เรื่องนี้เรื่องจริงของเพื่อนสนิท จขกท ที่เกิดขึ้นจากการทะเลาะกันแล้วเดินหนี
เพื่อไม่ให้พาดพิงไปถึงคนใกล้ชิดของผู้ที่จากไป จขกท ขอไม่ระบุสถานที่ ชื่อ และวันนะคะ
สมมุติชื่อเพื่อน จขกท ผญ เป็น เอ และ แฟนเพื่อนของ จขกท ผช เป็น บี นะคะ
ทั้ง2คน คบหาดูใจกันมาช่วงเวลาหนึ่งค่ะ บีค่อนข้างจะดังเพราะเป็นคนขี้เล่น เพื่อนเยอะ สาวแยะ
แต่ตั้งแต่คบกับเอ บีก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเพราะความดี ความเอาใจใส่ของเอ
ด้วยความที่บีเอาแต่ใจตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเวลาทะเลาะบีจะชอบเดินหนีออกไปจากตรงนั้น
ถ้าอยู่ในรถบางที จอดรถเปิดประตูรถลงเดินระหว่างทางเลยก็มี
เหตุเกิดขึ้นเพราะวันหนึ่ง
ราวๆหัวค่ำเอกับบีมีปากเสียงกันตามประสาวัยรุ่นตอนปลายๆ
บีเดินออกจากบ้านค่ะ เอก็เดินตาม เดินไป คนงอลก็งอลไป คนง้อก็ง้อ เดินไปเรื่อยๆ
จนล่วงเลยออกไปนอกหมู่บ้าน เป็นถนนใหญ่ เส้นรอบเมือง ไม่มีฟุตบาท ไม่มีทางกั้นสำหรับรถเล็ก
ทางเดินที่2คนเดินไปนั้นเนื่องจากเป็นถนนรอบเมืองซึ่งไฟส่องสว่างน้อยมาก รถวิ่งค่อนข้างเร็วและไม่มีฟุตบาท
ถึงถนนค่อนข้างจะกว้างก็อันตรายอยู่ดี เพราะเส้นทางนั้นไม่เหมาะกับการเดินเท้าไม่ว่าประการใดๆทั้งปวง
บีเดินด้านนอกติดขอบถนนส่วนเอเดินด้านใน
ทันใดนั้นเอได้ยินเสียงตุ๊บ!!! และตัวเอก็กระเด็นไปข้างทางส่วนบีนั้นกระเด็นไปเป็นเมตรจากการปะทะจากรถคันนึง
รถคันนั้นวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอตั้งสติได้รีบวิ่งไปดูบี กรีดร้องด้วยความตกใจเพราะเลือดเต็มไปหมด
เนื่องจากแถวนั้นเป็นแหล่งชุมชนเล็กๆ จึงมีคนมามุงจำนวนหนึ่ง มีการโทรตามมูลนิธิและรถโรงพยาบาล
ระหว่างรอบีหายใจรวยริน เอบอกบีว่าเข็มแข็งนะ อยู่กับเอก่อน เอรักบีมาก
บีพยายามพยักหน้าและปากขยับคล้ายๆจะพูดว่าครับๆ
เลือดไหลเต็มชุดเอเต็มไปหมด เลือดไหลจากปาก จากหัว จากตัวของบีจนบีหมดลมหายใจ
เอรอรถของโรงพยาบาลไม่ไหว ก็ได้แต่โบกรถคันที่วิ่งผ่าน ขอร้องให้คนแถวนั้นพาบีไปส่ง รพ ที แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วย
เอไม่มีสติแล้ว....เอกรีดร้อง โวยวาย และคุยไม่รู้เรื่อง
รถมูลนิธิและรถโรงพยาบาลมาช่วยปั้มหัวใจบี แต่บีไม่อยู่กับเอแล้ว ...
