เห็นหลายๆคนบ่นว่าโฆษณาใน HORMONES เยอะไป ก็เลยคิดว่าควรจะรู้ข้อมูลตรงส่วนนี้ไว้บ้างค่ะ
ว่าจริงๆแล้ว ที่เห็นโฆษณาเยอะๆแบบนั้น ก็ยังไม่คุ้มทุนอยู่ดี
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ว่า SEASON 2 จะมีจริงไหม ?
และถึงมีจริงๆ ก็จะได้มาออกอากาศที่ช่องนี้อีกหรือเปล่า ??
ถึงซีรีส์จะดัง แต่ไม่มีรายได้ที่มากมาย ก็น่าห่วงอยู่นะคะ
แต่จะยังไงก็แล้วแต่ ส่วนตัวแล้วเราก็ลุ้นให้มีซีซั่น 2 ค่ะ สู้ๆนะคะทีมงาน ^_^
สูตรสร้างรายได้ ซีรีส์ “ฮอร์โมน”
ซีรีส์ มาแรงขนาดนี้ โมเดลการหารายได้ค่าโฆษณาของ “ฮอร์โมน” ซีรีส์ที่กำลังดังกระฉูดในขณะนี้ แม้ว่าล่าสุดจะมีกรณีที่มีภาพของนักแสดงสาว “ปัน ปัน” ที่มีภาพหลุดเสพย์ยาไอซ์ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ยิ่งทำให้ความดังของซีรีส์ฮอร์โมนพุ่งแรง
ที่น่าสนใจ ฮอร์โมน จะหารายได้จากใช้ Multi Chanel ออกอากาศ สื่อทีวีดาวเทียม และสื่อออนไลน์ Youtube สร้าง “สูตรหารายได้”ช่องทางเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน
“ยูทูบ” สร้างโมเดล “โฆษณา”ใหม่ได้จริงหรือ ?
สุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดช่องจีเอ็มเอ็ม วัน บอกกับ Positioning ว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นซีรีส์ดัง ที่ได้รับความสนใจจากเจ้าของแบรนด์สินค้าและเอเยนซี่โฆษณา จนเวลาโฆษณาเต็มตลอดทุกช่องทาง ทั้งบนช่อง “จีเอ็มเอ็ม วัน” ที่ออกอากาศบนทีวีดาวเทียม รวมถึงบนสื่อสังคมออนไลน์ Youtube แล้วก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับต้นทุนค่าผลิต ที่ต้องจ่ายให้กับทางจีทีเอชเฉลี่ยตอนละกว่า 1 ล้านบาท ออกอากาศทั้งหมด 13 ตอน และเมื่อนำรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก จีเอ็มเอ็ม วัน ต้องควักงบลงทุนรวม 20 ล้านบาท โดยรายได้จากโฆษณา ก็ยังไม่คุ้มกับต้นทุนที่ต้องจ่ายไป
รายได้โฆษณาของฮอร์โมนจะมาจาก 3 ช่องทาง คือ ช่องทางแรก คือ รายได้โฆษณาในช่อง “จีเอ็มเอ็ม วัน” รับชมทีวี ใช้เวลาออกอากาศประมาณ 1 ชั่วโมง เนื้อหา 45 นาที ช่วงเวลาโฆษณา 10 นาที ในซีรีส์นี้จะคิดค่าโฆษณาอัตราเฉลี่ย 3,000 - 4,000 บาทต่อนาที เท่ากับว่าจะมีรายได้โฆษณาเฉลี่ยต่อตอน 40,000 บาท
“การออกอากาศในช่องดาวเทียม เราจะเบรกเป็นช่วงๆ โฆษณา เฉลี่ยแต่ละเบรค จะรองรับโฆษณาได้ 2 ตัว แต่ละตอนจะรองรับโฆษณาสินค้าได้ 20 ตัว ยิ่งโฆษณาเยอะ เราก็ต้องคำนึงถึงเนื้อหาเป็นหลัก การเข้าเบรกจะต้องไม่ทำให้เนื้อหาสะดุด ”
