สวัสดีเพื่อนๆชาวโต๊ะเครื่องแป้ง... วันนี้......
เย้ยไม่ใช่!! นี่ บ่ แม่นโซเชียลแคม 55555555555555
แต่ยังไงก็ขอทักทายกันก่อนนะคะ สำหรับกระทู้นี้เมย์ก็ขอตั้งเพื่อเป็นคล้ายๆข้อแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะรับปริญญาแล้วไม่อยากจ้างช่าง อยากลองแต่งเอง ว่าใช้อะไรยังไงบ้าง ซึ่งขอแปะไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่า จริงๆแล้วการใช้เครื่องสำอางแต่ละอย่างนี่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า และสภาพอากาศที่คุณจะเจอในวันนั้น ซึ่งผิวหน้าเป็นอะไรที่ควบคุมได้ แต่อากาศนี่ค่อนข้างจะแล้วแต่ดวงนิดนึงเนอะ
สภาพหนังหน้าของดิฉันนั้น กล่าวได้ว่าเป็นพระจันทร์มันย่องดวงหนึ่ง..... นี่เรื่องจริงนะคะ เมย์เป็นคนหน้ามันมาก แถมรูขุมขนนี่อื้อหืออออออ ถ้าหนูจะลงไปนอนตายก็ยังได้ ส่วนสิวอุดตันนั้น.....จริงๆลูบไปหน้าเม็ดมากนึกว่ากระดาษทราย แต่ได้ทำการไปหาหมอสิวและกดออกช่วงก่อนจะรับปริญญาประมาณสองเดือนแล้วค่ะ พอถึงช่วงซ้อมและรับรอยแดงๆก็หายเกือบหมดแล้ว แต่ส่วนตัวแล้วเป็นคนหน้าแดงค่ะ คือไม่ได้เขินก็แดง ถ้าเขินก็แดงขึ้นอีก 555555555555
สรุปสภาพหนังหน้าคือ :: หน้ามัน รูขุมขนกว้าง รอยสิวประปราย และแดงเป็นแถบ
เครื่องสำอางทั้งหมดที่มาบอกในวันนี้คือสิ่งที่ใช้อยู่แล้ว ไม่ได้ซื้อใหม่เพื่อการรับปริญญาเลยนะคะ เพราะรู้สึกว่าโอเคกับหน้าเราแล้ว ยกเว้นแต่รองพื้นที่เป็นรุ่นใหม่ เดี๋ยวไปดูกันค่ะ
BASE MAKEUP
1. กันแดด Neutrogena Fine Fainess ตัวนี้เป็นเนื้อครีมค่ะ ทาแล้วซึมง่ายมากไม่รู้สึกเหนอะหนะ ... จริงๆแล้วตอนแรกใช้ของบิโอเรที่เป็นเอสเซนส์ด้วย แต่พอไปหาหมอสิวคุณหมอทักว่าหน้าแดงง่ายนะถ้าเปลี่ยนได้ก็ดีเพราะบิโอเรมีแอลกอฮอล ก็เลยมาใช้ตัวนี้แทนค่ะ เนื้อครีมเป็นสีขาว แต่ทาแล้วไม่วอกนะคะ
2. Benefit The Porefessional เพื่อการกลบรูขุมขนค่ะ เป็นเนื้อซิลิโคนลื่นๆ ตัวนี้ฝากญาติซื้อมาจากsephora กับเซทที่มี That Gal primer กับ stay don't stray ค่ะ ตัวนี้ถือว่าเป็นพระเอกผู้กู้ชีพของรูขุมขนเลยจริงๆค่ะ พอลงรองพื้นตามแล้วคือเนียน รองพื้นไม่เป็นจุดกองๆตามรูขุมขน ส่วนใครที่งบน้อย Loreal ก็มีไพรเมอร์เนื้อซิลิโคนนะคะ น่าจะชื่อ resurfacing อะไรซักอย่าง เป็นกระปุกกลมๆค่ะ ไปหาลองกันได้
3. Okuma concealer ค่ะ อันนี้ใช้กลบใต้ตา เป็นเนื้อครีมแต่ไม่ข้นมาก บอกไม่ถูกเหมือนกัน ใช้แล้วระหว่างวันตกร่องเล็กน้อยค่ะแต่เอาทิชชู่ซับๆก็โอเค