มูลนิธิเอาร่างไร้วิญญาณของบีไป ส่วนเอต้องไปกับรถของโรงพยาบาลเพราะเอไม่มีสติแล้ว
เอโดนมัดไว้กับเตียง โดนฉีดยาให้สงบลง หมอบอกว่าต้องย้ายไป รพ ที่ใหญ่กว่า เพราะมีจิตแพทย์และอุปกรณ์มากกว่า
พ่อกับแม่เอมาถึง รพ ภายใน 1 ชั่วโมง ถึงเอจะไม่สามารถเล่าแบบละเอียดได้แต่ก็สามารถจับใจความได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เอต้องพบจิตแพทย์ แทนที่จะได้ไปร่วมงานศพตั้งแต่วันแรก
เอบินกลับเมืองนอกหลังงานศพเพราะเธอไม่สามารถจะทนเห็นสภาพแวดล้อมเดิมๆได้
ถ้าเราโกรธกัน เราไม่อยากคุยกัน ดราไม่อยากเห็นหน้ากัน เราแค่เดินไปมุมเงียบๆแทนการเดินหนีไปไกลๆได้มั้ย?
จขกท ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของบี
และขอแชร์เรื่องนี้ให้เป็นวิทยาทานแก่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาและได้อ่านเรื่องราวนี้นะคะ
เรื่องนี้เกิดจากเรื่องจริงของเพื่อนสนิทของ จขกท ไม่ใช่การแต่งเรื่อง(ขออนุญาติก่อนนำมาเล่าแล้ว)
เข้าใจว่ามีหลายความเห็นไม่เห็นด้วยแต่ จขกท ได้ทำการชี้แจงไว้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ไม่ได้เหมารวมว่าจะต้องเกิดขึ้นเสมอไป
เพียงแค่อยากให้เราใช้สติ และอย่าให้อารมณ์ชั่ววูบนำพาเราไปในที่ที่ไม่ควรจะไปเลยค่ะ
**มีการเพิ่ม/แก้ไข ข้อความบางส่วน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดของผู้อ่านค่ะ
อุทาหรณ์ของการทะเลาะกันแล้วเดินหนี + RIPแก่ผู้ที่จากไป
เพื่อไม่ให้พาดพิงไปถึงคนใกล้ชิดของผู้ที่จากไป จขกท ขอไม่ระบุสถานที่ ชื่อ และวันนะคะ
สมมุติชื่อเพื่อน จขกท ผญ เป็น เอ และ แฟนเพื่อนของ จขกท ผช เป็น บี นะคะ
ทั้ง2คน คบหาดูใจกันมาช่วงเวลาหนึ่งค่ะ บีค่อนข้างจะดังเพราะเป็นคนขี้เล่น เพื่อนเยอะ สาวแยะ
แต่ตั้งแต่คบกับเอ บีก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเพราะความดี ความเอาใจใส่ของเอ
ด้วยความที่บีเอาแต่ใจตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเวลาทะเลาะบีจะชอบเดินหนีออกไปจากตรงนั้น
ถ้าอยู่ในรถบางที จอดรถเปิดประตูรถลงเดินระหว่างทางเลยก็มี
เหตุเกิดขึ้นเพราะวันหนึ่ง
ราวๆหัวค่ำเอกับบีมีปากเสียงกันตามประสาวัยรุ่นตอนปลายๆ
บีเดินออกจากบ้านค่ะ เอก็เดินตาม เดินไป คนงอลก็งอลไป คนง้อก็ง้อ เดินไปเรื่อยๆ
จนล่วงเลยออกไปนอกหมู่บ้าน เป็นถนนใหญ่ เส้นรอบเมือง ไม่มีฟุตบาท ไม่มีทางกั้นสำหรับรถเล็ก
ทางเดินที่2คนเดินไปนั้นเนื่องจากเป็นถนนรอบเมืองซึ่งไฟส่องสว่างน้อยมาก รถวิ่งค่อนข้างเร็วและไม่มีฟุตบาท
