่านิยมแต่อย่างใด (ฝ่ายภรรยามีหน้าที่การงานดีกว่าค่ะ และกลับบ้านไม่ค่อยตรงเวลาเพราะงานมันเลิกไม่แน่นอน เป็นงานที่ทำประสานงานระหว่างประเทศ)
...แต่ที่ไหนได้ หลังแต่งงานไม่ถึงปี ฝ่ายชายทำงานรับเหมาก่อสร้าง เหมือนได้เห็นโลกมากขึ้น(สมัยเรียน มันก็วนเวียนแค่กินเหล้ากับเพื่อนฝูงในคณะ ไม่ค่อยมีเงินไปป้อสาวไหนหรอก) มีเงินเป็นของตัวเอง เจอผู้คนมากขึ้น...แล้วก็เจอผู้หญิงมากขึ้นด้วย ทำให้มันไปมีกิ๊กเป็นนักศึกษาตั้ง 3-4 คน!
แน่นอนว่าเพื่อนๆช็อก ไม่คิดว่ามันจะไปเจริญรอยตามพ่อตัวเองแบบนี้ แถมเปลี่ยนไปได้ยังไงกัน ต่างก็พากันเตือนให้มันเลิกพฤติกรรมแบบนี้ซะ อย่าไปทำให้ภรรยาเจ็บช้ำเลย
แต่มันก็ตอกกลับมาว่า "นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของตรู อย่ามายุ่ง...และห้ามไปบอกเมียตรูด้วย นี่เป็นเรื่องในครอบครัว!"
เพื่อนๆก็น้ำท่วมปากซิ เวลาเจอหน้าภรรยาเค้าทีไร ใจมันอยากพูด แต่มันพูดไม่ได้ เพราะไอ่ประโยคของเจ้าเพื่อนนี่แหละ
...แต่ความลับมันไม่มีในโลกจริงๆค่ะ วันหนึ่งเจ้าเพื่อนเราพากิ๊กนั่งรถไปติดที่สี่แยกไฟแดง...แล้วรถของคุณภรรยาก็ไปติดตรงนั้นพอดี แล้วชะตาก็ลิขิตให้คุณภรรยาหันไปเห็นรถสามีที่อยู่ข้างๆ...พร้อมกับสาวแปลกหน้าที่มาออเซาะด้วย...เท่านั้นแหละ คุณภรรยาเปิดประตูรถเดินออกมา ไปกระชากเปิดประตูรถด้านฝั่ง...
...ฝั่งสามีนะซิค่ะ แล้วชีก็ตบตีสั่งสอนสามีกลางสี่แยกเลย ส่วนกิ๊กก็เผ่นแน่บออกจากรถไปโดยพลัน!
...สองสามีภรรยาไปเคลียร์กันยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าคราวนี้เพื่อนอย่างเราก็โดนเฉ่งไปด้วย โดยเฉพาะเราที่เป็นผู้หญิงนี่โดนหนักเลยว่า...
"เธอรู้ว่าสามีฉันมีกิ๊ก แล้วทำไมไม่มาเตือนฉัน เธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับฉัน เธอปิดบังฉันก็เหมือนจงใจทำร้ายจิตใจทำร้ายหัวใจลูกผู้หญิงด้วย!"
คุณภรรยาประมาณว่า ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายก็เข้าใจอยู่ว่าเพศเดียวกันก็ต้องเข้าข้างกัน
แต่นี่เราต่างเพศ แถมเป็นเพศเดียวกับคุณภรรยา ทำไมมาร่วมหัวปิดบังกันด้วย
เรื่องนี้ทำเอาเราเฟลเลยค่ะ ไม่บอกก็ว่ารู้เห็นเป็นใจ พอบอกก็โดนว่า ส ใส่เกือก เพื่อนเราก็ปลอบว่า อย่าไปยุ่งเรื่องผัวเมียเลย...ตอนเค้าโกรธกันเค้าเห็นเราอย่างเทวดาไว้ค่อยปลอบโยน แต่พอเค้าดีกัน เราก็เป็นแค่หมาเท่านั้น...คนนั่งกันกับคนนอนด้วยกัน เค้านะฟังทางไหนล่ะ?