ส่วนการตัดเข้าโฆษณา ย้งอธิบายว่า ในช่วงหลังโฆษณาเพิ่มมากขึ้น การตัดต่อทำได้ยาก แต่เขาจะยึดเนื้อหาเป็นหลัก ไม่ให้โฆษณาไปรบกวนอารมณ์คนดู
ช่องทางที่สอง รายได้ “สปอนเซอร์” หรือ การไทร์อิน สินค้าลงในเรือง โดยซีรีส์นี้ ซึ่ง มีมอเตอร์ไซค์ “ฮอนด้า” เพียงยี่ห้อเดียว สุรพล บอกแค่ว่า ได้รายได้ “หลายแสนบาท แต่บอกตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้” ซึ่งฮอนด้านั้นเคยเป็นสปอนเซอร์ใหกับภาพยนตร์ “ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น” ที่ผลงานการกำกับของ “ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่เคยฝากผลงานในหนัง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น และท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน เนื่องจากผลงานของจีทีเอชก็โดนใจวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า เมื่อมาถึงซีรีส์นี้ไม่ต้องพรีเซนต์มากฮอนด้าตอบตกลงทันที ส่วนสินค้าอื่นๆ ขอเวลาดูผลงานของซีรีส์แรกไปก่อน
เรื่องนี้ ย้ง บอกว่า จีทีเอช ไม่ปฏิเสธการไทน์อินสินค้า และที่ผ่านมา “จีทีเอช” มีประสบการณ์กับการ “ไทน์อิน”สินค้า โดยสินค้าควรต้องเข้ามาในช่วงที่กำลังคิดบท หรือทำเนื้อหา เพื่อจะกลมกลืนไปกับเนื้อหา คนดูไม่รู้สึกสะดุด ที่ผ่านมามีสินค้าหลายตัวที่ต้องปฏิเสธไป หากไม่เข้ากับบท จนลูกค้าก็บ่นว่าหยิง แต่ถ้าเข้าได้จะไม่ปฏิเสธ
อ่านต่อได้ที่ >>
http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=96720
ภาพประกอบบางส่วน
รายได้ค่าโฆษณาในซีรีส์ HORMONES วัยว้าวุ่น
ว่าจริงๆแล้ว ที่เห็นโฆษณาเยอะๆแบบนั้น ก็ยังไม่คุ้มทุนอยู่ดี
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ว่า SEASON 2 จะมีจริงไหม ?
และถึงมีจริงๆ ก็จะได้มาออกอากาศที่ช่องนี้อีกหรือเปล่า ??
ถึงซีรีส์จะดัง แต่ไม่มีรายได้ที่มากมาย ก็น่าห่วงอยู่นะคะ
แต่จะยังไงก็แล้วแต่ ส่วนตัวแล้วเราก็ลุ้นให้มีซีซั่น 2 ค่ะ สู้ๆนะคะทีมงาน ^_^
สูตรสร้างรายได้ ซีรีส์ “ฮอร์โมน”
ซีรีส์ มาแรงขนาดนี้ โมเดลการหารายได้ค่าโฆษณาของ “ฮอร์โมน” ซีรีส์ที่กำลังดังกระฉูดในขณะนี้ แม้ว่าล่าสุดจะมีกรณีที่มีภาพของนักแสดงสาว “ปัน ปัน” ที่มีภาพหลุดเสพย์ยาไอซ์ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ยิ่งทำให้ความดังของซีรีส์ฮอร์โมนพุ่งแรง
ที่น่าสนใจ ฮอร์โมน จะหารายได้จากใช้ Multi Chanel ออกอากาศ สื่อทีวีดาวเทียม และสื่อออนไลน์ Youtube สร้าง “สูตรหารายได้”ช่องทางเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน
“ยูทูบ” สร้างโมเดล “โฆษณา”ใหม่ได้จริงหรือ ?
สุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดช่องจีเอ็มเอ็ม วัน บอกกับ Positioning ว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นซีรีส์ดัง ที่ได้รับความสนใจจากเจ้าของแบรนด์สินค้าและเอเยนซี่โฆษณา จนเวลาโฆษณาเต็มตลอดทุกช่องทาง ทั้งบนช่อง “จีเอ็มเอ็ม วัน” ที่ออกอากาศบนทีวีดาวเทียม รวมถึงบนสื่อสังคมออนไลน์ Youtube แล้วก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับต้นทุนค่าผลิต ที่ต้องจ่ายให้กับทางจีทีเอชเฉลี่ยตอนละกว่า 1 ล้านบาท ออกอากาศทั้งหมด 13 ตอน และเมื่อนำรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก จีเอ็มเอ็ม วัน ต้องควักงบลงทุนรวม 20 ล้านบาท โดยรายได้จากโฆษณา ก็ยังไม่คุ้มกับต้นทุนที่ต้องจ่ายไป
รายได้โฆษณาของฮอร์โมนจะมาจาก 3 ช่องทาง คือ ช่องทางแรก คือ รายได้โฆษณาในช่อง “จีเอ็มเอ็ม วัน” รับชมทีวี ใช้เวลาออกอากาศประมาณ 1 ชั่วโมง เนื้อหา 45 นาที ช่วงเวลาโฆษณา 10 นาที ในซีรีส์นี้จะคิดค่าโฆษณาอัตราเฉลี่ย 3,000 - 4,000 บาทต่อนาที เท่ากับว่าจะมีรายได้โฆษณาเฉลี่ยต่อตอน 40,000 บาท
“การออกอากาศในช่องดาวเทียม เราจะเบรกเป็นช่วงๆ โฆษณา เฉลี่ยแต่ละเบรค จะรองรับโฆษณาได้ 2 ตัว แต่ละตอนจะรองรับโฆษณาสินค้าได้ 20 ตัว ยิ่งโฆษณาเยอะ เราก็ต้องคำนึงถึงเนื้อหาเป็นหลัก การเข้าเบรกจะต้องไม่ทำให้เนื้อหาสะดุด ”
ส่วนการตัดเข้าโฆษณา ย้งอธิบายว่า ในช่วงหลังโฆษณาเพิ่มมากขึ้น การตัดต่อทำได้ยาก แต่เขาจะยึดเนื้อหาเป็นหลัก ไม่ให้โฆษณาไปรบกวนอารมณ์คนดู
ช่องทางที่สอง รายได้ “สปอนเซอร์” หรือ การไทร์อิน สินค้าลงในเรือง โดยซีรีส์นี้ ซึ่ง มีมอเตอร์ไซค์ “ฮอนด้า” เพียงยี่ห้อเดียว สุรพล บอกแค่ว่า ได้รายได้ “หลายแสนบาท แต่บอกตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้” ซึ่งฮอนด้านั้นเคยเป็นสปอนเซอร์ใหกับภาพยนตร์ “ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น” ที่ผลงานการกำกับของ “ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่เคยฝากผลงานในหนัง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น และท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน เนื่องจากผลงานของจีทีเอชก็โดนใจวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า เมื่อมาถึงซีรีส์นี้ไม่ต้องพรีเซนต์มากฮอนด้าตอบตกลงทันที ส่วนสินค้าอื่นๆ ขอเวลาดูผลงานของซีรีส์แรกไปก่อน
เรื่องนี้ ย้ง บอกว่า จีทีเอช ไม่ปฏิเสธการไทน์อินสินค้า และที่ผ่านมา “จีทีเอช” มีประสบการณ์กับการ “ไทน์อิน”สินค้า โดยสินค้าควรต้องเข้ามาในช่วงที่กำลังคิดบท หรือทำเนื้อหา เพื่อจะกลมกลืนไปกับเนื้อหา คนดูไม่รู้สึกสะดุด ที่ผ่านมามีสินค้าหลายตัวที่ต้องปฏิเสธไป หากไม่เข้ากับบท จนลูกค้าก็บ่นว่าหยิง แต่ถ้าเข้าได้จะไม่ปฏิเสธ
อ่านต่อได้ที่ >> http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=96720
ภาพประกอบบางส่วน