4. เบสเขียวของ The Face Shop อันนี้คงไม่ต้องพูดถึงแล้วมั้งคะเพราะคนพูดถึงกันมานานแล้ว เมย์เอาไว้ทาหน้าผากกับแก้มค่ะที่บอกแดงๆ
5. Revlon Colorstay รองพื้นฝาดำอันเลื่องชื่อ ตัวนี้เป็นรุ่นใหม่แล้วนะคะที่ฝาจะมี 24ชั่วโมงติดไว้ เราใช้ตั้งแต่รุ่นเก่าแล้วค่ะ รุ่นเก่าคุมมันดีกว่ามากสำหรับเรา แต่รุ่นใหม่จะแห้งช้าทำให้เกลี่ยง่ายกว่า ไม่ต้องรีบๆเกลี่ยแบบรุ่นเก่าค่ะ
POWDER
1. แป้งฝุ่น Palgantong แป้งป่าตองนั่นเองค่ะ หลังจากลงเซทด้านบทเสร็จแล้วเมย์จะใช้แป้งฝุ่นลงก่อนค่ะ ใช้กับพัฟที่มากับกระปุกเลย กดๆซับๆๆๆๆไปให้ทั่วหน้าค่ะ
2. แป้ง Revlon Photoready ลงทับแป้งฝุ่นไปค่ะ ใช้ได้ทั้งแปรงและพัฟฟองน้ำที่มากับตลับ และใช้ตัวนี้เติมระหว่างวันด้วยค่ะ แป้งดูไม่หนาโบ๊ะและสีไม่หมอง ชอบมากๆค่ะ
BLUSH & CONTOURING
1. Boots Botanics cheek colour #10 Chicory บลัชของโบทานิกส์ค่ะ อันนี้เป็นแพคเกจรุ่นเก่านะคะ สีติดอยู่ได้ซักครึ่งวันสำหรับหน้าเราค่ะ
2. Love & Beauty by Forever21 บลัชจากร้าน Forever21 ค่ะ อันนี้ซื้อที่เซนทรัลเวิลด์ แต่ตอนนี้เมคอัพไม่มีแล้วค่ะ เหมือนจะหมดเร็วมาแล้วก็ไม่เอามาอีกเลย ตัวนี้ก็ติดไม่ค่อยทนค่ะ เติมบ่อย แต่ชอบสี ออกชมพูอมส้มมีวิ้งๆสีทองเล็กน้อยค่ะ
3. Essence Bronzing compact powder Matt ตัวนี้ที่แปะสติกเกอร์ของคลีโอไว้ค่ะ สีออกจะแทนๆ ส้มๆไปหน่อยแต่ก็โอเคสำหรับหน้าเราค่ะ เอาไว้ลบเหนียงด้วย อ้วนค่ะ 555555555
EYES MAKEUP
1. Etude proof10 eye primer ถูกและดีมีอยู่จริงค่ะ เราชอบตัวนี้มากกว่า Urban Decay Primer Potion อีกค่ะ หน้ามันหนังตามันแค่ไหน ตกบ่ายไปแป้งหายแต่ตายังแน่นอยู่เลยค่ะ
2. Maybelline Hypercurl Volume express mascara ขอบอกว่า วันซ้อมและวันรับจริงเมย์ไม่ได้ติดขนตาปลอมเลยค่ะ ดัดขนตาดีๆ แล้วปัดตัวนี้ 2 รอบ มีแต่คนทักว่าขนตาปลอมดูเป็นธรรมชาติ ตัวนี้ช่วยให้ขนตายาวขึ้น แต่ความหนาไม่ค่อยเยอะนะคะ แต่ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วขนตาเรายาวอยู่แล้วด้วยส่วนหนึ่ง ปัดตัวนี้สองรอบก็ยิ่งยาวยิ่งชัดขึ้นด้วยค่ะ
3. Urban Decay Naked Palette เพื่อนตายเลยค่ะ ตั้งแต่ได้มาก็แทบไม่ได้ซื้ออายแชโดว์ใหม่อีกเลย ใช้แต่พาเลทนี้ค่ะ สลับๆสีกันไปเรื่อยๆ เม็ดสีแน่นมากๆค่ะ ยิ่งลงไพรเมอร์ก่อน ตกเย็นไปตายังแน่นอยู่เลยค่ะ
4. Lifeford eyeliner ตัวนี้ก็คงเป็น forever favorite ค่ะ คือมันไม่หายไปไหนอยู่บนหนังตาตลอด ไม่แพนด้าด้วยค่ะ รักมาก