แต่เราก็เคยได้ยินว่า เพื่อนต้องช่วยเพื่อน เห็นเพื่อนทำผิดก็ต้องเตือนต้องช่วย ไม่ใช่ปล่อยให้เพื่อนไปทำเรื่องไม่ดีโดยไม่ห้าม
...ถ้าเป็นคุณมีเพื่อนอย่างเรา คุณจะบอกคู่ชีวิตเค้าไหมว่า ว่าสามีหรือภรรยาของเขามีกิ๊กอ่ะ...คือบางทีมันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีด้วยนะ อย่างกลุ่มผู้ชาย ทีใครมีกิ๊กล่ะเอาไปมาพูดอวดกันสนุก แต่พอเมียเพื่อนมีชู้นี่รับไม่ได้ มันหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชายกันชัดๆ ต้องบอกเพื่อนเรา ไม่ให้โดนสวมเขา
ปล. ปัจจุบันเราไม่ค่อยเจอคู่สามีภรรยาคู่นีแล้วค่ะ ห่างกันเพราะต่างคนต่างทำงานแหละ ไม่รู้ชีวิตคู่ลงเอยยังไง...แต่เป็นสัจธรรมชีวิตเลยว่า อย่าไปไว้ใจว่าก่อนแต่งจะดี หลังแต่งมันจะดีตลอด อะไรก็เกิดขึ้นได้
ถ้าเพื่อนต่างเพศไปมีกิ๊ก คุณควรจะบอกคู่ชีวิตของเขาไหม?
เพื่อนชายของเราคนนี้มีแฟนที่คบหากันตั้งม.ปลาย พอเรียนจบระดับอุดมศึกษา ก็แต่งงานก่อนใครในรุ่นเลย เพื่อนๆต่างชมเจ้าสาวที่ได้สามีดี เพราะเพื่อนเราคนนี้ตอนเรียน ไม่เคยวอกแวกมีเรื่องเจ้าชู้อะไรเลย (แต่พ่อแม่เค้าหย่ากัน เพราะพ่อเค้าเจ้าชู้) ก็คิดว่าชีวิตคู่คงครองรักกันไปตลอดรอดฝั่ง แม้จะแต่งงานกันแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ทำงานของใครของมันไป ภรรยาไม่ได้มาเป็นแม่บ้านตามค่านิยมแต่อย่างใด (ฝ่ายภรรยามีหน้าที่การงานดีกว่าค่ะ และกลับบ้านไม่ค่อยตรงเวลาเพราะงานมันเลิกไม่แน่นอน เป็นงานที่ทำประสานงานระหว่างประเทศ)
...แต่ที่ไหนได้ หลังแต่งงานไม่ถึงปี ฝ่ายชายทำงานรับเหมาก่อสร้าง เหมือนได้เห็นโลกมากขึ้น(สมัยเรียน มันก็วนเวียนแค่กินเหล้ากับเพื่อนฝูงในคณะ ไม่ค่อยมีเงินไปป้อสาวไหนหรอก) มีเงินเป็นของตัวเอง เจอผู้คนมากขึ้น...แล้วก็เจอผู้หญิงมากขึ้นด้วย ทำให้มันไปมีกิ๊กเป็นนักศึกษาตั้ง 3-4 คน!
แน่นอนว่าเพื่อนๆช็อก ไม่คิดว่ามันจะไปเจริญรอยตามพ่อตัวเองแบบนี้ แถมเปลี่ยนไปได้ยังไงกัน ต่างก็พากันเตือนให้มันเลิกพฤติกรรมแบบนี้ซะ อย่าไปทำให้ภรรยาเจ็บช้ำเลย
แต่มันก็ตอกกลับมาว่า "นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของตรู อย่ามายุ่ง...และห้ามไปบอกเมียตรูด้วย นี่เป็นเรื่องในครอบครัว!"
