อะแฮ่มๆ ก่อนอื่นขอสวัสดีก่อนนะคะ ^^
ขอพท.ในการเวิ่นนิดหนึ่งค่ะ 555555
เพราะกระทู้นี้เป็นการให้สัญญากับตัวเองไว้ตอนที่กลับมาจากอินโดใหม่ๆค่ะ ว่าต้องกลับมารีวิวให้ได้
แต่จนแล้วจนรอด ก็มีงานด่วน งานราษฎร์เข้ามาไม่หยุดหย่อน
แถมตอนนี้เพิ่งสอบเสร็จ โล่งค่ะ เลยต้องมารีวิวสักหน่อย
และตอนนี้เบลอมากค่ะ เพิ่งเขียน Part1 เสร็จไปเอง เพิ่งรู้ว่ารูปและตารางคือแน่นมาก
ตอนไปนี่ไม่รู้เลย เดินเล่น ชิลอย่างเดิว 555555
ซึ่งก็ถือเป็นประสบการณ์ที่อยากจะแชร์ ให้คนทั่วไปที่ไม่ค่อยทราบว่าอินโดเป็นยังไง
บ้านเมืองแบบไหน อาหารคล้ายๆบ้านเรารึเปล่า ได้ทราบกัน ไหนๆก็จะร่วมอาเซียนแล้วนิเนอะ
เอาล่ะ เริ่มกันเลย
เท้าความก่อนว่า ทริปนี้ เป็นเหมือนคอร์สแลกเปลี่ยนสั้นๆ 2 สัปดาห์ ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล กับ Gadja Mada ของอินโดนีเซีย ชื่อโปรแกรมก็คือ
ASEAN Mobility Program 2013 with Gadja Mada University, Yogyakarta Indonesia 21 April – 5 May 2013 (หอบค่ะ ยาวเมิ๊กกกก) โดยจะมีส่วนที่เป็นเลกเชอร์ ซึ่งจะมีอาจารย์ของทางGadjaMadaมาสอนให้ ก็จะเรียนรู้เกี่ยวกับ สังคม ประเพณี วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่จะเข้าร่วมกับไทยเป็นประชาคมอาเซียนนี้ และส่วนที่เป็นเหมือนการไปดูบ้านเมือง วัดวาอาราม สุเหร่า ตลาด รวมไปถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนอินโดนีเซียจริงๆ
ซึ่งฟาถือว่าเป็น 2 สัปดาห์ที่คุ้มมาก คุ้มเกินคุ้ม เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมีเพื่อนๆ พี่ๆรวมถึงอาจารย์ที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ 22 ชีวิต และทุกคนน่ารักมากๆ นิสัยดี คอยดูแลกันตลอด แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกันมาก่อนเลย แต่เราก็สนิทกัน เท้าท์มอยกันเหมือนรู้จักมาเป็นชาติล่ะ (เว่อร์ 55555555)
ปล.1ทริปนี้เป็นเหมือนไดอารี่และรูปภาพมากกว่าการรีวิวนะคะ
ปล.2มีคำหยาบบ้าง อุทานบ้าง บวกกับความเว่อร์ของตัวฟาเอง 5555555555 ถ้าผิดพลาด หรือไม่ถูกใจใครขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^