LIPS
1. Revlon super lustrous lipstick #674 Coralberry
2. NYX soft matte lip cream #Antwerp
3. Revlon matte lipstick #003 Mauve it over
4. MAC lipstick #vivid imagination
ลิปสติกนี่เราเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ วันๆนึงทาหลายสีมาก พอจะเติมก็เช็ดดีๆแล้วเปลี่ยนสีบ้าง แต่ที่ใช้แล้วชอบที่สุดคือ ทา Revlon สี Coralberry ลงให้เต็มปากก่อน แล้วแต้ม NYX สี antwerp ตาม โดยการ แตะที่ริมฝีปากล่างเป็นจุดๆตามแนว ซัก4-5 จุด แล้วเม้มๆ แล้วค่อยๆเกลี่ยๆให้สีเท่าๆกัน แล้วเม้มลงทิชชู่เบาๆ1ครั้ง อันนี้จะอยู่ทนมากค่ะ แล้วสีที่ออกมาคือสวยถูกใจเรามาก ออกส้มๆชมพูๆบอกไม่ถูก แต่ตอนที่เข้าหอประชุมรับจริงกับสมเด็จพระเทพฯ เราทาสี mauve it over ค่ะ ให้ดูสุภาพ เพราะสีอื่นจะออกสดใส เอาไว้ทาตอนถ่ายรูปกับญาติๆและเพื่อนๆค่ะ
จบแล้วสำหรับวันนี้ ใช้อะไร อย่างไร ในการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองของเรา หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อย นิดหน่อยก็ยังดีนะคะ 555555555555555555
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า
แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง ใช้อะไร ยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ
เย้ยไม่ใช่!! นี่ บ่ แม่นโซเชียลแคม 55555555555555
แต่ยังไงก็ขอทักทายกันก่อนนะคะ สำหรับกระทู้นี้เมย์ก็ขอตั้งเพื่อเป็นคล้ายๆข้อแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะรับปริญญาแล้วไม่อยากจ้างช่าง อยากลองแต่งเอง ว่าใช้อะไรยังไงบ้าง ซึ่งขอแปะไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่า จริงๆแล้วการใช้เครื่องสำอางแต่ละอย่างนี่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า และสภาพอากาศที่คุณจะเจอในวันนั้น ซึ่งผิวหน้าเป็นอะไรที่ควบคุมได้ แต่อากาศนี่ค่อนข้างจะแล้วแต่ดวงนิดนึงเนอะ
สภาพหนังหน้าของดิฉันนั้น กล่าวได้ว่าเป็นพระจันทร์มันย่องดวงหนึ่ง..... นี่เรื่องจริงนะคะ เมย์เป็นคนหน้ามันมาก แถมรูขุมขนนี่อื้อหืออออออ ถ้าหนูจะลงไปนอนตายก็ยังได้ ส่วนสิวอุดตันนั้น.....จริงๆลูบไปหน้าเม็ดมากนึกว่ากระดาษทราย แต่ได้ทำการไปหาหมอสิวและกดออกช่วงก่อนจะรับปริญญาประมาณสองเดือนแล้วค่ะ พอถึงช่วงซ้อมและรับรอยแดงๆก็หายเกือบหมดแล้ว แต่ส่วนตัวแล้วเป็นคนหน้าแดงค่ะ คือไม่ได้เขินก็แดง ถ้าเขินก็แดงขึ้นอีก 555555555555