เพื่อนๆก็น้ำท่วมปากซิ เวลาเจอหน้าภรรยาเค้าทีไร ใจมันอยากพูด แต่มันพูดไม่ได้ เพราะไอ่ประโยคของเจ้าเพื่อนนี่แหละ
...แต่ความลับมันไม่มีในโลกจริงๆค่ะ วันหนึ่งเจ้าเพื่อนเราพากิ๊กนั่งรถไปติดที่สี่แยกไฟแดง...แล้วรถของคุณภรรยาก็ไปติดตรงนั้นพอดี แล้วชะตาก็ลิขิตให้คุณภรรยาหันไปเห็นรถสามีที่อยู่ข้างๆ...พร้อมกับสาวแปลกหน้าที่มาออเซาะด้วย...เท่านั้นแหละ คุณภรรยาเปิดประตูรถเดินออกมา ไปกระชากเปิดประตูรถด้านฝั่ง...
...ฝั่งสามีนะซิค่ะ แล้วชีก็ตบตีสั่งสอนสามีกลางสี่แยกเลย ส่วนกิ๊กก็เผ่นแน่บออกจากรถไปโดยพลัน!
...สองสามีภรรยาไปเคลียร์กันยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าคราวนี้เพื่อนอย่างเราก็โดนเฉ่งไปด้วย โดยเฉพาะเราที่เป็นผู้หญิงนี่โดนหนักเลยว่า...
"เธอรู้ว่าสามีฉันมีกิ๊ก แล้วทำไมไม่มาเตือนฉัน เธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับฉัน เธอปิดบังฉันก็เหมือนจงใจทำร้ายจิตใจทำร้ายหัวใจลูกผู้หญิงด้วย!"
คุณภรรยาประมาณว่า ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายก็เข้าใจอยู่ว่าเพศเดียวกันก็ต้องเข้าข้างกัน แต่นี่เราต่างเพศ แถมเป็นเพศเดียวกับคุณภรรยา ทำไมมาร่วมหัวปิดบังกันด้วย
เรื่องนี้ทำเอาเราเฟลเลยค่ะ ไม่บอกก็ว่ารู้เห็นเป็นใจ พอบอกก็โดนว่า ส ใส่เกือก เพื่อนเราก็ปลอบว่า อย่าไปยุ่งเรื่องผัวเมียเลย...ตอนเค้าโกรธกันเค้าเห็นเราอย่างเทวดาไว้ค่อยปลอบโยน แต่พอเค้าดีกัน เราก็เป็นแค่หมาเท่านั้น...คนนั่งกันกับคนนอนด้วยกัน เค้านะฟังทางไหนล่ะ?
แต่เราก็เคยได้ยินว่า เพื่อนต้องช่วยเพื่อน เห็นเพื่อนทำผิดก็ต้องเตือนต้องช่วย ไม่ใช่ปล่อยให้เพื่อนไปทำเรื่องไม่ดีโดยไม่ห้าม
...ถ้าเป็นคุณมีเพื่อนอย่างเรา คุณจะบอกคู่ชีวิตเค้าไหมว่า ว่าสามีหรือภรรยาของเขามีกิ๊กอ่ะ...คือบางทีมันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีด้วยนะ อย่างกลุ่มผู้ชาย ทีใครมีกิ๊กล่ะเอาไปมาพูดอวดกันสนุก แต่พอเมียเพื่อนมีชู้นี่รับไม่ได้ มันหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชายกันชัดๆ ต้องบอกเพื่อนเรา ไม่ให้โดนสวมเขา
ปล. ปัจจุบันเราไม่ค่อยเจอคู่สามีภรรยาคู่นีแล้วค่ะ ห่างกันเพราะต่างคนต่างทำงานแหละ ไม่รู้ชีวิตคู่ลงเอยยังไง...แต่เป็นสัจธรรมชีวิตเลยว่า อย่าไปไว้ใจว่าก่อนแต่งจะดี หลังแต่งมันจะดีตลอด อะไรก็เกิดขึ้นได้