ปล.3รูปก็จะมีจากกล้องไอโฟน(กากๆของตัวเอง) แล้วก็รูปที่ไปจิ๊กชาวบ้านที่เขาพกกล้องโปรไป อย่างพี่กานต์พี่วิเทศสุดสวย พี่อั๋นเภสัชหนุุ่มสุดหล่อ? พี่นัทนายกสโมร แล้วก็เจ้แนทพยบาลสุดซ่า 55555555 ขอกราบเป็นนางสาวไทยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ก่อนอื่น เงินค่ะเงิน เงินเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้น ไปแลกเงินเพื่อช๊อปปิ้งกันเถอะชาวเรา โดยฟาไปแลกที่ วสุตรงบีทีเอสนานา ให้เรทดีมากกกกโดยสกุลเงินอินโดคือรูเปีย การคำนวณเป็นเงินอินโดก็ง่ายๆ เช่น ของราครา 100,000Rp ก็ตัดศูนย์ออก 3 ตัว คูณ 3.2 คือ 100x3.2 = 320 บาทไทยนั่นเอง ง่ายเฟ่อร์
เอาหล่ะ เวิ่นเวอเรื่องเงินจบไป เรามาเดินทางกันได้แล้ว 555555555
โดยชาวคณะครั้งนี้เราจะเดินทางด้วยสายการบิน Garuda Indonesia เป็นสายการบินประจำชาติของอินโด โดยเราจะเปลี่ยนเครื่องที่จาการ์ต้า แล้วบินต่อไปยังยอร์คยาร์การ์ต้าค่ะ
เครื่องออกราวๆ 6.30 นัดเจอกันที่สุวรรณภูมิ 4.30
มาถึงสนามบินพอได้ตั๋ว แล้วก็ไปซื้อกาแฟสตาร์บัคมาถือเป็นพร๊อบๆเก๋ๆ กินเสร็จแล้วค่อยเดินไปดูดิวตี้ฟรี เน้นว่าดูนะ 55555555555555 ดิวตี้ฟรีบ้าอะไร แพงเงิบค่ะ =_=
หกโมงเช้า ก็เรียกขึ้นเครื่อง ได้ที่นั่งชิดริมหน้าต่างเสียด้วย อยากจูบคนจองจริงๆ *ว่าแต่เขาคือใคร*
นั่งไม่ทันไร แอร์ก็เสิร์ฟน้ำผลไม้เย็นๆ
อาหารเช้าบนเครื่อง เป็นออมเล็ด(จืดๆ)กับขนมปัง และน้ำส้มไร้อารมณ์ =_=
มาถึงจาการ์ต้าผ่านตม.มาแบบชิลๆ ไม่ถาม ไม่อะไร แค่ส่งสายตาแปปเดียว ปั้มผ่านเลย 5555
ทีนี้ต้องต่อเครื่องจากจาร์กาต้าไปยอร์กยากาต้าค่ะ
ต้องนั่งรถมาเบียดกับผู้คนชาวอินโดมาขึ้นเครื่อง เก๋เฟ่อร์
สวัสดีค่ะ แบรนเอมบาสเดอร์คนใหม่ค่ะ ผิดเถอะ 55555555555
ของว่างบนเครื่อง ขนมปังใส้เนื้อ!! อิฉันไม่ทานเนื้อเลยได้แต่เล็มตรงขอบ
มาถึงโรงแรมของทางมหาวิทยาลัย นี่ตรงล๊อบบี้ สีสันสดใส บาดตาสุดๆ
อันนี้คือเตียงนอน จะบอกว่าลืมถ่ายทั้งห้องมา 55555555
สภาพห้องโอเคเลยนะคะ กว้าง สะอาดสะอ้านดีค่ะ
มาถึงก็จัดของเก็บของ อาบน้ำนอนเลยทีเดียว เหนื่อยมั่กๆ
จากนั้นทุ่มหนึ่ง เขาก็เลี้ยงข้าวชาวคณะที่ล๊อบบี้นี่แหละ อาหารก็โอเค คือหิวโซ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา
เอาเป็นว่าไปวันที่ 2 กันเถอะ =_=
ตื่นมาก็กินข้าวที่ห้องอาหารแบบอาการสะลึมสะลือ เสร็จก็นั่งรถไปมหาลัย แปปเดียวค่ะไม่ทันได้งีบ สัก 3 นาทีก็ถึง
อันนี้ห้องที่ฟาเรียน เลยชักภาพที่่ระทึกสักหน่อย
ข้าวกล่องค่ะ พูดเลยว่าเก๋เฟ่อร์!! มันเป็นกล่องจริงๆด้วย
เมืองไทยนี่ข้าวโฟมเถอะย่ะ ไม่เห็นจะกล่องตรงไหน =_=
เปิดออกมา หน้าตาก็จะแบบนี้ อร่อยดีนะคะ คนที่นี่ไม่นิยมเผ็ดสักเท่าไหร่
ออกไปทางหวานๆ มากกว่า แถมกินข้าวกับข้าวเกรียบทุกมื้อ
