ลูกสาวเพิ่งเข้า อ .1 ค่ะ ตอนนี้ 3.6 ขวบ ที่บ้านแม่กะยายพูดเก่ง พ่อคุยไม่เก่ง ลูกสาวอยู่บ้านพูดเก่งมาก กับญาติๆที่นานๆเจอกันทีก็พอปรับตัวได้ซักแป๊บก็จ้อเลย แต่ที่โรงเรียนน้องปรับตัวนานมากค่ะ ไปมาสองเดือนถึงจะเพิ่งยอมเล่นกับเพื่อน กับคุณครูก็เขียนมาว่าน้องยังเขินอาย เวลาเรียกตอบคำถามไม่ตอบแต่เวลาคุณครูถามแบบทั่วๆไปเค้าจะตอบเสียงเบาๆอยู่ในกลุ่ม ยิ่งกับครูฝรั่งนี่เป็นหนัก (ที่ห้องเรียนมีครูไทยสาม ครูฝรั่งหนึ่งอยู่ด้วยกันทั้งวัน) คอมเม้นจากครูฝรั่งบอกลูกเราขี้อายมากไม่พูดไม่สบตา ครูทักก็ทำเฉย ทำให้ครูประเมินอะไรเค้าไม่ได้เลย แถมอีกสัปดาห์ต่อมาคอมเม้นมาว่าลูกอยู่ในโลกส่วนตัวคนเดียว แม่กังวลมากจริงๆค่ะ แต่ถามว่าลูกเป็นตลอดมั้ย ไม่ค่ะ คือในแต่ละสัปดาห์น้องค่อนข้างมีพัฒนาการด้านสังคมมากขึ้น แต่ก็เป็นไปทีละน้อย เรื่องภาษาอังกฤษตอนแรกคิดว่าน้องฟังทีเชอร์ไม่เข้าใจก็เลยลองหัดภาษาอังกฤษให้ลูก โชคดีที่ลูกสาวเหมือนจะหัวไวคุยกับเค้าแค่สองสัปดาห์ลูกก็ตอบรับภาษากับแม่ได้ (ไม่เยอะแต่เค้าไม่ต่อต้าน และมีท่าทีว่าสนใจมากด้วยค่ะ) ส่วนด้านการเรียนคุณครูบอกน้องตั้งใจเรียนและมีสมาธิดีมากไม่ค่อยวอกแวก ตรงนี้จึงไม่ห่วง ห่วงก็แต่ตรงทักษะด้านสังคมของน้องนี่ล่ะค่ะ พอไปเปิดดูในเน็ตเห็นว่ามีภาวะ selective mutism ด้วย แม่ยิ่งกังวลหนักเข้าไปอีก
เพื่อนๆของลูกจะมีบางคนซึ่งในห้องก็มีไม่กี่คนที่จะเงียบๆเหมือนลูกสาว ส่วนมากจะร่าเริงสังเกตุตอนไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียน เราก็พยายามคิดว่าในห้องของลูกเรา เด็กกว่าครึ่งเค้าอยู่เนอสมาเป็นปีๆก่อนเข้า อ.1 จึงมีพัฒนาการด้านสังคมที่ดีกว่าเด็กที่อยูแต่บ้าน บ้านเราอยู่ใน กทม ค่ะ แถวบ้านมีเด็กวัยใกล้ๆกันอยู่สองสามคน แต่เค้าไปเนอสกันหมด มีแต่ลูกเราที่อยู่บ้าน
กลุ้มมากค่ะเฮ้อ
ลูกเหมือนจะขี้อายค่ะ
เพื่อนๆของลูกจะมีบางคนซึ่งในห้องก็มีไม่กี่คนที่จะเงียบๆเหมือนลูกสาว ส่วนมากจะร่าเริงสังเกตุตอนไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียน เราก็พยายามคิดว่าในห้องของลูกเรา เด็กกว่าครึ่งเค้าอยู่เนอสมาเป็นปีๆก่อนเข้า อ.1 จึงมีพัฒนาการด้านสังคมที่ดีกว่าเด็กที่อยูแต่บ้าน บ้านเราอยู่ใน กทม ค่ะ แถวบ้านมีเด็กวัยใกล้ๆกันอยู่สองสามคน แต่เค้าไปเนอสกันหมด มีแต่ลูกเราที่อยู่บ้าน
กลุ้มมากค่ะเฮ้อ