ดิฉันเป็นหนี้ธนาคารอยู่จำนวน 170,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) ตอนนี้ได้รับหมายศาลให้เรียกไปพบปลายเดือนนี้
มีเรื่องอยากรบกวนถามดังนี้ค่ะ
1 เนื่องจากดิฉันตกงานมาหลายเดือน เพิ่งได้งานทำเดือนนี้ ทางบริษัทมีกฏระเบียบเรื่องการลากิจ ในระยะที่ยังไม่ผ่านโปร ถ้าดิฉันอยากจะขอเลื่อนนัดศาล สามารถเลื่อนนัดได้มั๊ยคะ และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
2 ถ้าไม่ควรเลื่อนนัด อยากถามว่าการไปศาลคดีลักษณะนี้ ดิฉันต้องเตรียมตัว เตรียมข้อมูล อะไรไปบ้าง แล้วบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีน่ากลัวมากมั๊ยคะ เนื่องจากดิฉันไม่พร้อมที่จะปรึกษาใคร ไม่อยากให้มีคนเป็นห่วง มีเครียดไปกับดิฉัน เลยไม่ได้เล่าให้ใครฟังเรื่องมีหมายศาลมาถึง ดิฉันไม่เคยไปศาลค่ะ ค่อนข้างเครียดพอสมควร อยากทราบสิ่งที่คาดว่าจะเจอในเบื้องต้นก่อน จะได้ตั้งตัวถูกค่ะ
3 หนี้ก้อนนี้เกิดจากการเปิดบริษัททำธุรกิจ หลังจากกิจการไปไม่รอด ดิฉันเลยหยุดกิจการพร้อมหนี้ก้อนโต ผ่านมาประมาณเกือบสามปีกับการทยอยใช้หนี้แต่ละเจ้า ซึ่งตอนนี้ใช้ไปได้บางส่วนแล้ว ตอนนี้เหลือหนี้ที่ค้างอยู่คือ 1)บัตรเครดิตอีก 1 ใบ 2)หนี้สินเชื่อ(ที่มีหมายศาลเรียกมา) 3)หนี้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ สำหรับหนี้ตัวที่ 3 จะหมดลงในอีก 4 เดือนข้างหน้า ทำให้ยังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ในตอนนี้ ถ้าจะขอต่อรองเริ่มชำระหนี้ต่อหลังจากที่ชำระหนี้สินเชื่อรถจักรยานยนต์จะสามารถทำได้หรือไม่
4 ถ้าสามารถเจรจาผ่อนชำระได้ ดิฉันสามารถชำระได้เดือนละประมาณ 2-3 พันบาท ศาลจะรับไว้พิจารณามั๊ยคะ เพราะถ้าเกินกว่านี้ดิฉันไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ ไม่อยากให้กลายเป็นหนี้เสียต้องมาเริ่มไกล่เกลี่ยกันใหม่อีก
5 ดิฉันมีรถยนต์ไว้ใช้งาน 1 คัน ไม่ติดภาระกับไฟแนนซ์ อยากทราบว่าธนาคารสามารถบังคับยึดทรัพย์ได้หรือไม่คะ ถ้าไม่มีรถดิฉันคงต้องหางานใหม่อีก งานที่ทำต้องใช้รถยนต์ด้วยค่ะ
6 กรณีที่มีหมายศาลเรียกมา เราไม่สามารถกลับไปเจรจากับทางธนาคารได้แล้วใช่หรือไม่คะ
7 คดีแบบนี้วันที่ไปศาลดิฉันจะได้กลับบ้าน ไม่ติดตารางใช่มั๊ยคะ ถึงแม้ว่าหากเจรจาแล้วทางธนาคารจะไม่ยอมรับข้อเสนอที่ดิฉันสามารถให้ได้ ดิฉันก็ได้กลับบ้านแน่นอนใช่มั๊ยคะ T_____T
8 มีอะไรอยากให้ดิฉันศึกษาเพิ่มเติม หรือมีคำแนะนำอื่นๆ รบกวนด้วยนะคะ