กินจนตัวฟายังติดกลับมาไทยยังต้องถามหาข้าวเกรียบ 55555
เมื่อเรียนเสร็จ ทานข้าวเสร็จ ก็จะมีการทัวร์รอบมหาลัย โดยพาหนะคือ....ขาสองข้างของเรานี่แหละค่ะ
เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน คุณลองนึกดู เดินในสภาพอากาศอุณหภูมิเกือบ 40 องศา ตัวแทบเหลว TT__TT
ร้อนมากกกกก พูดเลย เดินเข้าไปได้ไงไม่รู้ 555555555555555
JACK เป็นไกด์ให้เราค่ะ พูดอังกฤษนะคะ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง 55555555 แต่ก็ขอบใจในความพยายามมากนะจ่ะJack
สำเนียงอินโดยากจะเข้าใจจริงๆ XD
ตรงนี้เป็นมุมที่คิดว่าสวยสุดหล่ะสำหรับเรา คือร่มรืน มีต้นไม่สองข้าง
เดินๆอยู่นึกว่าเกาหลี โรแมนติกเกิ๊นนนนน แต่อากาศไม่ได้นะ ร่างเหลว
ตกกลางคืนเพื่อนชาวอินโดก็พาคณะเราไปทานอาหารอินโดกัน คือไม่รู้ว่าคิดผิดคิดถูกนะที่พาชาวเราไป 5555555
โดยร้านที่พาไปก็มีส่วนที่เป็นห้องใหญ่มากๆ สำหรับคนที่มากันเป็นกรุ๊ปเช่นคณะเรา แถมเสียงดังจนเขาต้องเดินมาปิดประตูอะ 555555555 เม้าท์กระจายค่า
ถ่ายมาไม่เยอะ มัวแต่เมาท์ไปกินไป อ้อออ ใช้มือจกกินกันด้วยนะฮ้าาาา เริ่ดเฟ่อออออ
เขาบอกเป็นวัฒนธรรมของที่นี่หล่ะ (คล้ายๆมาเลย์เลย)
ส่วนวันที่ 3-4 ก็ไม่มีอะไรมาก คือเรียนแล้วก็เข้ากลุ่มทำGroup Research กันทุกวัน งั้นขอข้ามไปละกัน (พูดง่ายๆว่าขี้เกียจ 55555555)
วันที่ 5 ก็จะเป็นการเที่ยวทั้งวัน ดังนั้น รูปจะเยอะหน่อยนะจ๊ะ
เริ่มต้นวันด้วยการไปพิพิธภัณฑ์ของลุง Affandi แกถือเป็นศิลปินที่โด่งดังมากในอินโดนีเซีย อาร์ทมากขอบอก มองเผินๆนี่นึกว่าไอน์สไตน์ 555555
ภายในพิพิธภัณฑ์ค่ะ หลากสีสันละลายตาสุดๆ *O*
ขอประชันกับรูปปั้นหน่อย *กล้าเนาะ* แค่สัดส่วนขาก็แพ้ราบละคะ 555555
ที่ต่อไปคือพิพิธภัณฑ์ Kekayon ซึ่งที่นี่คล้ายๆกับสุเหร่าและมีพิพิธภัณฑ์อยู่ในนั้นค่ะ
ซึ่งด้านในก็จะมี "ยาวัง" เป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวชวา พอแพร่ขยายเข้ามาบ้านเราก็กลายร่างเป็น "หนังตะลุง" ที่เราๆคุ้ยเคยกันดี จากการที่ไปดู ไปสัมผัสมา ยาวังสวยมากค่ะ คืองานดูปรานีต และมีสีสัน มากกว่าหนังตะลุงที่มีแต่สีดำ (ซึ่งแอบไม่เข้าใจว่าจะลงสีไปทำไมในเมื่อสุดท้ายก็เอาผ้าขึง แล้วไฟส่อง ขาวดำอยู่ดี 5555555)
สวยดีอะ ชอบ หน้าคม จมูกงุ้มๆเป็นอินตะระเดีย *O*
ชักภาพอีกสักภาพกับเพื่อนๆ พี่ๆร่วมทริป XD'
ชักภาพเสร็จก็อย่ารีรอ ขึ้นรถไปปรัมบานันทันทีค่ะ ที่ชวาเขาจะเรียกว่า จันดีปรัมบานัน