ถึงถนนค่อนข้างจะกว้างก็อันตรายอยู่ดี เพราะเส้นทางนั้นไม่เหมาะกับการเดินเท้าไม่ว่าประการใดๆทั้งปวง
บีเดินด้านนอกติดขอบถนนส่วนเอเดินด้านใน
ทันใดนั้นเอได้ยินเสียงตุ๊บ!!! และตัวเอก็กระเด็นไปข้างทางส่วนบีนั้นกระเด็นไปเป็นเมตรจากการปะทะจากรถคันนึง
รถคันนั้นวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอตั้งสติได้รีบวิ่งไปดูบี กรีดร้องด้วยความตกใจเพราะเลือดเต็มไปหมด
เนื่องจากแถวนั้นเป็นแหล่งชุมชนเล็กๆ จึงมีคนมามุงจำนวนหนึ่ง มีการโทรตามมูลนิธิและรถโรงพยาบาล
ระหว่างรอบีหายใจรวยริน เอบอกบีว่าเข็มแข็งนะ อยู่กับเอก่อน เอรักบีมาก
บีพยายามพยักหน้าและปากขยับคล้ายๆจะพูดว่าครับๆ
เลือดไหลเต็มชุดเอเต็มไปหมด เลือดไหลจากปาก จากหัว จากตัวของบีจนบีหมดลมหายใจ
เอรอรถของโรงพยาบาลไม่ไหว ก็ได้แต่โบกรถคันที่วิ่งผ่าน ขอร้องให้คนแถวนั้นพาบีไปส่ง รพ ที แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วย
เอไม่มีสติแล้ว....เอกรีดร้อง โวยวาย และคุยไม่รู้เรื่อง
รถมูลนิธิและรถโรงพยาบาลมาช่วยปั้มหัวใจบี แต่บีไม่อยู่กับเอแล้ว ...
มูลนิธิเอาร่างไร้วิญญาณของบีไป ส่วนเอต้องไปกับรถของโรงพยาบาลเพราะเอไม่มีสติแล้ว
เอโดนมัดไว้กับเตียง โดนฉีดยาให้สงบลง หมอบอกว่าต้องย้ายไป รพ ที่ใหญ่กว่า เพราะมีจิตแพทย์และอุปกรณ์มากกว่า
พ่อกับแม่เอมาถึง รพ ภายใน 1 ชั่วโมง ถึงเอจะไม่สามารถเล่าแบบละเอียดได้แต่ก็สามารถจับใจความได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เอต้องพบจิตแพทย์ แทนที่จะได้ไปร่วมงานศพตั้งแต่วันแรก
เอบินกลับเมืองนอกหลังงานศพเพราะเธอไม่สามารถจะทนเห็นสภาพแวดล้อมเดิมๆได้
ถ้าเราโกรธกัน เราไม่อยากคุยกัน ดราไม่อยากเห็นหน้ากัน เราแค่เดินไปมุมเงียบๆแทนการเดินหนีไปไกลๆได้มั้ย?
จขกท ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของบี
และขอแชร์เรื่องนี้ให้เป็นวิทยาทานแก่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาและได้อ่านเรื่องราวนี้นะคะ
เรื่องนี้เกิดจากเรื่องจริงของเพื่อนสนิทของ จขกท ไม่ใช่การแต่งเรื่อง(ขออนุญาติก่อนนำมาเล่าแล้ว)
เข้าใจว่ามีหลายความเห็นไม่เห็นด้วยแต่ จขกท ได้ทำการชี้แจงไว้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ไม่ได้เหมารวมว่าจะต้องเกิดขึ้นเสมอไป
เพียงแค่อยากให้เราใช้สติ และอย่าให้อารมณ์ชั่ววูบนำพาเราไปในที่ที่ไม่ควรจะไปเลยค่ะ
**มีการเพิ่ม/แก้ไข ข้อความบางส่วน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดของผู้อ่านค่ะ