*กรณีหนี้ก้อนที่3 สินเชื่อรถจักรยานยนต์ เป็นการปรับโครงสร้างหนี้จากการที่ดิฉันได้ส่งรถคือให้บริษัท แต่ยังมีส่วนต่างที่เกินมาจากการประมูลขายมาได้ ดิฉันขอผ่อนชำระส่วนต่างเป็นงวดๆค่ะ สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน ปีนี้
*สาเหตุที่ดิฉันไม่สามารถชำระหนี้อื่นๆเพิ่มเติมในตอนนี้ได้อีกแล้ว เนื่องจากดิฉันยังมีค่าใช้จ่ายและเงินกู้นอกระบบที่ยังต้องชำระแบบขาดไม่ได้อยู่พอสมควร ทำงานที่ใหม่เงินเดือน 16,000 บาท หักทุกอย่างแล้วรวมหนี้ก้อนที่ 3 จะเหลือเงินไว้ใช้ส่วนตัวประมาณ 6,000 บาท ที่ต้องเก็บไว้ใช้จ่ายเป็นค่ากินอยู่สำหรับตัวเองและคุณแม่ และเติมแก๊สรถยนต์สำหรับไปทำงานค่ะ
ขณะพิมพ์ไปมือก็สั่น ยอมรับว่าเครียดมาก ดิฉันแต่งงานแล้ว สามีทำงานบริษัทเงินเดือน สองหมื่นกว่าบาท มีหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่างผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายน้ำ ไฟ อื่นๆในบ้าน จึงไม่มีความสามารถในการช่วยชำระหนี้ก้อนนี้ได้ค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยให้ข้อมูลด้วยนะคะ ยิ่งใกล้วันยิ่งร้อนรน กว่าจะผ่านจุดนึงในชีวิตมาได้ ทรมานมากเหลือเกิน นี่จะเป็นอีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริง
ขอบคุณมากค่ะ
รบกวนสอบถามคดีหนี้สินเชื่อธนาคารและการขอเลื่อนศาลค่ะ
มีเรื่องอยากรบกวนถามดังนี้ค่ะ
1 เนื่องจากดิฉันตกงานมาหลายเดือน เพิ่งได้งานทำเดือนนี้ ทางบริษัทมีกฏระเบียบเรื่องการลากิจ ในระยะที่ยังไม่ผ่านโปร ถ้าดิฉันอยากจะขอเลื่อนนัดศาล สามารถเลื่อนนัดได้มั๊ยคะ และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
2 ถ้าไม่ควรเลื่อนนัด อยากถามว่าการไปศาลคดีลักษณะนี้ ดิฉันต้องเตรียมตัว เตรียมข้อมูล อะไรไปบ้าง แล้วบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีน่ากลัวมากมั๊ยคะ เนื่องจากดิฉันไม่พร้อมที่จะปรึกษาใคร ไม่อยากให้มีคนเป็นห่วง มีเครียดไปกับดิฉัน เลยไม่ได้เล่าให้ใครฟังเรื่องมีหมายศาลมาถึง ดิฉันไม่เคยไปศาลค่ะ ค่อนข้างเครียดพอสมควร อยากทราบสิ่งที่คาดว่าจะเจอในเบื้องต้นก่อน จะได้ตั้งตัวถูกค่ะ
3 หนี้ก้อนนี้เกิดจากการเปิดบริษัททำธุรกิจ หลังจากกิจการไปไม่รอด ดิฉันเลยหยุดกิจการพร้อมหนี้ก้อนโต ผ่านมาประมาณเกือบสามปีกับการทยอยใช้หนี้แต่ละเจ้า ซึ่งตอนนี้ใช้ไปได้บางส่วนแล้ว ตอนนี้เหลือหนี้ที่ค้างอยู่คือ 1)บัตรเครดิตอีก 1 ใบ 2)หนี้สินเชื่อ(ที่มีหมายศาลเรียกมา) 3)หนี้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ สำหรับหนี้ตัวที่ 3 จะหมดลงในอีก 4 เดือนข้างหน้า ทำให้ยังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ในตอนนี้ ถ้าจะขอต่อรองเริ่มชำระหนี้ต่อหลังจากที่ชำระหนี้สินเชื่อรถจักรยานยนต์จะสามารถทำได้หรือไม่