คำว่าจันดี บ้านเราก็คงเจดีย์ละมั้งค่ะ ระหว่างนั้นก็แอบงีบหลับบนรถค่ะ อากาศอินโดฮอทยิ่งกว่าซิกแพคแทคยอนอีกค่ะ จุดนี้
แล้วพอเราไปถึงปรัมบานันเนี้ย ก็จะมีผ้า คล้ายๆผ้าโสร่งผืนเล็กๆ เอาไว้เหน็บค่ะ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายต้องเหน็บไว้ทุกคนค่ะ
ลายสวยดีนะ เห็นละอยากได้ *O*
ปล. 2 ไม่เข้าใจว่าผู้ชายจะจิกเท้าทำไมย่ะ 5555555
พอเข้าไปถึงตัวปราสาทตรงกลาง ก็เป็นที่น่าเสียดายนิดหน่อย ตรงที่เขากำลังปิดปรับปรุงอยู่
เพราะว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว แล้วทำให้บางส่วนของปราสาทมีการทรุดตัวลง
เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงต้องให้ใส่หมวกด้วยประการฉะนี้แล
ภาพเลยออกมาดูเหมือนกลุ่มวิศวกรไปดูไซส์งานยังไงยังงั้น แต่ก็เป็นฟีลลิ่งดีๆไปอีกแบบนะฮ้า 55555
สวยไหม? สวยเนาะ ปราสาทด้านหลังอะสวยเนาะ 5555555
โปรดมองข้ามสิ่งมีชีวิต เตี้ยๆ สั้นๆ กลมๆ ตรงกลางไปนะคะ
ชักภาพด้วยท่าบังคับของทุกทริป
JUMP! JUMP!
สวยเนาะ *คิดถึงจัง* U_U
เสร็จภารกิจ ก็ไปทานข้าว เดินดูนั่นโน่น นี่ ก็ถึงเวลาที่ฟารอคอยค่ะ นั่นก็คือ "รามายณะ" นั่นเอง
ฟาอยากดูมากๆค่ะ เพราะถือว่าเราได้รับอิทธิพลมาจากชวาอยู่ไม่น้อย ในด้านวรรณกรรม และการร่ายรำในสมัยยุคแรกๆที่เรารับเอาฮินดูและพรามณ์เข้ามา (ตอนที่เรายังไม่มีแบบแผนในการรำชัดเจนแบบปัจจุบัน)
แอบถ่ายมาได้ไม่เยอะ แฮะๆ
ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าสนุกมากกกก ชอบมากกกก คือดนตรีแนวๆอินโดๆ ที่มีกลินความเป็นภารตะนิดๆเนี้ย มันมีเสน่ห์ไปอีกแบบ เนื้อเรื่องก็เหมือนกัน คือดูแล้วเข้าใจได้ แถมคนที่เล่นในแต่ละบทนี่ก็หน้าตาได้อยู่นะ อย่างพระลักษณ์ ก็หล่อเฟี้ยวมาเลย (ไม่อยากบอกว่าแอบไปถ่ายรูปคู่มาด้วย 55555) แต่เสียดายตรงที่พอเขาเปลี่ยนวัฒนธรรมเป็นอิสลาม แถมโดนดัตช์เข้ามายึดอีก ทำให้ศิลปะ วัฒนธรรมไม่ค่อยได้รับการพัฒนาสักเท่าไหร่ เหมือนหยุดเวลาไว้เมื่อหลายร้อยปีที่แล้วยังไงยังงั้นเลย
ขอจบ PART 1 ไว้ตรงนี้ก่อนนะค้า PARTต่อไปนี่เยอะอยู่ค่ะ เพราะฟาจะไปบูโรพุธโธ หรือ โบโรบูดูร์ แบบชวาแอกเซ้น 55555
อ้อ พิมพ์ผิดๆ ถูกๆ ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ พอดีตอนนี้ก็ดึกมากกกก สมองเลยเบลอชั่วขณะ
ปล.ไม่คิดว่ารูปจะใหญ่ขนาดนี้
ทนๆดูกันไปขำๆนะคะ แฮะๆ >< ฝันดีค้า
