คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องปลื้มที่ลูกโตขึ้นทุกวันสำหรับ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” และ “เอ๋-พรทิพย์” ที่ “น้องภูดิศ” โตวันโตคืนแถมยังจ้ำม่ำน่าฟัดสุดๆ แต่สิ่งที่คุณพ่อดูปลื้มจนออกนอกหน้าคงเป็นเพราะยิ่งนานวันลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ยิ่งหน้าถอดมาจากคุณพ่อเลยทีเดียว เมื่อได้เจอทั้งคู่ในงาน “แอมบิเพอร์ สเมลลี่ ทู สมายลี่” ณ ลาน Work & Play ชั้น 1 เซ็นทรัลพระราม 9 ก็ให้สัมภาษณ์ว่า

“ป๋อ” : ตอนนี้คิดถึงลูกครับ
“เอ๋” : อยากเอามาด้วย ที่ไม่พามาคือมีพี่เลี้ยงดูแลอยู่ค่ะ
“ป๋อ” : พอพูดถึงลูกแล้วขึ้นเลย กลับบ้านกัน(หัวเราะ)

เห็นว่าน้องเพิ่งครบ 4 เดือน
“เอ๋” : ใช่ค่ะ พอครบ 4 เดือนก็คว่ำได้เลย ตอนนี้คว่ำแล้วค่ะ
“ป๋อ” : ตอนนี้ 8 กก. จ้ำม่ำมากครับ ที่บ้านมีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่งขำมาก ตอนแรกนั่งไม่ได้เพราะตัวเล็กไป มาวันนี้ใส่ขาได้ข้างเดียวอีกข้างใส่ไม่ได้
“เอ๋” : เอาก้นออกไม่ได้เลย เป็นเก้าอี้หัดนั่ง

แบบนี้น้องไม่น้ำหนักเกินเหรอ
“เอ๋” : คือน้องเขากินนมแม่ค่ะ คุณหมอบอกไม่อันตรายอยู่แล้ว อีกอย่างเขาเป็นเด็กโครงใหญ่ด้วย ก็ไม่ต้องระวังเรื่องการกินเพราะเขากินนมแม่อย่างเดียวไม่ได้กินอย่างอื่นเลย
“ป๋อ” : คุณแม่ก็มีต้องระวังอาหารที่อาจจะทำให้แพ้นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ
“เอ๋” : ใช่ค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าน้องภูเขาแพ้อะไร คืออยู่ดีๆ ก็ผื่นขึ้น เอ๋ก็ต้องงดอาหารใน 5 กลุ่มเสี่ยง แล้วที่งดไปนี่ของที่เราชอบหมดเลย ตอนนี้แทบไม่รู้จะกินอะไรเลยค่ะ(หัวเราะ)

เห็นว่ามีคนมาแนะนำวิธีการเลี้ยงเต็มอินสตาแกรม
“เอ๋” : ใช่ค่ะ
“ป๋อ” : ก็มีทั้งภูมิปัญญาชาวบ้าน มีทั้งประสบการณ์จริง ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ คำแนะนำ แต่เราก็ต้องบอกก่อนว่าเราต้องยึดตามหลักคุณหมอของเราก่อน ส่วนเรื่องภูมิปัญญาชาวบ้านต่างๆ ถ้าทำได้เราก็จะทำครับ แสดงว่ามีแต่คนหวังดีกับน้องภู
“เอ๋” : ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบจริงๆ ว่าแพ้อะไรกำลังเทสอยู่ค่ะ เอ๋ต้องอดอาหารที่เอ๋บอกก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มทีละอย่างเพื่อดูว่าเขาแพ้อะไร
“ป๋อ” : อาจจะไม่ได้แพ้ก็ได้มั้ง
“เอ๋” : แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ คือเอ๋อดอาหารอย่างที่บอกไปแล้ว
“ป๋อ” : จริงๆ มันน่าจะเกิดจากที่เขาคันคิ้วแล้วเราก็เอาอัญชันไปทาไม่ใช่เหรอ
“เอ๋” : อ้าว อะไรหละ
“ป๋อ” : คือจริงๆ แล้วเขาคันคิ้ว เขาเกาหลายวันเลย พี่ก็เลยเอาอัญชันไปทาแล้วเขาก็เกาๆ ก็คิดว่าน่าจะมาจากยางอัญชันนี่แหละ
“เอ๋” : คุณหมอบอกไม่เกี่ยว
“ป๋อ” : อ้าว เหรอ(หัวเราะ)

