ช่วงนี้ตั้งแต่ข่าวดาราสาวเสพย์ยาก็มีท่านหนึ่งออกมาบอกว่า White Line เป็นเรื่องดี มาวันนี้เห็นข่าวน้ำมันรั่วหลายข่าว แล้วพบว่ามีการออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวตื่นตระหนก ทุกอย่างแก้ได้ จัดการได้ภายใน 3 วัน แต่แล้วก็อย่างที่ทุกท่านคงเห็นในภาพข่าว
"มันเป็นของธรรมชาติ" "จัดการได้"
โดยผู้ให้สัมภาษณ์ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมถึง
1. การใช้สารเคมีในกรณีที่ทะเลไม่ลึก จะเป็นปัญหาในระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอย่างไร และหากเป็นเช่นนั้นจะมีวิธีแก้ไขฟื้นฟูอย่างไร
2. จะมีการชดใช้ให้กับผู้ที่จะเสียหายในระยะยาว (5 - 10 ปีขึ้นไป) อย่างไร
3. แผนการจัดเก็บคราบน้ำมันที่เป็นรูปธรรมและทำได้จริง (ไม่ใช่บอกว่า 3 วันจัดการได้) สมมุติ 3 วันจัดการได้แค่ผิวหน้า แล้วในทะเลจะเป็นอย่างไร
ในขณะเดียวกันคนกลุ่มหนึ่งก็ออกมาบอกว่า ควรให้กำลังใจคนทำงาน
ถูกค่ะ ควรให้กำลังใจคนทำงาน เหมือนกรณีคนที่ไปลงพื้นที่จริงๆ ที่โรงไฟฟ้าฟุคุชิม่า
แต่เราควรจะต้องเรียกร้องค่าเสียหาย จากความประมาทที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ (อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดแต่ถ้าเกิดผู้ที่ทำต้องรับผิดชอบ) ด้วยการจ่ายค่าเสียหาย การจัดการฟื้นฟู การอธิบายให้กับสังคม ซึ่งคนทำทั้งหมดนี้ คือคนที่นั่งเก้าอี้สั่งการ และออกมาให้ัสัมภาษณ์กับทุกท่านค่ะ
ส่วนตัวคิดว่า การที่จะวิจารณ์คนกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เหมือนกับ ที่โทเด็ง (東電 บริษัทไฟฟ้าของญี่ปุ่นที่ดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิม่า) ถูกสังคมญี่ปุ่นประณามในปัจจุบัน เพราะโทเด็งเองก็ใช้ White Line ในการสื่อสารกับสังคมเหมือนกันค่ะ (Melt down ไปตั้งแต่วันแรกแล้วแต่กว่าจะมาบอกผ่านไปแล้วหนึ่งปี)
และบอร์ดผู้บริหารของโทเด็งก็โดนกระแสบีบจากสังคมและออกมารับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรมคือ ยอมลดเงินเดือน ตัดโบนัส ทำงานฟรีจนกว่าจะเสร็จสิ้นงาน และสุดท้ายก็ลาออกรับผิดชอบ
สุดท้ายผ่านไปสองปี ปัญหายังแก้ไม่ได้ ผู้คนในพื้นที่เดือดร้อน รัฐบาลและตัวโทเด็งเองก็ต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหายประเมินค่าไม่ได้ และโทเด็งเองก็โดนข้อหาปกปิดข้ัอมูลเช่นเดียวกับรัฐบาลของอดีตนายกคัง
>>อยากสอบถามว่า เห็นอย่างนี้แล้ว กรณีน้ำมันรั่วในครั้งนี้ CSR ของบริษัทผู้รับผิดชอบจะยังคงเลือกใช้ White Line เช่นเดียวกับโทเด็งของญี่ปุ่นอีกหรือคะ?
ออกมารับความจริงว่ามันรุนแรงขนาดไหน? แก้ไขไม่ได้ต้องขอความร่วมมือจากประเทศไหน?
ไม่ใช่ออกมาบอกว่า
ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
วัฒนธรรม White Lie กับการให้สัมภาษณ์ทีวี
"มันเป็นของธรรมชาติ" "จัดการได้"
โดยผู้ให้สัมภาษณ์ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมถึง
1. การใช้สารเคมีในกรณีที่ทะเลไม่ลึก จะเป็นปัญหาในระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอย่างไร และหากเป็นเช่นนั้นจะมีวิธีแก้ไขฟื้นฟูอย่างไร
2. จะมีการชดใช้ให้กับผู้ที่จะเสียหายในระยะยาว (5 - 10 ปีขึ้นไป) อย่างไร
3. แผนการจัดเก็บคราบน้ำมันที่เป็นรูปธรรมและทำได้จริง (ไม่ใช่บอกว่า 3 วันจัดการได้) สมมุติ 3 วันจัดการได้แค่ผิวหน้า แล้วในทะเลจะเป็นอย่างไร
ในขณะเดียวกันคนกลุ่มหนึ่งก็ออกมาบอกว่า ควรให้กำลังใจคนทำงาน
ถูกค่ะ ควรให้กำลังใจคนทำงาน เหมือนกรณีคนที่ไปลงพื้นที่จริงๆ ที่โรงไฟฟ้าฟุคุชิม่า
แต่เราควรจะต้องเรียกร้องค่าเสียหาย จากความประมาทที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ (อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดแต่ถ้าเกิดผู้ที่ทำต้องรับผิดชอบ) ด้วยการจ่ายค่าเสียหาย การจัดการฟื้นฟู การอธิบายให้กับสังคม ซึ่งคนทำทั้งหมดนี้ คือคนที่นั่งเก้าอี้สั่งการ และออกมาให้ัสัมภาษณ์กับทุกท่านค่ะ
ส่วนตัวคิดว่า การที่จะวิจารณ์คนกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เหมือนกับ ที่โทเด็ง (東電 บริษัทไฟฟ้าของญี่ปุ่นที่ดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิม่า) ถูกสังคมญี่ปุ่นประณามในปัจจุบัน เพราะโทเด็งเองก็ใช้ White Line ในการสื่อสารกับสังคมเหมือนกันค่ะ (Melt down ไปตั้งแต่วันแรกแล้วแต่กว่าจะมาบอกผ่านไปแล้วหนึ่งปี)
และบอร์ดผู้บริหารของโทเด็งก็โดนกระแสบีบจากสังคมและออกมารับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรมคือ ยอมลดเงินเดือน ตัดโบนัส ทำงานฟรีจนกว่าจะเสร็จสิ้นงาน และสุดท้ายก็ลาออกรับผิดชอบ
สุดท้ายผ่านไปสองปี ปัญหายังแก้ไม่ได้ ผู้คนในพื้นที่เดือดร้อน รัฐบาลและตัวโทเด็งเองก็ต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหายประเมินค่าไม่ได้ และโทเด็งเองก็โดนข้อหาปกปิดข้ัอมูลเช่นเดียวกับรัฐบาลของอดีตนายกคัง
>>อยากสอบถามว่า เห็นอย่างนี้แล้ว กรณีน้ำมันรั่วในครั้งนี้ CSR ของบริษัทผู้รับผิดชอบจะยังคงเลือกใช้ White Line เช่นเดียวกับโทเด็งของญี่ปุ่นอีกหรือคะ?
ออกมารับความจริงว่ามันรุนแรงขนาดไหน? แก้ไขไม่ได้ต้องขอความร่วมมือจากประเทศไหน?
ไม่ใช่ออกมาบอกว่า ไม่ใช่ปัญหาใหญ่