[Review] กิน เที่ยว วิ่งเล่น ใน Yogyakarta Indonesia 21 April – 5 May 2013 PART 1
อะแฮ่มๆ ก่อนอื่นขอสวัสดีก่อนนะคะ ^^
ขอพท.ในการเวิ่นนิดหนึ่งค่ะ 555555
เพราะกระทู้นี้เป็นการให้สัญญากับตัวเองไว้ตอนที่กลับมาจากอินโดใหม่ๆค่ะ ว่าต้องกลับมารีวิวให้ได้
แต่จนแล้วจนรอด ก็มีงานด่วน งานราษฎร์เข้ามาไม่หยุดหย่อน
แถมตอนนี้เพิ่งสอบเสร็จ โล่งค่ะ เลยต้องมารีวิวสักหน่อย
และตอนนี้เบลอมากค่ะ เพิ่งเขียน Part1 เสร็จไปเอง เพิ่งรู้ว่ารูปและตารางคือแน่นมาก
ตอนไปนี่ไม่รู้เลย เดินเล่น ชิลอย่างเดิว 555555
ซึ่งก็ถือเป็นประสบการณ์ที่อยากจะแชร์ ให้คนทั่วไปที่ไม่ค่อยทราบว่าอินโดเป็นยังไง
บ้านเมืองแบบไหน อาหารคล้ายๆบ้านเรารึเปล่า ได้ทราบกัน ไหนๆก็จะร่วมอาเซียนแล้วนิเนอะ
เอาล่ะ เริ่มกันเลย
เท้าความก่อนว่า ทริปนี้ เป็นเหมือนคอร์สแลกเปลี่ยนสั้นๆ 2 สัปดาห์ ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล กับ Gadja Mada ของอินโดนีเซีย ชื่อโปรแกรมก็คือ ASEAN Mobility Program 2013 with Gadja Mada University, Yogyakarta Indonesia 21 April – 5 May 2013 (หอบค่ะ ยาวเมิ๊กกกก) โดยจะมีส่วนที่เป็นเลกเชอร์ ซึ่งจะมีอาจารย์ของทางGadjaMadaมาสอนให้ ก็จะเรียนรู้เกี่ยวกับ สังคม ประเพณี วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่จะเข้าร่วมกับไทยเป็นประชาคมอาเซียนนี้ และส่วนที่เป็นเหมือนการไปดูบ้านเมือง วัดวาอาราม สุเหร่า ตลาด รวมไปถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนอินโดนีเซียจริงๆ
ซึ่งฟาถือว่าเป็น 2 สัปดาห์ที่คุ้มมาก คุ้มเกินคุ้ม เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมีเพื่อนๆ พี่ๆรวมถึงอาจารย์ที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ 22 ชีวิต และทุกคนน่ารักมากๆ นิสัยดี คอยดูแลกันตลอด แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกันมาก่อนเลย แต่เราก็สนิทกัน เท้าท์มอยกันเหมือนรู้จักมาเป็นชาติล่ะ (เว่อร์ 55555555)
ปล.1ทริปนี้เป็นเหมือนไดอารี่และรูปภาพมากกว่าการรีวิวนะคะ
ปล.2มีคำหยาบบ้าง อุทานบ้าง บวกกับความเว่อร์ของตัวฟาเอง 5555555555 ถ้าผิดพลาด หรือไม่ถูกใจใครขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^