เห็นแฟนๆ เริ่มทำแฟนเพจให้น้องแล้ว
“เอ๋” : เห็นมีหลายอันเลยค่ะ ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ คือแฟนๆ ในอินสตาแกรมเขาจะเห็นพัฒนาการของน้องภูในท้องจนคลอดออกมา เขาก็บอกกันว่าเหมือนเป็นลูกเป็นหลานเขาเอง เราก็ดีใจที่มีคนเอ็นดูน้องภู

ตอนนี้มีงานติดต่อมาบ้างหรือยัง
“เอ๋” : มีเยอะมากเลย
“ป๋อ” : ก็ต้องขอบคุณไว้ก่อนครับ ตอนนี้ก็มีติดต่อมาเรื่อยๆ เพราะว่าน้องเริ่มโต แต่ว่าเราจะทำเท่าที่เราทำได้ เราไม่อยากจะเอาน้องมาหาเงิน จริงๆ ก็เข้าใจว่าเป็นความรักจากหลายๆ ท่านที่อยากจะเห็นน้อง อยากถ่ายรูปน้อง อยากเจอน้อง เราก็อาจจะมีพาน้องมาออกงานบ้าง ตอนนี้ก็มีถามมาเรื่อยๆ แหละครับ เดี๋ยวรอน้องหล่อเต็มที่ก่อนพ่อก็แก่พอดี
“เอ๋” : คือตอนนี้ยังรับไม่ได้เพราะเพิ่งจะ 4 เดือน ก็กะว่าสัก 6 เดือนขึ้นไปก่อน ให้น้องรู้เรื่องกว่านี้นิดหนึ่ง เราก็ต้องดูด้วยเพราะเรากลัวเขาเหนื่อย
“ป๋อ” : คงรับไม่เยอะหรอกครับ เราพยายามจะไม่ให้เยอะมาก ก็ค่อยๆ คุยกันไปเรื่อยๆ อันไหนที่ตรงกับเราว่างพอดีถ้าไปได้เราก็ไป

จะมีถ่ายนิตยสารแบบครอบครัวไหม
“เอ๋” : รอให้น้องภูผมขึ้นก่อนดีกว่า(หัวเราะ)
“ป๋อ” : อยากให้ผมขึ้นก่อนจะได้หวีเป๋ได้ ตอนนี้แบบโดนแสงแล้วหัวเหน่งเลย

พอน้องเริ่มโตแล้วหน้าเหมือนป๋อ
“ป๋อ” : จริงเหรอ
“เอ๋” : ดีใจหละสิ แต่ผิวไม่เหมือนนะ ผิวเหมือนเอ๋
“ป๋อ” : ผมว่าเหมือนใครไม่รู้เพราะหน้าเขาเปลี่ยนทุกวัน แต่ว่าเขาอารมณ์ดีเหมือนเรานะ เจอนักข่าวแบบนี้ไม่มีร้องหรอกครับ รับรองได้

แบบนี้จะมีน้องให้น้องภูต่อหรือเปล่า
“ป๋อ” : บิ้วเขาหน่อยน้อง พี่อยากจะมีอีกสักคน
“เอ๋” : ตอนนี้ยังไม่พร้อมค่ะ ยังจำความรู้สึกแพ้ท้องอยู่เลย อีกอย่างอยากให้นมกับน้องภูเยอะๆ ด้วย คือถ้ามีปุ๊บน้ำนมก็จะไม่มี
“ป๋อ” : ของจะได้ใช้ต่อกันไปเลยไง
“เอ๋” : ใจเย็นๆ เดี๋ยวอีกปีหนึ่งก็ได้
“ป๋อ” : ก็ต้องรักคนนี้ให้ที่สุดก่อนที่เราจะไปสู่คนต่อไป เดี๋ยวเขาจะน้อยใจ
“เอ๋” : ก็ขอเวลาอีกสักพักหนึ่งก่อนค่อยมีค่ะ

แล้วแบบนี้เรายังรับละครอยู่ไหม
“เอ๋” : ตอนนี้ก็มีติดต่อมาบ้างแล้วแต่ต้องบอกก่อนว่าหุ่นเรายังไม่เข้าที่ กลัวหาเสื้อผ้าไม่ได้สงสารเขา อีกอย่างคือยังไม่อยากทิ้งภูไปไหนด้วย ก็ขอเวลาอีกสักพักหนึ่งค่ะ