สรุปสภาพหนังหน้าคือ :: หน้ามัน รูขุมขนกว้าง รอยสิวประปราย และแดงเป็นแถบ
เครื่องสำอางทั้งหมดที่มาบอกในวันนี้คือสิ่งที่ใช้อยู่แล้ว ไม่ได้ซื้อใหม่เพื่อการรับปริญญาเลยนะคะ เพราะรู้สึกว่าโอเคกับหน้าเราแล้ว ยกเว้นแต่รองพื้นที่เป็นรุ่นใหม่ เดี๋ยวไปดูกันค่ะ
BASE MAKEUP
1. กันแดด Neutrogena Fine Fainess ตัวนี้เป็นเนื้อครีมค่ะ ทาแล้วซึมง่ายมากไม่รู้สึกเหนอะหนะ ... จริงๆแล้วตอนแรกใช้ของบิโอเรที่เป็นเอสเซนส์ด้วย แต่พอไปหาหมอสิวคุณหมอทักว่าหน้าแดงง่ายนะถ้าเปลี่ยนได้ก็ดีเพราะบิโอเรมีแอลกอฮอล ก็เลยมาใช้ตัวนี้แทนค่ะ เนื้อครีมเป็นสีขาว แต่ทาแล้วไม่วอกนะคะ
2. Benefit The Porefessional เพื่อการกลบรูขุมขนค่ะ เป็นเนื้อซิลิโคนลื่นๆ ตัวนี้ฝากญาติซื้อมาจากsephora กับเซทที่มี That Gal primer กับ stay don't stray ค่ะ ตัวนี้ถือว่าเป็นพระเอกผู้กู้ชีพของรูขุมขนเลยจริงๆค่ะ พอลงรองพื้นตามแล้วคือเนียน รองพื้นไม่เป็นจุดกองๆตามรูขุมขน ส่วนใครที่งบน้อย Loreal ก็มีไพรเมอร์เนื้อซิลิโคนนะคะ น่าจะชื่อ resurfacing อะไรซักอย่าง เป็นกระปุกกลมๆค่ะ ไปหาลองกันได้
3. Okuma concealer ค่ะ อันนี้ใช้กลบใต้ตา เป็นเนื้อครีมแต่ไม่ข้นมาก บอกไม่ถูกเหมือนกัน ใช้แล้วระหว่างวันตกร่องเล็กน้อยค่ะแต่เอาทิชชู่ซับๆก็โอเค
4. เบสเขียวของ The Face Shop อันนี้คงไม่ต้องพูดถึงแล้วมั้งคะเพราะคนพูดถึงกันมานานแล้ว เมย์เอาไว้ทาหน้าผากกับแก้มค่ะที่บอกแดงๆ
5. Revlon Colorstay รองพื้นฝาดำอันเลื่องชื่อ ตัวนี้เป็นรุ่นใหม่แล้วนะคะที่ฝาจะมี 24ชั่วโมงติดไว้ เราใช้ตั้งแต่รุ่นเก่าแล้วค่ะ รุ่นเก่าคุมมันดีกว่ามากสำหรับเรา แต่รุ่นใหม่จะแห้งช้าทำให้เกลี่ยง่ายกว่า ไม่ต้องรีบๆเกลี่ยแบบรุ่นเก่าค่ะ
POWDER
1. แป้งฝุ่น Palgantong แป้งป่าตองนั่นเองค่ะ หลังจากลงเซทด้านบทเสร็จแล้วเมย์จะใช้แป้งฝุ่นลงก่อนค่ะ ใช้กับพัฟที่มากับกระปุกเลย กดๆซับๆๆๆๆไปให้ทั่วหน้าค่ะ
2. แป้ง Revlon Photoready ลงทับแป้งฝุ่นไปค่ะ ใช้ได้ทั้งแปรงและพัฟฟองน้ำที่มากับตลับ และใช้ตัวนี้เติมระหว่างวันด้วยค่ะ แป้งดูไม่หนาโบ๊ะและสีไม่หมอง ชอบมากๆค่ะ
BLUSH & CONTOURING
1. Boots Botanics cheek colour #10 Chicory บลัชของโบทานิกส์ค่ะ อันนี้เป็นแพคเกจรุ่นเก่านะคะ สีติดอยู่ได้ซักครึ่งวันสำหรับหน้าเราค่ะ
2. Love & Beauty by Forever21 บลัชจากร้าน Forever21 ค่ะ อันนี้ซื้อที่เซนทรัลเวิลด์ แต่ตอนนี้เมคอัพไม่มีแล้วค่ะ เหมือนจะหมดเร็วมาแล้วก็ไม่เอามาอีกเลย ตัวนี้ก็ติดไม่ค่อยทนค่ะ เติมบ่อย แต่ชอบสี ออกชมพูอมส้มมีวิ้งๆสีทองเล็กน้อยค่ะ