ปล.3รูปก็จะมีจากกล้องไอโฟน(กากๆของตัวเอง) แล้วก็รูปที่ไปจิ๊กชาวบ้านที่เขาพกกล้องโปรไป อย่างพี่กานต์พี่วิเทศสุดสวย พี่อั๋นเภสัชหนุุ่มสุดหล่อ? พี่นัทนายกสโมร แล้วก็เจ้แนทพยบาลสุดซ่า 55555555 ขอกราบเป็นนางสาวไทยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ก่อนอื่น เงินค่ะเงิน เงินเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้น ไปแลกเงินเพื่อช๊อปปิ้งกันเถอะชาวเรา โดยฟาไปแลกที่ วสุตรงบีทีเอสนานา ให้เรทดีมากกกกโดยสกุลเงินอินโดคือรูเปีย การคำนวณเป็นเงินอินโดก็ง่ายๆ เช่น ของราครา 100,000Rp ก็ตัดศูนย์ออก 3 ตัว คูณ 3.2 คือ 100x3.2 = 320 บาทไทยนั่นเอง ง่ายเฟ่อร์
เอาหล่ะ เวิ่นเวอเรื่องเงินจบไป เรามาเดินทางกันได้แล้ว 555555555
โดยชาวคณะครั้งนี้เราจะเดินทางด้วยสายการบิน Garuda Indonesia เป็นสายการบินประจำชาติของอินโด โดยเราจะเปลี่ยนเครื่องที่จาการ์ต้า แล้วบินต่อไปยังยอร์คยาร์การ์ต้าค่ะ
เครื่องออกราวๆ 6.30 นัดเจอกันที่สุวรรณภูมิ 4.30
มาถึงสนามบินพอได้ตั๋ว แล้วก็ไปซื้อกาแฟสตาร์บัคมาถือเป็นพร๊อบๆเก๋ๆ กินเสร็จแล้วค่อยเดินไปดูดิวตี้ฟรี เน้นว่าดูนะ 55555555555555 ดิวตี้ฟรีบ้าอะไร แพงเงิบค่ะ =_=
หกโมงเช้า ก็เรียกขึ้นเครื่อง ได้ที่นั่งชิดริมหน้าต่างเสียด้วย อยากจูบคนจองจริงๆ *ว่าแต่เขาคือใคร*
นั่งไม่ทันไร แอร์ก็เสิร์ฟน้ำผลไม้เย็นๆ
อาหารเช้าบนเครื่อง เป็นออมเล็ด(จืดๆ)กับขนมปัง และน้ำส้มไร้อารมณ์ =_=
มาถึงจาการ์ต้าผ่านตม.มาแบบชิลๆ ไม่ถาม ไม่อะไร แค่ส่งสายตาแปปเดียว ปั้มผ่านเลย 5555
ทีนี้ต้องต่อเครื่องจากจาร์กาต้าไปยอร์กยากาต้าค่ะ
ต้องนั่งรถมาเบียดกับผู้คนชาวอินโดมาขึ้นเครื่อง เก๋เฟ่อร์
สวัสดีค่ะ แบรนเอมบาสเดอร์คนใหม่ค่ะ ผิดเถอะ 55555555555
ของว่างบนเครื่อง ขนมปังใส้เนื้อ!! อิฉันไม่ทานเนื้อเลยได้แต่เล็มตรงขอบ
มาถึงโรงแรมของทางมหาวิทยาลัย นี่ตรงล๊อบบี้ สีสันสดใส บาดตาสุดๆ
อันนี้คือเตียงนอน จะบอกว่าลืมถ่ายทั้งห้องมา 55555555
สภาพห้องโอเคเลยนะคะ กว้าง สะอาดสะอ้านดีค่ะ
มาถึงก็จัดของเก็บของ อาบน้ำนอนเลยทีเดียว เหนื่อยมั่กๆ
จากนั้นทุ่มหนึ่ง เขาก็เลี้ยงข้าวชาวคณะที่ล๊อบบี้นี่แหละ อาหารก็โอเค คือหิวโซ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา
เอาเป็นว่าไปวันที่ 2 กันเถอะ =_=
ตื่นมาก็กินข้าวที่ห้องอาหารแบบอาการสะลึมสะลือ เสร็จก็นั่งรถไปมหาลัย แปปเดียวค่ะไม่ทันได้งีบ สัก 3 นาทีก็ถึง
อันนี้ห้องที่ฟาเรียน เลยชักภาพที่่ระทึกสักหน่อย
ข้าวกล่องค่ะ พูดเลยว่าเก๋เฟ่อร์!! มันเป็นกล่องจริงๆด้วย
เมืองไทยนี่ข้าวโฟมเถอะย่ะ ไม่เห็นจะกล่องตรงไหน =_=
เปิดออกมา หน้าตาก็จะแบบนี้ อร่อยดีนะคะ คนที่นี่ไม่นิยมเผ็ดสักเท่าไหร่