4 ถ้าสามารถเจรจาผ่อนชำระได้ ดิฉันสามารถชำระได้เดือนละประมาณ 2-3 พันบาท ศาลจะรับไว้พิจารณามั๊ยคะ เพราะถ้าเกินกว่านี้ดิฉันไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ ไม่อยากให้กลายเป็นหนี้เสียต้องมาเริ่มไกล่เกลี่ยกันใหม่อีก
5 ดิฉันมีรถยนต์ไว้ใช้งาน 1 คัน ไม่ติดภาระกับไฟแนนซ์ อยากทราบว่าธนาคารสามารถบังคับยึดทรัพย์ได้หรือไม่คะ ถ้าไม่มีรถดิฉันคงต้องหางานใหม่อีก งานที่ทำต้องใช้รถยนต์ด้วยค่ะ
6 กรณีที่มีหมายศาลเรียกมา เราไม่สามารถกลับไปเจรจากับทางธนาคารได้แล้วใช่หรือไม่คะ
7 คดีแบบนี้วันที่ไปศาลดิฉันจะได้กลับบ้าน ไม่ติดตารางใช่มั๊ยคะ ถึงแม้ว่าหากเจรจาแล้วทางธนาคารจะไม่ยอมรับข้อเสนอที่ดิฉันสามารถให้ได้ ดิฉันก็ได้กลับบ้านแน่นอนใช่มั๊ยคะ T_____T
8 มีอะไรอยากให้ดิฉันศึกษาเพิ่มเติม หรือมีคำแนะนำอื่นๆ รบกวนด้วยนะคะ
*กรณีหนี้ก้อนที่3 สินเชื่อรถจักรยานยนต์ เป็นการปรับโครงสร้างหนี้จากการที่ดิฉันได้ส่งรถคือให้บริษัท แต่ยังมีส่วนต่างที่เกินมาจากการประมูลขายมาได้ ดิฉันขอผ่อนชำระส่วนต่างเป็นงวดๆค่ะ สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน ปีนี้
*สาเหตุที่ดิฉันไม่สามารถชำระหนี้อื่นๆเพิ่มเติมในตอนนี้ได้อีกแล้ว เนื่องจากดิฉันยังมีค่าใช้จ่ายและเงินกู้นอกระบบที่ยังต้องชำระแบบขาดไม่ได้อยู่พอสมควร ทำงานที่ใหม่เงินเดือน 16,000 บาท หักทุกอย่างแล้วรวมหนี้ก้อนที่ 3 จะเหลือเงินไว้ใช้ส่วนตัวประมาณ 6,000 บาท ที่ต้องเก็บไว้ใช้จ่ายเป็นค่ากินอยู่สำหรับตัวเองและคุณแม่ และเติมแก๊สรถยนต์สำหรับไปทำงานค่ะ
ขณะพิมพ์ไปมือก็สั่น ยอมรับว่าเครียดมาก ดิฉันแต่งงานแล้ว สามีทำงานบริษัทเงินเดือน สองหมื่นกว่าบาท มีหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่างผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายน้ำ ไฟ อื่นๆในบ้าน จึงไม่มีความสามารถในการช่วยชำระหนี้ก้อนนี้ได้ค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยให้ข้อมูลด้วยนะคะ ยิ่งใกล้วันยิ่งร้อนรน กว่าจะผ่านจุดนึงในชีวิตมาได้ ทรมานมากเหลือเกิน นี่จะเป็นอีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริง
ขอบคุณมากค่ะ