คือเราบริจาคเลือดไปประมาณ 10 ครั้ง แล้วน่ะค่ะ แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร พึ่งจะมามีปัญหา ช่วง 2-3 ครั้งหลังๆ คือพอบริจาคเสร็จ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีอาการวิงเวียน หน้ามืด อะไรเลย ปกติทุกอย่าง แต่พอหลังจากนั้นประมาณ 20-30 นาที เราก็เริ่มมีอาการหน้ามืด แล้วก็เป็นลมไปเลยอ่ะค่ะ บางครั้งโชคดี ยังอยู่ในโรงพยาบาลยังพอจะหาที่นั่งได้ แต่ครั้งล่าสุด เราเดินไปรอรถเมล์ ช่วงที่เดินไปก็ปกติดีนะค่ะ แต่พอถึงป้ายรถเมล์เท่านั้นแหละ วู้บไปเลย แย่มาก ดีที่คนแถวนั้นเค้าช่วยพาไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ แล้วก็ล้มอีกทีตอนจะขึ้นรถเมล์ พอขึ้นรถได้เท่านั้นแหละ สลบเป็นตายเลย รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบถึงบ้านแล้ว แล้วก็ได้แผลที่หัวเข่ามาด้วย เราเลยอยากรู้ว่า

-อาการที่เราเป็นมันเป็นอาการปกติหรือเปล่า แล้วเราจะแก้ไขยังไงดีค่ะ เพราะเราก็ยังอยากที่จะบริจาคเลือดต่อไป
-ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันมั้ย คือเวลาที่เราอยู่ในที่ๆอากาศเย้นมากๆ อย่างในห้องแอร์ หรือในห้าง ตัวเราจะเป็นจ้ำๆเหมือนกับเลือดมันมารวมตัวกัน (เราเข้าใจอย่างนั้น) แล้วนิ้วเราจะออกม่วงๆ แล้วที่โรงพยาบาลที่เราไปบริจาค ที่เริ่มจะเป็นลมน่ะค่ะ ในห้องบริจาค เปิดแอร์เย็นมาก แล้วเลือดเราก็ไหลช้าด้วย ผิดกับที่แรกๆที่เราไปบริจาค ห้องบริจาคจะเป็นห้องธรรมดาอากาศไม่ได้เย็นมาก
-สุดท้าย อาจจะไม่เกี่ยวกันเท่าไร ตอนที่เรานอนโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือ เกือบทุกครั้งเราจะมีอาการข้อบวม หรือว่าปวดตามแขนด้านที่เราเจาะสายน้ำเกลือ พอเราบอกพยาบาล เค้าก็ดูแล้วก็เจาะให้ใหม่ เค้าก็บอกว่าเส้นเลือดมันแตก ทำให้น้ำเกลือที่ใส่เข้าไปไม่ได้เข้าที่เส้นเลือด อะไรประมาณเนี้ยอะค่ะ และอย่างตอนที่เราบริจาคเลือด เราต้องโดนเจาะอย่างน้อยสองครั้ง ถ้าโชคดีก็ครั้งเดียว หมอบอว่าเส้นมันดิ้นได้ เราก็ขำๆเลยอยากรู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วจะอันตรายหรือเปล่า

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