ออกไปทางหวานๆ มากกว่า แถมกินข้าวกับข้าวเกรียบทุกมื้อ
กินจนตัวฟายังติดกลับมาไทยยังต้องถามหาข้าวเกรียบ 55555
เมื่อเรียนเสร็จ ทานข้าวเสร็จ ก็จะมีการทัวร์รอบมหาลัย โดยพาหนะคือ....ขาสองข้างของเรานี่แหละค่ะ
เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน คุณลองนึกดู เดินในสภาพอากาศอุณหภูมิเกือบ 40 องศา ตัวแทบเหลว TT__TT
ร้อนมากกกกก พูดเลย เดินเข้าไปได้ไงไม่รู้ 555555555555555
JACK เป็นไกด์ให้เราค่ะ พูดอังกฤษนะคะ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง 55555555 แต่ก็ขอบใจในความพยายามมากนะจ่ะJack
สำเนียงอินโดยากจะเข้าใจจริงๆ XD
ตรงนี้เป็นมุมที่คิดว่าสวยสุดหล่ะสำหรับเรา คือร่มรืน มีต้นไม่สองข้าง
เดินๆอยู่นึกว่าเกาหลี โรแมนติกเกิ๊นนนนน แต่อากาศไม่ได้นะ ร่างเหลว
ตกกลางคืนเพื่อนชาวอินโดก็พาคณะเราไปทานอาหารอินโดกัน คือไม่รู้ว่าคิดผิดคิดถูกนะที่พาชาวเราไป 5555555
โดยร้านที่พาไปก็มีส่วนที่เป็นห้องใหญ่มากๆ สำหรับคนที่มากันเป็นกรุ๊ปเช่นคณะเรา แถมเสียงดังจนเขาต้องเดินมาปิดประตูอะ 555555555 เม้าท์กระจายค่า
ถ่ายมาไม่เยอะ มัวแต่เมาท์ไปกินไป อ้อออ ใช้มือจกกินกันด้วยนะฮ้าาาา เริ่ดเฟ่อออออ
เขาบอกเป็นวัฒนธรรมของที่นี่หล่ะ (คล้ายๆมาเลย์เลย)
ส่วนวันที่ 3-4 ก็ไม่มีอะไรมาก คือเรียนแล้วก็เข้ากลุ่มทำGroup Research กันทุกวัน งั้นขอข้ามไปละกัน (พูดง่ายๆว่าขี้เกียจ 55555555)
วันที่ 5 ก็จะเป็นการเที่ยวทั้งวัน ดังนั้น รูปจะเยอะหน่อยนะจ๊ะ
เริ่มต้นวันด้วยการไปพิพิธภัณฑ์ของลุง Affandi แกถือเป็นศิลปินที่โด่งดังมากในอินโดนีเซีย อาร์ทมากขอบอก มองเผินๆนี่นึกว่าไอน์สไตน์ 555555
ภายในพิพิธภัณฑ์ค่ะ หลากสีสันละลายตาสุดๆ *O*
ขอประชันกับรูปปั้นหน่อย *กล้าเนาะ* แค่สัดส่วนขาก็แพ้ราบละคะ 555555
ที่ต่อไปคือพิพิธภัณฑ์ Kekayon ซึ่งที่นี่คล้ายๆกับสุเหร่าและมีพิพิธภัณฑ์อยู่ในนั้นค่ะ
ซึ่งด้านในก็จะมี "ยาวัง" เป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวชวา พอแพร่ขยายเข้ามาบ้านเราก็กลายร่างเป็น "หนังตะลุง" ที่เราๆคุ้ยเคยกันดี จากการที่ไปดู ไปสัมผัสมา ยาวังสวยมากค่ะ คืองานดูปรานีต และมีสีสัน มากกว่าหนังตะลุงที่มีแต่สีดำ (ซึ่งแอบไม่เข้าใจว่าจะลงสีไปทำไมในเมื่อสุดท้ายก็เอาผ้าขึง แล้วไฟส่อง ขาวดำอยู่ดี 5555555)
สวยดีอะ ชอบ หน้าคม จมูกงุ้มๆเป็นอินตะระเดีย *O*
ชักภาพอีกสักภาพกับเพื่อนๆ พี่ๆร่วมทริป XD'