มีกระแสออกมาว่าป๋อโดนถอดจากละคร “บางระจัน”
“ป๋อ” : จริงๆ แล้วก็ไม่ถึงกับถอดอะไรหรอกครับ คือผมเล่น “ทรายสีเพลิง” แต่พอดีว่ามันยังไม่ปิดกล้องก็เลยทำให้มีปัญหาเรื่องเวลา ผมเองที่พูดคุยกับพี่หน่องและทางช่องว่าจะจัดการกับปัญหาเรื่องนี้อย่างไร ก็ไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง ผมไม่สามารถทำให้เขามารอผมคนเดียวได้ก็เลยบอกพี่หน่องว่าสามารถหาคนใหม่ได้นะ แต่ทางพี่หน่องก็ยังยืนยันว่าอยากจะให้ผมเล่นอยู่ แต่พอดีว่าทางช่องก็ได้มีการพูดคุย ได้ปรึกษากันแล้วว่าเปลี่ยนเถอะ ให้ป๋อไปเล่นอีกเรื่องหนึ่งดีกว่า จะเรียกว่าได้ผลประโยชน์ที่สุดคือได้ถ่าย “บางระจัน” ด้วย แล้วละครของช่องที่จะมีผมไปเล่นด้วยคือ “สายลับ 3 มิติ” มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องใครมาแทนหรือโดนถอดอะไรหรอกครับ

คนก็เลยไปลงที่เต้ยเพราะเต้ยจะเข้ามาแทนเรา
“ป๋อ” : ก็ดีออก คือวันงานที่ไปเลี้ยงกันทางช่อง 3 ผมยังเดินไปหาเต้ยเลย ยังบอกว่าเป็นยังไงบ้างในเรื่อง “พันท้ายฯ” ขอบคุณมากที่มาช่วยเล่นให้พี่เพราะพี่ไม่มีเวลาจริงๆ เขาก็ยังยกมือไหว้สวัสดีและบอกขอบคุณอยู่เลย คือหน้าที่ของพี่ก็ต้องเป็นรุ่นพี่ที่ดีในวงการด้วยไม่ใช่ว่าใครจะดังกว่าใครอะไรแบบนี้ เรามีเพื่อนร่วมทางในวงการไปเรื่อยๆ ดีกว่า มันจะดีมากถ้า พี่จูงน้อง น้องพาพี่ไป เส้นทางนี้จะสวยงามครับ

แล้วเราไม่เสียดายเหรอ
“ป๋อ” : เสียดายสิ ต้องบอกก่อนว่า “บางระจัน” เป็นบทประพันธ์ที่ดีมาก เป็นเรื่องที่น่าเล่นที่สุดเพราะมีเรื่องราวเกี่ยวกับหัวใจของคนไทย เป็นเรื่องที่พี่ป๋ออยากเล่นมากแต่ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้าพี่ป๋อทำไม่ได้ก็ต้องบอกเขาตรงๆ พี่ป๋อไม่มีเวลา มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ของทางช่องและเชื่อว่าแฟนๆ จะเข้าใจเหมือนกัน

ก็เลยมีเรื่องใหม่มาแทน
“ป๋อ” : “สายลับ 3 มิติ” ครับ ของชลลัมพีก็ถือเป็นอีกเรื่องที่เหมาะกับพี่ป๋อ เป็นเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่รุ่นเก่าทะลุ 3 มิติเข้ามาอยู่ในยุคปัจจุบัน คือช่อง 3 ก็พยายามแคสดาราคนอื่นแล้วแต่ก็ไม่มีใครหน้าย้อนยุคเท่าพี่ สรุปว่าพี่เหมาะแต่จะเล่นกับใครนี่ยังไม่รู้กำลังหาอยู่ เขาบอกว่าเขาวางตัวพี่ก่อนคนแรกก่อน(หัวเราะ) สรุปก็น่าจะเป็นเรื่อง “สายลับ 3 มิติ” ครับ เปิดกล้อง ต.ค. นี้เรียนเชิญด้วยนะครับ

เครดิต : http://www.rakdara.net/overview.php?c=2&id=36837

สรุปว่า พี่ป๋อไม่ได้เล่นบางระจันแล้วเพราะคิวชนกับทรายสีเพลิง แต่ได้เล่น สายลับ 3 มิติ แทน เปิดกล้องช่วง ต.ค. ส่วนมาเฟียเลือดมังกรพี่ป๋อไม่ได้กล่าวถึงเลย สรุปพี่ป๋อได้เล่นซีรี่ย์มาเฟียรึป่าวหว่า