3. Essence Bronzing compact powder Matt ตัวนี้ที่แปะสติกเกอร์ของคลีโอไว้ค่ะ สีออกจะแทนๆ ส้มๆไปหน่อยแต่ก็โอเคสำหรับหน้าเราค่ะ เอาไว้ลบเหนียงด้วย อ้วนค่ะ 555555555
EYES MAKEUP
1. Etude proof10 eye primer ถูกและดีมีอยู่จริงค่ะ เราชอบตัวนี้มากกว่า Urban Decay Primer Potion อีกค่ะ หน้ามันหนังตามันแค่ไหน ตกบ่ายไปแป้งหายแต่ตายังแน่นอยู่เลยค่ะ
2. Maybelline Hypercurl Volume express mascara ขอบอกว่า วันซ้อมและวันรับจริงเมย์ไม่ได้ติดขนตาปลอมเลยค่ะ ดัดขนตาดีๆ แล้วปัดตัวนี้ 2 รอบ มีแต่คนทักว่าขนตาปลอมดูเป็นธรรมชาติ ตัวนี้ช่วยให้ขนตายาวขึ้น แต่ความหนาไม่ค่อยเยอะนะคะ แต่ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วขนตาเรายาวอยู่แล้วด้วยส่วนหนึ่ง ปัดตัวนี้สองรอบก็ยิ่งยาวยิ่งชัดขึ้นด้วยค่ะ
3. Urban Decay Naked Palette เพื่อนตายเลยค่ะ ตั้งแต่ได้มาก็แทบไม่ได้ซื้ออายแชโดว์ใหม่อีกเลย ใช้แต่พาเลทนี้ค่ะ สลับๆสีกันไปเรื่อยๆ เม็ดสีแน่นมากๆค่ะ ยิ่งลงไพรเมอร์ก่อน ตกเย็นไปตายังแน่นอยู่เลยค่ะ
4. Lifeford eyeliner ตัวนี้ก็คงเป็น forever favorite ค่ะ คือมันไม่หายไปไหนอยู่บนหนังตาตลอด ไม่แพนด้าด้วยค่ะ รักมาก
LIPS
1. Revlon super lustrous lipstick #674 Coralberry
2. NYX soft matte lip cream #Antwerp
3. Revlon matte lipstick #003 Mauve it over
4. MAC lipstick #vivid imagination
ลิปสติกนี่เราเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ วันๆนึงทาหลายสีมาก พอจะเติมก็เช็ดดีๆแล้วเปลี่ยนสีบ้าง แต่ที่ใช้แล้วชอบที่สุดคือ ทา Revlon สี Coralberry ลงให้เต็มปากก่อน แล้วแต้ม NYX สี antwerp ตาม โดยการ แตะที่ริมฝีปากล่างเป็นจุดๆตามแนว ซัก4-5 จุด แล้วเม้มๆ แล้วค่อยๆเกลี่ยๆให้สีเท่าๆกัน แล้วเม้มลงทิชชู่เบาๆ1ครั้ง อันนี้จะอยู่ทนมากค่ะ แล้วสีที่ออกมาคือสวยถูกใจเรามาก ออกส้มๆชมพูๆบอกไม่ถูก แต่ตอนที่เข้าหอประชุมรับจริงกับสมเด็จพระเทพฯ เราทาสี mauve it over ค่ะ ให้ดูสุภาพ เพราะสีอื่นจะออกสดใส เอาไว้ทาตอนถ่ายรูปกับญาติๆและเพื่อนๆค่ะ
จบแล้วสำหรับวันนี้ ใช้อะไร อย่างไร ในการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองของเรา หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อย นิดหน่อยก็ยังดีนะคะ 555555555555555555
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า