ชักภาพเสร็จก็อย่ารีรอ ขึ้นรถไปปรัมบานันทันทีค่ะ ที่ชวาเขาจะเรียกว่า จันดีปรัมบานัน
คำว่าจันดี บ้านเราก็คงเจดีย์ละมั้งค่ะ ระหว่างนั้นก็แอบงีบหลับบนรถค่ะ อากาศอินโดฮอทยิ่งกว่าซิกแพคแทคยอนอีกค่ะ จุดนี้
แล้วพอเราไปถึงปรัมบานันเนี้ย ก็จะมีผ้า คล้ายๆผ้าโสร่งผืนเล็กๆ เอาไว้เหน็บค่ะ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายต้องเหน็บไว้ทุกคนค่ะ
ลายสวยดีนะ เห็นละอยากได้ *O*
ปล. 2 ไม่เข้าใจว่าผู้ชายจะจิกเท้าทำไมย่ะ 5555555
พอเข้าไปถึงตัวปราสาทตรงกลาง ก็เป็นที่น่าเสียดายนิดหน่อย ตรงที่เขากำลังปิดปรับปรุงอยู่
เพราะว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว แล้วทำให้บางส่วนของปราสาทมีการทรุดตัวลง
เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงต้องให้ใส่หมวกด้วยประการฉะนี้แล
ภาพเลยออกมาดูเหมือนกลุ่มวิศวกรไปดูไซส์งานยังไงยังงั้น แต่ก็เป็นฟีลลิ่งดีๆไปอีกแบบนะฮ้า 55555
สวยไหม? สวยเนาะ ปราสาทด้านหลังอะสวยเนาะ 5555555
โปรดมองข้ามสิ่งมีชีวิต เตี้ยๆ สั้นๆ กลมๆ ตรงกลางไปนะคะ
ชักภาพด้วยท่าบังคับของทุกทริป
JUMP! JUMP!
สวยเนาะ *คิดถึงจัง* U_U
เสร็จภารกิจ ก็ไปทานข้าว เดินดูนั่นโน่น นี่ ก็ถึงเวลาที่ฟารอคอยค่ะ นั่นก็คือ "รามายณะ" นั่นเอง
ฟาอยากดูมากๆค่ะ เพราะถือว่าเราได้รับอิทธิพลมาจากชวาอยู่ไม่น้อย ในด้านวรรณกรรม และการร่ายรำในสมัยยุคแรกๆที่เรารับเอาฮินดูและพรามณ์เข้ามา (ตอนที่เรายังไม่มีแบบแผนในการรำชัดเจนแบบปัจจุบัน)
แอบถ่ายมาได้ไม่เยอะ แฮะๆ
ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าสนุกมากกกก ชอบมากกกก คือดนตรีแนวๆอินโดๆ ที่มีกลินความเป็นภารตะนิดๆเนี้ย มันมีเสน่ห์ไปอีกแบบ เนื้อเรื่องก็เหมือนกัน คือดูแล้วเข้าใจได้ แถมคนที่เล่นในแต่ละบทนี่ก็หน้าตาได้อยู่นะ อย่างพระลักษณ์ ก็หล่อเฟี้ยวมาเลย (ไม่อยากบอกว่าแอบไปถ่ายรูปคู่มาด้วย 55555) แต่เสียดายตรงที่พอเขาเปลี่ยนวัฒนธรรมเป็นอิสลาม แถมโดนดัตช์เข้ามายึดอีก ทำให้ศิลปะ วัฒนธรรมไม่ค่อยได้รับการพัฒนาสักเท่าไหร่ เหมือนหยุดเวลาไว้เมื่อหลายร้อยปีที่แล้วยังไงยังงั้นเลย
ขอจบ PART 1 ไว้ตรงนี้ก่อนนะค้า PARTต่อไปนี่เยอะอยู่ค่ะ เพราะฟาจะไปบูโรพุธโธ หรือ โบโรบูดูร์ แบบชวาแอกเซ้น 55555
อ้อ พิมพ์ผิดๆ ถูกๆ ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ พอดีตอนนี้ก็ดึกมากกกก สมองเลยเบลอชั่วขณะ
ปล.ไม่คิดว่ารูปจะใหญ่ขนาดนี้
ทนๆดูกันไปขำๆนะคะ แฮะๆ >< ฝันดีค้า